รองโฆษก ทบ.แจง ผบ.เหล่าทัพไม่อาจแสดงความเห็นทางการเมืองมากไป หนุนสันติวิธี วอนระวังการเสนอนำสู่ความขัดแย้ง ย้ำอยู่ 2 สถานะ เป็น จนท.รัฐอยู่ใต้ ศอ.รส.และต้องดูแล ปชช. แนะทุกฝ่ายอยู่ใต้ กม.เลี่ยงรุนแรง ขอให้เข้าใจ ตร.ทำหน้าที่ เสนาฯกรมรบพิเศษ 3 เผย ทหารรบพิเศษ “ไทย-จีน” 320 นาย ร่วมฝึก strike ครั้งที่ 4 ที่กองพันจู่โจม ลพบุรี เน้นความสัมพันธ์อันดีทหาร 2 ชาติ
วันนี้ (6 ธ.ค.) พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่ทางสังคมออนไลน์มีการวิพากษ์วิจารณ์ท่าทีของ ผบ.เหล่าทัพต่อสถานการณ์ทางการเมืองว่า ผบ.เหล่าทัพคงไม่อาจแสดงความเห็นใดๆ ในทางการเมืองได้มากเกินไป นอกจากการสนับสนุนให้มีการแก้ปัญหาให้ได้ด้วยสันติวิธี จึงอยากวิงวอนให้ทุกท่านใช้ความระมัดระวังในการนำเสนอ ขอให้เข้าใจในความพยายามที่จะวางบทบาทขององค์กรให้เหมาะสมต่อสถานการณ์อย่างดีที่สุด และไม่ควรนำเสนอความเห็นในลักษณะที่จะนำไปสู่การสร้างความขัดแย้ง โดยเฉพาะการสร้างความเข้าใจที่ผิดให้แก่ประชาชนและสังคมโดยทั่วไป ทั้งนี้กองทัพมี 2 สถานะ คือ ต้องเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่มีกรอบกำหนดตามระบบบริหารราชการของประเทศ โดยเฉพาะต่อสถานการณ์ปัจจุบันส่วนหนึ่งคงต้องอยู่ภายใต้ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) มีหน้าที่ปฏิบัติรักษากฎหมาย และอีกสถานะหนึ่งต้องเป็นกองทัพของประชาชนในการที่จะดูแลประชาชน ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยให้เกิดขึ้นกับประเทศชาติและประชาชน
“อยากให้ทุกคน ทุกฝ่ายดำเนินการใดๆ ด้วยความเรียบร้อยภายใต้กรอบของกฎหมาย หลีกเลี่ยงความรุนแรง ให้เกียรติซึ่งกันและกัน องค์กรทุกองค์กรล้วนมีความสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทย ทุกคนต่างต้องปฏิบัติตามหน้าที่ตามความรับผิดชอบให้ได้ดีที่สุด โดยเฉพาะขอให้เข้าใจเห็นใจการทำงานเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย และขอเรียนว่า สถานที่ราชการต่างๆ สร้างจากภาษีประชาชนทั้งประเทศอยาก ให้ช่วยกันดูแล ไม่อยากให้เกิดความเสียหายใดๆ” รองโฆษกกองทัพบก กล่าว
ด้าน พ.อ.สรรวิชญ์ ภูมิทักษ์วงศ์ เสนาธิการกรมรบพิเศษที่ 3 เปิดเผยว่า กองทัพบกไทย และ กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ได้จัดการฝึกผสมหน่วยรบพิเศษไทย-จีน รหัส STRIKE 2013 ครั้งที่ 4 ที่ประเทศไทย โดยใช้พื้นที่การฝึกบริเวณกองพันจู่โจม และพื้นที่ใกล้เคียงใน จ.ลพบุรี สำหรับพิธีเปิดจะจัดขึ้นในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.ที่อาคารคงสมพงษ์ กองพลรบพิเศษ โดยมี พล.ท.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ผบ.นสศ.) เป็นประธาน และจะมีการแถลงข่าวร่วมกันของทั้งสองฝ่ายด้วย
พ.อ.สรรรวิชญ์ กล่าวว่า การฝึกดังกล่าวเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และพัฒนาขีดความสามารถด้านการฝึกและการปฏิบัติการพิเศษของหน่วยรบพิเศษของทั้งสองประเทศ เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยรบพิเศษของไทย และสาธารณรัฐประชาชนจีน สำหรับการจัดกำลังเข้าทำการฝึกฝ่ายจีน จัดกำลัง รวม 135 นาย ประกอบด้วย ส่วนบังคับบัญชาและฝ่ายอำนวยการ จากภูมิภาคทหารกวางโจว จำนวน 20 นาย หน่วยทางยุทธวิธี จากกองพล ผสมที่ 12 จำนวน 98 นาย หน่วยบิน MI - 171 จำนวน 3 ลำ พร้อมกำลังพล จำนวน 12 นายส่วนสนับสนุนการฝึก จำนวน 27 นาย
ฝ่ายไทย จัดกำลัง รวม 185 นาย ประกอบด้วย ส่วนบังคับบัญชาและฝ่ายอำนวยการ จาก กองพลรบพิเศษที่ 1 จำนวน 15 นาย หน่วยทางยุทธวิธี จาก กรมรบพิเศษที่ 3 จำนวน 85 นาย หน่วยบินจาก ศบบ. MI - 17 จำนวน 3 ลำ พร้อมกำลังพล จำนวน 15 นาย ส่วนสนับสนุนการฝึก จำนวน 70 นาย ส่วนการฝึกแก้ปัญหาที่บังคับการ แบ่งเป็นส่วนบังคับบัญชา การฝึกแลกเปลี่ยนสำหรับหน่วยทางยุทธวิธี ได้แก่ การต่อต้านการก่อการร้าย การลาดตระเวน การเฝ้าตรวจการฝึกพลซุ่มยิง การกระโดดร่มทางยุทธวิธี ทั้งนี้ การฝึกภาคสนาม ระยะเวลาในการฝึก จำนวน 2 สัปดาห์ (14 วัน) โดยแบ่งเป็น 2 ห้วง คือ การฝึกแลกเปลี่ยนในภาคที่ตั้งจำนวน 9 วัน การฝึกภาคสนามจำนวน 5 วัน
สำหรับ การฝึกผสมหน่วยรบพิเศษ ไทย-จีน มีขึ้นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2550 ระหว่างกองทัพบกไทยกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ภายใต้รหัสการฝึกชื่อว่า STRIKE 2007 ณ เมืองกวางโจว ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน การฝึกในปีนี้เป็นการฝึกครั้งที่ 4 ซึ่งฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพในการฝึก