xs
xsm
sm
md
lg

"สุเทพ" ไม่เลิกม็อบ!! "ชูวิทย์" ซวยโผล่ทำเนียบเจอ "เจ๊ปอง" สั่งมวลชนไล่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เกาะติดสถานการณ์การชุมนุม! แกนนำ กปปส.เคลื่อนขบวนประชาชนจาก บช.น.เข้าแวะนั่งพัก พร้อมประกาศฉลองชัยในทำเนียบรัฐบาล ขณะมวลชน คปท.จากแยกนางเลิ้งเข้าสมทบ ก่อนสั่งเคลื่อนขบวนออก มอบพื้นที่ให้ จนท.ดูแลต่อไป



วันนี้ (3 ธ.ค.) ที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ เมื่อเวลา 09.29 น. การชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ตึงเครียดแต่เช้า เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ระดมยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมที่อยู่ในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครอย่างต่อเนื่อง ทำให้มวลชนที่อยู่ในมหาวิทยาลัยต้องถอยร่นออกมา ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง ว่าจะยอมให้ผู้ชุมนุมเข้าพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลแต่โดยดี โดยให้มวลชนถอยห่างจากแนว 100 เมตร และฟังสัญญาณ โดยเจ้าหน้าที่ก็จะยุติการยิงแก๊สน้ำตา และถอยห่างเช่นกัน แต่จนถึงขณะนี้พบว่ายังคงมีการยิงแก๊สน้ำตาในมหาวิทยาลัยต่อเนื่อง ซึ่งจุดที่แก๊สน้ำตาลงใกล้สุด คือ บริเวณประตูทางเข้าคณะบริหาร ซึ่งอยู่ติดด้านหลังเวทีปราศรัย คปท. ทั้งนี้ แรงระเบิดทำให้กระจกในอาคารแตกหลายแห่ง และทำให้มวลชนที่อยู่ในที่ตั้งต่างตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่รักษาคำพูดและทำร้ายประชาชน

เวลา 09.39 น. ที่แยก พล.1 ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งได้นำรถยกแท่งแบริเออร์ออกจากพื้นที่ ภายหลังตำรวจยอมเปิดทาง โดยมีตำรวจบางนายอำนวยความสะดวกให้ ขณะที่มวลชนส่วนใหญ่ยังคงอยู่บริเวณสี่แยก ไม่ได้เข้าไปภายใน

เวลา 09.42 น. ที่สะพานชมัยมรุเชฐ ตำรวจที่ประจำแนวแบริเออร์ ได้ถอนกำลังและตั้งแถวห่างจากแนว 100 เมตรแล้ว ขณะที่แยกเทวกรรม มีรายงานว่า ตำรวจเริ่มยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมอีกรอบ ทั้งนี้พบว่ามีตำรวจอยู่บนหลังคาตึกบัญชาการ 1 คอยสังเกตการณ์อยู่ด้วย

เวลา 09.50 น. ที่แยกเทวกรรม มีรายงานว่า มวลชนบางส่วนเข้าไปในเขตทำเนียบทางสะพานอรทัยแล้ว ขณะที่ล่าสุดยังมีเสียงระเบิดประปรายในพื้นที่ โดยพบว่าตำรวจได้ถอยเข้าไปอยู่ในรั้ว แต่ยังไม่ถอดกำลังบางส่วนพ้นพื้นที่

เวลา 09.57 น. ที่แยก พล.1 นายชุมพล จุลใส แกนนำ ประกาศปราศรัยไม่เข้าอาคาร บช.น.ก็ได้ขอให้ได้นั่งแถวด้านหน้า บช.น. วันนี้ถือว่าเราไม่มีอะไรต่อกัน ตำรวจจะเปิดแถวแบริเออร์หมดเลยก็ได้

