ม็อบ กปปส.-คปท. ยังอยู่ในที่ตั้ง ตำรวจโร่สอบเหตุแว๊นปาบึ้มใส่ม็อบวันพ่อ เผยโจ๋-การ์ดเจ็บข้างละ 1 ยังเชื่อไม่เกี่ยวการเมือง จ่อเช็กวงจรปิด “เอกนัฏ” สรุปเหตุที่คลังการ์ดถูกยิง 1 ชี้ตั้งแต่ “สุรพงษ์” คุม ศอ.รส.รัฐเริ่มยั่วยุเพิ่ม ลั่นชุมนุมอหิงสาไม่ตอบโต้ จี้เลิกข่มขู่ประชาชน เผยพ่อขึ้นเวที 19.30 น.
เมื่อเวลา 09.30 น. มวลชนทุกกลุ่มของ กปปส. 3 เวที ราชดำเนิน กระทรวงคลัง ศูนย์ราชการ และ คปท. ยังอยู่ในที่ตั้ง ยังไม่เผยแผนเคลื่อนมวลชน นายถาวร เสนเนียม เผยวันนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส.จะแถลงแนวทางของกลุ่มหลังจากนี้ แย้มเกมจบ 8 ธ.ค. ในการขจัดระบอบทักษิณ และรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย การชุมนุม กปปส. ในช่วงเช้า ได้มีการขอมวลชนเพื่อไปเสริมยังเวทีการชุมนุมที่เวทีกระทรวงมหาดไทย จำนวน 100 คน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการระบุท่าทีที่ชัดเจนของแกนนำว่าการเคลื่อนไหวจากนี้จะเป็นไปในทิศทางใด ขณะที่บริเวณแยกคอกวัวได้มีเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด นิติเวชจากโรงพยาบาลตำรวจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน. ชนะสงคราม เข้าตรวจสอบในพื้นที่ดังกล่าว หลังจากเมื่อเวลาประมาณ 04.45 น. ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มวัยรุ่นปะทะกับการ์ด กปปส. โดยมีการขว้างปาระเบิดจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นพบชิ้นเนื้อ และรอยเลือด รวมถึงปลอกกระสุน
โดย พ.ต.อ.ฐิรวิทร์ บุษบัน พนักงานสอบสวนชำนาญการ สน.ชนะสงคราม เปิดเผยว่า เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน โดยเป็นการ์ดรักษาความปลอดภัยเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน จำนวน 1 คน และกลุ่มวัยรุ่นที่เข้ามาก่อกวนบริเวณดังกล่าว จำนวน 1 คน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า เป็นการมาก่อกวนของกลุ่มวัยรุ่นมากกว่าจะเกี่ยวข้องกับทางการเมือง และจากการสอบสวนล่าสุด ยังไม่ทราบชนิดของระเบิดที่ใช้ก่อเหตุ เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจากการสอบปากคำของผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า มีกลุ่มวัยรุ่นขับรถจักรยานยนตร์เข้ามาก่อกวนถึง 3 รอบ โดยครั้งที่ 3 ได้มีการปะทะกันระหว่างการ์ดผู้ชุมนุมกับกลุ่มวัยรุ่น ส่งผลให้การ์ดผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บสาหัสที่แขนซ้าย ซึ่งขณะนี้ได้เข้ารักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลกลาง ส่วนกลุ่มวัยรุ่นโดนแทงที่ซี่โครงซ้าย ได้เข้ารักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลวชิระ
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจากกรุงเทพมหานครที่บริเวณแยกคอกวัว และคาดว่าจะสามารถคลี่คลายคดีได้เร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีแกนนำกลุ่ม กปปส. เดินทางเข้ามาที่เวทีแต่อย่างใด จึงไม่ทราบว่าจะมีการยกระดับ หรือมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างไร
