มวลชนศูนย์ราชการขนสมทบทัพ สตช. หาซื้อเสื้อเหลืองสวม “เอกนัฏ” ไม่เชื่อนายกฯ จริงใจปฏิรูป ชี้เจรจาแค่กลลวง แย้มบ่าย 3 แถลงข่าวจัดงานวันพ่อยิ่งใหญ่ ยันทำตามมาตรา 7 ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ
วันนี้ (4 ธ.ค.) ที่เวที กปปส. ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ตั้งแต่เช้าก็ได้เริ่มมีการระดมมวลชนขึ้นรถกระบะเพื่อเดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ได้ประกาศบนเวทีปราศรัยเมื่อคืนที่ผ่านมา (3 ธ.ค.) ว่าวันนี้จะต้องบุกยึดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. ให้ได้ในช่วงบ่าย ส่วนผู้ชุมนุมที่ไม่ได้เดินทางไปก็ได้ปฏิบัติภารกิจส่วนตัวประจำตัวตามปกติ และพบว่าผู้ชุมนุมบางคนได้เริ่มเดินหาซื้อเสื้อสีเหลืองมาสวมใส่ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคมด้วย
ด้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส.กล่าวว่า กรณีที่นายกรัฐมนตรีเสนอเปิดเวทีระดมความเห็นปฏิรูปการเมืองนั้นไม่เชื่อว่านายกฯ จะจริงใจในการจัดเวทีดังกล่าว เพราะนายกฯ โกหกประชาชนตลอดเวลา และการเปิดเจรจาจึงเป็นเพียงกลลวง เล่นละครตบตาเพื่อยื้อเวลารักษาอำนาจของตัวเอง สังเกตได้จากก่อนการเลือกตั้งนายกฯ พูดว่าจะไม่ออกกฎหมายล้างผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อเข้ามาเป็นรัฐบาลก็กลับออกกฎหมายล้างผิดในที่สุด และนายกฯ ยังเป็นส่วนหนึ่งของระบอบทักษิณจึงเป็นไปไม่ได้ที่คนซื้อเสียง ทำทุจริต จะมาปฏิรูปไม่ให้นักการเมืองโกงกินแผ่นดิน
สำหรับการเคลื่อนไหวของ กปปส.วันนี้ นายถาวร เสนเนียม จะนำมวลชนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เดินเท้าไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อทวงถาม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจกรณีเกิดเหตุการรุนแรงที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ตำรวจนิ่งเฉยไม่ได้ดูแลความปลอภัยให้ประชาบนเลย จนทำให้ทหารต้องออกมาช่วยประชาชน รวมถึงการปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมเกินกว่าเหตุ เช่น มีการใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมในขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมยังนั่งอยู่เฉยๆ การใช้กระสุนยาง ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมด่าทอผู้ชุมนุม หรือการใช้สารเคมีผสมในแก๊สน้ำตายิงเข้าใส่ผู้ชุมนุม ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดกับหลักปฏิบัติสากล อีกทั้งยังสงสัยว่ามีการใช้กระสุนจริง การยิงหนังสติ๊กพ่วงนอตเข้าใส่ผู้ชุมนุม ทั้งที่กลุ่มผู้ชุมนุมไปกระทำทุกอย่างโดยสงบ อหิงสา และปราศจากการใช้อาวุธ
นอกจากนี้ ทางกลุ่ม กปปส.จะจัดงานเฉลิมฉลองพระเกียรติ 5 ธ.ค.อย่างยิ่งใหญ่แน่นอน ซึ่งจะแถลงข่าวการจัดงานเฉลิมฉลองอีกครั้งในเวลา 15.00 น. และขณะนี้เวทีที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยได้จัดทำความสะอาดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนการปราศรัยบนเวทีนั้นก็จะมีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เป็นการเตรียมความพร้อมจัดงานเฉลิมฉลองพระเกียรติ 5 ธ.ค. ซึ่งหลังเฉลิมฉลอง 5 ธันวาฯ แล้วจะสู้ต่อไปจนกว่าประชาชนจะได้รับชัยชนะ เพื่อขจัดระบอบทักษิณให้หมดไป โดยการที่ประชาชนสามารถบุกเข้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และทำเนียบรัฐบาลได้นั้น ก็ถือว่าได้รับชัยชนะในส่วนหนึ่งแล้ว
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์การขอนายกฯ พระราชทานตามมาตรา 7 ว่าไม่เป็นประชาธิปไตยนั้น นายเอกนัฏกล่าวว่า เป็นการกระทำตามประเพณีประชาธิปไตย ไม่ขัดต่อหลักรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด และเห็นว่าก่อนหน้านี้ทางกลุ่มของนายกฯ และ 312 ส.ส.และ ส.ว.ออกมาปฏิเสธไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 216 แต่ขณะนี้กลับมากล่าวหาว่าผู้ชุมนุมทำขัดรัฐธรรมนูญ ตนก็แปลกใจว่ารัฐบาลปฏิเสธรัฐธรรมนูญ แต่ก็ยังอ้างรัฐธรรมนูญ อ้างประชาธิปไตย เป็นสิ่งที่ขัดกันอย่างเห็นได้ชัด