เวลา 10.05 น. ที่เวทีราชดำเนิน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส.กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจะบุกเข้าไปจับกุมนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ตามหมายจับศาลอาญา จึงขอให้มวลชนไปรวมตัวเพื่อขัดขวางการกระทำของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ นายสุเทพได้โทรศัพท์เข้ามาแจ้งให้ทราบเมื่อสักครู่นี้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังระดมกำลังเพื่อบุกเข้ามาจับกุมตัว หากเจ้าหน้าที่จับนายสุเทพจริงแล้ว มวลชนสามารถยึด บช.น.ได้ก่อนเที่ยง บชน.ก็อยู่ใกล้ทำเนียบฯ มาก อย่าบังคับให้เราต้องทำ

เวลา 10.08 น. ที่สะพานชมัยมรุเชฐ มวลชนปีนแนวกั้นแบริเออร์เข้าไปภายในพื้นที่ ถ.พิษณุโลก หน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ได้แล้ว บางส่วนก็ทยอยรื้อแท่งแนวกั้น ขณะที่ตำรวจถอยร่นกว่า 100 เมตร

เวลา 10.35 น. ที่แยก พล.1 นายถาวร เสนเนียม แกนนำผู้ชุมนุม พล.ต.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้า บช.น. ขอให้ตำรวจต้องเปิดทางให้มวลชนถึงแยกลานพระรูปทรงม้า และเลี้ยวขวาออกแยกวังแดง ด้านตำรวจยอมให้ผ่าน แต่อยู่ระหว่างการเคลื่อนย้ายแบริเออร์ออกจากพื้นที่

เวลา 10.43 น. ที่ ถ.พิษณุโลก หน้าทำเนียบรัฐบาล ผู้ชุมนุมยังคงไม่ได้เข้าไปในพื้นที่ ตามที่แกนนำได้ประกาศไม่ให้เข้าตัวอาคารและไม่ให้ทำลายทรัพย์สินของราชการ ในส่วนของผู้ชุมนุมกลุ่มใหญ่ที่อยู่ด้านเวทีแยกนางเลิ้งของเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นั้นยังไม่ได้ข้ามแนวแบริเออร์มาในพื้นที่ถนนพิษณุโลก โดยรอเข้ามาพร้อมรถขยายเสียงของแกนนำ ที่รอให้การ์ดอาสาดำเนินการยกแบริเออร์และตัดรั้วลวดหนามให้เรียบร้อยก่อน โดยมีการแจ้งว่าตำรวจจะมาช่วยเคลียร์พื้นที่ดังกล่าวด้วย

ส่วนภายในทำเนียบ พบตำรวจหลายกองร้อยนั่งพักผ่อนอยู่ภายใน ขณะที่ด้านนอกผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ได้เข้าไปทักทายและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับตำรวจ ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น เต็มไปด้วยรอยยิ้มทั้งฝ่ายผู้ชุมนุมและตำรวจ

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบบริเวณเชิงสะพานอรทัย พบรถบรรทุกแก๊สติดตรากรมราชทัณฑ์ถูกเผาอยู่ 1 คันแต่ไม่ระเบิด และยังพบรถคุมขังของตำรวจถูกเผาและทำลายอีกหลายคันในบริเวณเดียวกัน นอกจากนี้ หลังแนวแบริเออร์ที่ตำรวจเคยประจำอยู่ก็มีการราดน้ำมันบนพื้น และยังพบปอกกระสุนไม่ทราบชนิดอีกจำนวนมากด้วย โดยผู้ชุมนุมได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

“สุเทพ” ลั่นไม่หนี ศูนย์ราชการเร่งป้อง ตร.บุกจับ - ระทึก คปท.พบวัตถุคล้ายบึ้มซุกหลังแบริเออร์ - “ยิ่งลักษณ์” บินถวายพระพร

เวลา 10.46 น. ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ บรรยากาศการชุมนุมมีการคุมเข้มตรวจตราหลังมีข่าวตำรวจจะเข้าจับกุมนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ส่วนนายสุเทพ ภายหลังที่ได้หารือกับนายเอกนัฏ พร้อมพันธ์ บุตรชาย และหลวงพ่อพุทธะอิสระแล้วก็ได้ออกมาทักทายมวลชน พร้อมระบุตนไม่หนี และไม่กังวลที่จะมีตำรวจมาบุกจับ ส่วนที่ พล.ต.อ.คำรณวิทย์ เปิด บช.น.ให้มวลชนเข้าไป เป็นเพราะตำรวจพ่ายแพ้แล้ว