ด้าน นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. แถลงถึงเหตุก่อกวนการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. เมื่อคืนวันที่ 5 ธ.ค และเช้ามืดวันที่ 6 ธ.ค.ว่า ที่กระทรวงการคลัง เกิดเหตุคืนวันที่ 5 ธ.ค. เวลา 22.00 น. มีการโยนประทัดยักษ์บริเวณสะพานข้างคลองประปา มีการใช้รถมอเตอร์ไซค์ 40 คันเข้าก่อกวน และมีการยิงปืนเข้าไปที่การ์ดของผู้ชุมนุม 4 นัด ทำให้อาสาสมัคร 1 ราย ได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้าย ขณะที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ช่วงเวลา 05.00 น. ของวันนี้ มีการโยนประทัดยักษ์ที่บริเวณสี่แยกคอกวัว แสดงให้เห็นว่า ขณะนี้มีขบวนการที่พยายามจะลด และบั่นทอนกำลังผู้ชุมนุม สร้างความหวาดกลัว สร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงขึ้น
นายเอกนัฏ กล่าวว่า สังเกตได้จากนับตั้งแต่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้ามารับผิดชอบดูแลสถานการณ์การชุมนุม ก็เริ่มมีการใส่ร้ายผู้ชุมนุม ข่มขู่หมอ พยาบาล ที่เข้ามาดูแลผู้ชุมนุม และพยายามเข้าก่อกวน คู่ขนานกับการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังเกินกว่าเหตุกับผู้ชุมนุมทั้งที่ บช.น. และทำเนียบรัฐบาล ด้วยการยิ่งแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ชุมนุม ใช้กระสุนยาง ถือเป็นความพยายามของรัฐบาลที่จะสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงยั่วยุให้ประชาชนตอบโต้เพื่อนำกำลังเข้าปราบปรามประชาชน แต่ยืนยันว่าเราจะไม่ตอบโต้ ยังคงยึดชุมนุมโดยสงบ อหิงสา ปราศจากอาวุธ โดยการ์ดของผู้ชุมนุมีความเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยอยู่แล้ว แต่ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ได้มีการดูแลให้เข้มข้นด้วย
“ย้ำกับรัฐบาล ทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายสุรพงษ์ วันนี้ประชาชนไม่กลัวอีกแล้ว และไม่หลงกล เราชุมนุมโดยสงบ อสิงหา ปราศจากอาวุธ เราจะไม่ไปตอบโต้ผู้ที่มาก่อกวน เราจะต่อสู้จนกว่าบรรลุเป้าหมายขจัดระบอบทักษิณออกไป และปฎิรูประเทศให้เป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่สมบูรณ์” นายเอกนัฏ กล่าว
นายเอกนัฎ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายสุรพงษ์ เตรียมที่จะปิดสถานีโทรทัศน์บลูสกาย ว่าเป็นเรื่องของรัฐบาล และบลูสกาย แต่ทางสถานีโทรทัศน์ช่องดังกล่าวก็ได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่ากำลังเผยแพร่การเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของประชาชนในฐานะที่เป็นสื่อช่องทางหนึ่ง ดังนั้น จึงขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐหากจะบังคับใช้กฎหมายก็ให้ใช้อย่างยุติธรรม เลิกกุข่าวใส่ร้ายประชาชน โดยเฉพาะ นายสุรพงษ์ ควรเลิกใช้ถ้อยคำก้าวร้าว ข่มขู่ไปถึงประชาชน และที่ระบุว่าจะดำเนินการตามหมายจับกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. นั้น นายสุเทพ พูดชัดแล้วว่าไม่หนี หากเสร็จภารกิจนำชัยชนะมาให้ประชาชนแล้วก็จะมอบตัวสู้คดี รวมถึงหมายจับมีเวลา 10 ปี แต่หากรัฐบาลต้องการจับก็ขอให้เข้ามาจับได้เลย และในวันนี้เวลา 19.30 น. นายสุเทพ ก็จะอ่านแถลงการณ์ท่าที่การเคลื่อนไหวที่สำคัญของ กปปส. ต่อมวลชนด้วย และกรณีที่จะสั่ง กทม.ให้งดให้ความช่วยเหลือเรื่องรถสุขานั้น เห็นว่า กทม.มีหน้าที่มีหน้าที่ดูแลเรื่องสาธารณสุขของผู้ชุมนุมอยู่แล้ว และในอดีตมีการชุมนุมของกลุ่มการเมืองต่างๆ กทม.ก็ดำเนินการอำนวยความสะดวกเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว ต้องถามรัฐบาลว่ามีสิทธิอะไรที่จะมาก่อกวนผู้ชุมนุม เหมือนเมื่อรัฐบาลกำลังจะแพ้ก็ทำตัวเป็นอันธพาล แล้วก็พาลไปทั่ว
