กระบอกเสียงรัฐบาล เผย ผบ.กองกำลังสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นแปซิฟิก ชม “นายกฯ ยิ่งลักษณ์” อดกลั้นไม่ใช่ความรุนแรงแก้ปัญหาการเมือง พร้อมสนับสนุนแนวทางหลักประชาธิปไตย ด้าน “ปู” ย้ำพร้อมเจรจากับทุกฝ่ายเพื่อหาทางออก
นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.ร.อ.แซมมวล เจ. ล็อคเกลียร์ ที่ 3 ผู้บัญชาการกองบัญชาการสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นแปซิฟิก เข้าเยี่ยมคารวะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสที่เดินทางเยือนประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมฉลองความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ครบ 180 ปี และส่งเสริมความสัมพันธ์ทางทหารระหว่าง 2 ประเทศ
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวต้อนรับผู้บัญชาการกองบัญชาการสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นแปซิฟิก และคณะสู่ประเทศไทย และกล่าวขอบคุณไปยังประธานาธิบดีโอบามา ที่ได้ส่งสาส์นถวายพระพรเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยทั้ง 2 ฝ่ายพร้อมส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทย และสหรัฐฯ ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ไทยถือเป็นพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯ ในภูมิภาค
ผู้บัญชาการกองบัญชาการสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นแปซิฟิก กล่าวชื่นชมนายกรัฐมนตรีที่ใช้ความอดทนอดกลั้น และไม่ใช้ความรุนแรงต่อเหตุการณ์ทางการเมืองในประเทศ พร้อมสนับสนุนแนวทางหลักประชาธิปไตย
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันที่จะใช้สันติวิธี และจะปฏิบัติตามหลักการของระบอบประชาธิปไตยในการแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ รัฐบาลยังยินดีที่จะเปิดการเจรจากับทุกฝ่ายเพื่อหาทางออก
ด้าน นางคริสตี้ เอ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ที่ได้ร่วมเข้าคารวะนายกรัฐมนตรีด้วย ได้กล่าวชื่นชมบทบาทความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีในช่วงวิกฤต และเห็นว่าการเจรจาพูดคุยกันมีความสำคัญที่สุด ทั้งนี้ เมื่อผ่านวันมหามงคล 5 ธันวาคมไปแล้วทุกฝ่ายน่าจะมาหาทางออกร่วมกัน
เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ยังได้กล่าวชื่นชมความอดทนอดกลั้นของรัฐบาล และตำรวจในการดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำว่าจะยังไม่มีการประกาศใช้พระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยจะยังมอบหน้าที่การดูแลความสงบเรียบร้อยต่อไป
นอกจากนี้ ไทยมองว่า สหรัฐฯ เป็นเสาหลักที่สำคัญของความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งผู้บัญชาการกองบัญชาการสหรัฐฯ พร้อมที่จะทำงานร่วมกับไทยทุกเวที รวมถึงการฝึกคอบร้าโกลด์ ที่เป็นการฝึกร่วมที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศเห็นพ้องต้องกันในการใช้กองกำลังเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และบรรเทาภัยพิบัติทางธรรมชาติในภูมิภาคอีกด้วย