ด้านนายเอกนัฏแถลงว่า นายสุเทพได้แจ้งต่อแกนนำว่าจะทำงานให้บ้านเมืองจนสำเร็จเพื่อขจัดระบอบทักษิณ และเมื่อเสร็จภารกิจแล้วจะไม่กลับไปเล่นการเมือง ไม่กลับไปพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคการเมืองไหนอีก วันนี้ได้เก็บของและจะคืนห้องให้พรรคประชาธิปัตย์แล้ว โดยขณะนี้ได้รับแจ้งว่ากำลังมีกองกำลังตำรวจมาจับกุมนายสุเทพ ซึ่งประชาชนทุกคนก็ยืนยันว่าไม่หนีไปไหน หากตำรวจจะจับก็จับไปให้หมด ทั้งนี้ยังเป็นห่วง เพราะมีคนบาดเจ็บจากกระสุนจริง และท่าทีของนายตำรวจ และแม้จะเปิดกองบัญชาการตำรวจนครบาลให้ประชาชนเข้าก็ยังไม่วางใจ

เวลา 11.35 น. มีรายงานว่า การ์ด คปท.พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดบริเวณสะพานอรทัย การ์ดจึงนำมาวางไว้ที่ลานจอดรถภายในราชมงคลพระนคร กันคนออกจากพื้นที่ รอเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ

เวลา 11.45 น. ที่สโมสรกองทัพบก ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม ครม. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ และไม่มีการแถลงกับสื่อมวลชน โดยเตรียมเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปยังวังไกลกังวล อ.หัวหิน เพื่อเข้าเฝ้าฯ ถวายพระพร เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ตามกำหนดการเดิม

เวลา 11.50 น. ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจที่ประจำการหน้า บช.น.ตั้งแถวสองข้างทางพร้อมปรบมือต้อนรับผู้ชุมนุมที่เคลื่อนขบวนผ่านพร้อมมอบกุหลาบให้ผู้ชุมนุม ขณะที่ตำรวจหญิงก็ร่วมตั้งแถวก่อนถึงแยกลานพระรูปทรงม้า เพื่อรอมอบดอกไม้แก่ผู้ชุมนุมเช่นกัน ทั้งนี้ พบการ์ดผู้ชุมนุมบางส่วนเดินเข้าขอโทษตำรวจที่อาจกระทำล่วงเกิน พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่มีอคติกับตำรวจ แต่ทำเพื่อชาติ

เวลา 11.52 น. ที่ศูนย์ราชการ ผู้ชุมนุมมีการนำรถมาขวางทางเข้าออก ภายหลังกระแสข่าวตำรวจจะบุกเข้าขอคืนพื้นที่และจับกุมนายสุเทพ ขณะเดียวกัน ภายในศูนย์ราชการก็ได้มีการซักซ้อมจัดการเตรียมรับมือด้วย ทางด้านนายสุเทพยังยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี เดินถ่ายรูปร่วมกับมวลชน ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบบนถนนแจ้งวัฒนะ จากปากเกร็ดมุ่งหน้าวิภาวดี ไม่ได้มีการปิดการจราจร แต่ฝั่งขาเข้าจากวิภาวดีเข้าแจ้งวัฒนะ 3 เลนด้านซ้ายที่ติดหน้าศูนย์ราชการมีการนำรถมาปิดกั้นป้องกันตำรวจบุก แต่ 2 เลนถัดออกไปยังสามารถใช้การได้ แต่เนื่องจากข้าราชการส่วนใหญ่ภายในศูนย์ไม่ได้มาปฏิบัติหน้าที่ ประกอบกับข่าวสารที่ออกไปทำให้มีการเลี่ยงการใช้เส้นทางนี้ ทำให้การจราจรยังสามารถเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ

เวลา 12.10 น. นายสาทิตย์ ขึ้นประกาศบนเวทีว่าประชาชนได้เข้าไปยังพื้นที่ บช.น. และทำเนียบรัฐบาลได้แล้ว ถือเป็นการเข้าไปยังศูนย์กลางอำนาจของรัฐบาลได้ ซึ่งชัยชนะของประชาชนได้มาแล้ว ดังนั้นขอให้ประชาชนออกจากบ้านเพื่อร่วมฉลองชัยชนะดังกล่าว ทั้งนี้ นายอิสระ สมชัย แกนนำ จะเป็นผู้นำคาราวานที่ประกอบด้วยรถกะบะ จำนวน 10 คัน วิ่งไปรอบๆ กทม. เพื่อประกาศชัยชนะ โดยมีจุดเริ่มต้นที่ศาลาว่าการกทม. และในช่วงเย็นจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองที่เวทีราชดำเนิน ขณะที่ประชาชนเมื่อได้ฟังข้อมูลดังกล่าวได้แสดงความดีใจ ด้วยการเป่านกหวีด, เคาะมือตบ, ปรบมือ และลุกขึ้นกระโดดอย่างดีใจ

เวลา 12.50 น. รถขยายเสียงของแกนนำ กปปส.นำโดย นายถาวร เสนเนียม นายชุมพล จุลใส พร้อมด้วย ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ นางรัชดาภรณ์ แก้วสนิท น.ส.รังสิมา รอดรัศมี และนางอาณิก อัมมระนันท์ รวมทั้งนักร้องชื่อดัง โตโน่-ภาคิน ได้นำมวลชนเข้าในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล โดยไม่มีการปะทะ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถอยกังออกไปจนเกือบหมดแล้ว โดยแกนนำได้ประกาศชัยชนะในการยึดทำเนียบ โดยไร้ความรุนแรง

สำหรับมวลชนที่ตามเข้ามาในพื้นที่ทำเนียบรัฐยาลด้วยนั้นเป็นผู้ชุมนุมจากเวทีราชดำเนินเป็นส่วนใหญ่ที่ผ่านแนวแบริเออร์ด้าน บช.น.เข้ามา ร่วมด้วยมวลชนจากเวทีแยกนางเลิ้งของเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) อย่างไรก็ตามแกนนำได้ประกาศห้ามไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าไปยังตัวอาคาร โดยจะใช้พื้นที่ทำเนียบรัฐบาลในการรับประทานอาหารกลางวัน ก่อนจะมอบพื้นที่ให้ทหารดูแลต่อไป

ทั้งนี้ผู้ชุมนุมได้เข้ามานั่งบริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู้ฟ้าจนเต็มพื้นที่ รับฟังการปราศรัยของแกนนำที่จอดรถอยู่บริเวณทางขึ้นตึกไทยคู้ฟ้า ท่ามกลางอากาศและแสงที่ร้อนอบอ้าว บางส่วนของผู้ชุมนุมได้กระจายนั่งพักผ่อนตามร่มไม้ และหลังอาคารจอดรถ หน้าตึกบัญชาการ 1 และห้องทำงานผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบ โดยยังไม่มีการบุกรุกเข้าตัวอาคาร หรือทำลายข้าวของแต่อย่างใด ในส่วนของตึกไทยคู่ฟ้านั้น ยังมีกำลังทหารและตำรวจประจำทำเนียบยืนรักษาการณ์อยู่หน้าประตู

เวลา 13.30 น.แกนนำได้ประกาศให้มวลชนทยอยออกจากพื้นที่ทำเนียบ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ทำการรักษาพื้นที่ต่อไป

"สุเทพ" ลั่นไม่เลิกม็อบ! ชี้ชัยชนะแค่ส่วนนึง -ราชดำเนินนัดล้างถนนพรุ่งนี้ - ม็อบฮือด่า "ชูวิทย์" หลัง "เจ๊ปอง" ไล่โผล่ร่วมยินดี

เวลา 13.07 น.ที่ศูนย์ราชการ นายสุเทพ ยังพักผ่อนอยู่ภายใน โดยมีการรับประทานอาหารร่วมกับนายเอกนัฏ และการ์ด จากนั้นพบว่าหน่วยพยาบาลมีการให้น้ำเกลือนายสุเทพ แจ้งว่าจะขึ้นปราศรัยบนเวทีภายในโถงชั้น 2 ของอาคารศูนย์ราชการเวลา 14.00 น.ถือเป็นครั้งแรกที่ปราศรัยบนเวทีดังกล่าว ซึ่งอาจเป็นเพราะมีกระแสข่าวว่ามีตำรวจแฝงตัวเข้ามาในหมู่ผู้ชุมนุม และตำรวจซุ่มในพื้นที่ใกล้เคียงเตรียมบุกเข้ามาภายในศูนย์ราชการเพื่อจับตัว รวมถึงนายสุเทพ มีอาการเหนื่อยอ่อน โดยเมื่อเช้าได้บอกกับมวลชนที่มาขอถ่ายภาพว่า ไม่อยากให้เข้าใกล้เพราะไม่ค่อยสบาย

เวลา 13.10 น.ที่เวทีราชดำเนิน การชุมนุมเป็นไปอย่างคึกคักท่ามกลางอากาศร้อน โดยนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ พิธีกรบนเวทีต่างประกาศชัยชนะอย่างต่อเนื่อง โดย นายสาทิตย์ ปราศรัยว่า ขอให้พี่น้องซาเล้งเข้ามาเก็บขยะได้ตั้งแต่เข้าวันที่ 4 ธ.ค.เป็นต้นไป และหลังจากเคารพธงชาติ ตอน 08.00 น. มวลมหาประชาชนเราจะร่วมทำความสะอาด บิ๊กคลีนนิ่งเดย์ โดยจะมี กทม.มาช่วยทำความสะอาดให้มากกว่าเดิมด้วย และวันที่ 5 ธ.ค. มวลมหาประชาชนที่ราชดำเนินและแจ้งวัฒนะจะร่วมจัดงานเฉลิมพระเกียรติอย่างยิ่งใหญ่ที่สุด

เวลา 13.45 น.ที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ในขณะที่แกนนำ กปปส.ได้ประกาศให้มวลชนออกจากพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล และมอบให้ คปท.ดูแลพื้นที่ต่อ รวมทั้งได้นำรถขยายเสียงออกจากพื้นที่แล้วนั้น ปรากฎว่านายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย ได้มาเดินให้กำลังใจผู้ชุมนุมและมีผุ้มาขอถ่ายภาพด้วยจำนวนมาก ทำให้ นางอัญชลีประกาศให้นายชูวิทย์ ออกมาจากทำเนียบ อย่ามาตีกินทั้งที่ไม่ได้ร่วมเหนื่อยกับประชาชน ส่งผลให้ผู้ชุมนุมจำนวนมากได้เข้าไปด่าทอและดึงให้นายชูวิทย์ ออกจากพื้นที่ โดยนายชูวิทย์ ได้ตะโกนตลอดเวลาว่า "ชัยชนะเป็นของประชาชน"

ทั้งนี้บางช่วงนายชูวิทย์ ก็ได้แสดงความไม่พอใจโดยผลักอกผู้ชุมนุมที่เข้ามาทำทีเหมือนจะทำร้าย ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างชุลมุน และมีการปาขวดน้ำและสาดน้ำใส่นายชูวิทย์ ตลอดเวลา การ์ดอาสาจึงต้องรีบนำตัวนายชูวิทย์ ออกไปจากทำเนียบอย่างยากลำบาก เพราะมีผู้ชุมนุมพยายามเขัามาด่าทออยู่ตลอดเวลา ซึ่งทางรถขยายเสียงและการ์ดอาสาได้พยายามขอความร่วมมือ เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรง และเป็นช่องให้มือที่ 3 สร้างสถานการณ์ จนท้ายที่สุดการ์ดต้องเข้าคล้องแขวนล้อมตัวนายชูวิทย์และนำเดินออกมา แต่ก็ยังมีการปาขวดน้ำเข้าใส่ประปราย ก่อนที่นายชูวิทย์ และผู้ติดตามจะขึ้นรถยนต์ออกไปทางถนนพระราม 5

เวลา 14.14 น.ที่ศูนย์ราชการ นายสุเทพ ขึ้นปราศรัยบนเวที ระบุชัยชนะวันนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง แต่ยังไม่เด็ดขาด รัฐบาลยังอยู่ยังกลับบ้านไม่ได้ต้องสู้ต่อไป ทั้งนี้ขอร้องผู้ชุมนุมหนักแน่นอย่าหวั่นไหวข่าวลือ

นายสุเทพ ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ที่ต้องออกจากทำเนียบรัฐบาลเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ที่รักษาการดูแลทำเนียบอยู่เป็นทหาร ไม่ใช่ตำรวจ แสดงว่าเขาอยากให้เราสู้กับทหาร ซึ่งเราไม่ต้องการ เราจึงถอนมวลชนออกไป เพื่อให้เกียรติทหารที่ดูแลพื้นที่อยู่

การ์ดรวบ 2 พม่าพกแผนที่ยูเอ็น,ทูตมะกัน,เอเอสทีวี - "สาทิตย์" เริ่มจัดวันพ่อพรุ่งนี้

เวลา 14.00 น.ที่เวทีราชดำเนิน การ์ดกปปส.ได้จับกุมชายฉกรรจ์ชาวพม่าได้ 2 คน หลังพบพิรุธที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ซึ่งจากการตรวจค้นตัวพบแผ่นกระดาษที่มีการวาดแผนที่องค์การสหประชาชาติ (UN) ถนนราชดำเนิน,สถานทูตสหรัฐอเมริกา ,เวทีราชดำเนินและสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี ทั้งนี้การ์ดกปปส.ได้นำตัวมาบริเวณด้านหลังเวที เพื่อทำการตรวจค้นอย่างละเอียดและซักถามข้อมูล แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือ ในการเปิดเผยข้อมูล เนื่องจากชายพม่าไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ จึงได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้นำตัวไปสืบสวนที่สถานีตำรวจอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

เวลา 14.59 น.นายสาทิตย์ กล่าวภายหลังที่นายสุเทพ แถลงจุดยืนที่ศูนย์ราชการว่า หลังจากการร่วมกันบิ๊กคลีนนิ่งเดย์เสร็จสิ้นแล้วในวันพรุ่งนี้ จะจัดเวทีเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันพ่อ 5 ธันวามหาราช และหลังจากวันที่ 5 ธ.ค.แกนนำจะประเมินสถานการณ์ว่าจะประกาศชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จอย่างไรต่อไป ในเย็นวันนี้เราจะฉลองชัยชนะในเบื้องต้นร่วมกัน นอกจากนี้ยังได้ทำการมอบ น้ำเกลือ ที่เหลือจากการรับบริจาคจากประชาชนมอบให้นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่ากทม. เพื่อนำไปมอบให้กับโรงพยาบาลสังกัดกทม.ทั้งหมดเพื่อนำไปใช้ในทางการแพทย์ต่อไปด้วย

ทบ.ปฏิเสธ “สถาบัน” มีส่วนเกี่ยวข้องทำม็อบสงบ วอนหยุดวิจารณ์

เวลา 17.00 น. พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบ กล่าวชี้แจงถึงการวิพากษ์วิจารณ์ทางสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการสถานการณ์การชุมนุมในวันที่ 3 ธ.ค.ที่เป็นไปด้วยความสงบว่า ทางกองทัพบกห่วงว่า ในขณะนี้ประชาชนได้ติดตามข่าวสารผ่านทางสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวางจึงขอเตือนให้ประชาชนได้ติดตามข่าวสารอย่างมีสติ การที่จะคิดหรือเชื่ออย่างใด ขอให้มีเหตุผล และตรวจสอบจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ เพราะข่าวหลายอย่างเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล หรือเผยแพร่ออกมาเพื่อตอบสนองตามที่ผู้ปล่อยข่าวมุ่งหวัง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสังคมและประเทศชาติเป็นส่วนรวม

ล่าสุดตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ที่มีการคาดเดาและเชื่อมโยงว่า เหตุการณ์การชุมนุมในช่วงเช้าวันที่ 3 ธ.ค. 56 เป็นไปด้วยความสงบเพราะสถาบันได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ทางกองทัพบกขอยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และใคร่ขอวิงวอนทุกส่วน อย่าได้วิพากษ์วิจารณ์หรือเสนอความคิดเห็นใดๆในลักษณะเชื่อมโยงสถาบันกับเหตุการณ์ทางการเมืองในทุกเรื่อง เพื่อมิให้เป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทและเป็นการแสดงให้เห็นถึงการเป็นพสกนิกรที่รักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์โดยแท้จริง

นายกฯ ชี้รอดูก่อนเข้าทำเนียบได้หรือไม่ พรุ่งนี้ไปหัวหินร่วมงานวันพ่อ

เวลา 18.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เดินลงจากห้องประชุม ศอ.รส. ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และได้ตอบคำถามสื่อมวลชนที่ว่า วันพรุ่งนี้ (4 ธ.ค.) จะเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ ว่า รอดูก่อน เข้าทำเนียบ ได้หรือไม่ และพรุ่งนี้ช่วงเย็ยจะเดินทางไป หัวหิน จ. ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อร่วมงานเนื่องในโอกาสวัน เฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556 และจะค้างคืนที่หัวหิน 1 คืนจนกระทั่งวันที่ 5 ธ.ค. หลังเสร็จสิ้นพิธีก็จะเดินทางกลับ

คปท.พร้อมเตรียมจัดงานมหามงคล 5 ธันวามหาราช ยันปักหลักชุมนุม จนกว่ารัฐบาลยุติอำนาจ

เวลา 18.00 น. นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท. เปิดเผยว่า หลังจากนี้ คปท.จะยังคงปักหลักการชุมนุมอยู่ที่แยกนางเลิ้ง จนกว่ารัฐบาลจะประกาศขอยุติบทบาททั้งหมดในการบริหารประเทศ แต่ไม่ใช่เพียงแค่การยุบสภา และลาออกเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่เท่านั้น เพราะไม่ใช่ทางออกของการปฏิรูปประเทศไทย แต่จะต้องปล่อยให้เกิดช่องว่างของอำนาจในการบริหารประเทศ เพื่อรอการจัดตั้งสภาประชาชน ทั้งนี้ก็จะมีผู้รักษาการในการบริหารประเทศด้วยซึ่งต้องหารือร่วมกันกับ กปปส.อีกครั้ง และการจัดตั้งสภาประชาชนดังกล่าวจะเป็นความเห็นชอบจากทุกสาขาอาชีพที่มาจากประชาชน

อย่างไรก็ตามเนื่องจากในวันที่ 5 ธ.ค.เป็นวันมหามงคล คปท.ก็จะทำการปรับพื้นที่ให้เป็นงานเฉลิฉลองวันมหามงคล 5 ธันวามหาราช โดยในวันพรุ่งนี้ (4 ธ.ค.) จะมีการทำความสะอาดพื้นที่การชุมนุมทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงายว่า ตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดของกทม.หลายสิบคน ได้เข้ามาทำความสะอาดพื้นถนน ฟุตบาท และเก็บชิ้นส่วนจากการปะทะระหว่างมวลชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่แยกพาณิชยการในช่วง 2 วันที่ผ่านมา อาทิ เศษหิน เศษไม้ เศษหัวน็อต เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีประชาชน และมวลชนบางส่วนได้เข้ามาสังเกตุกาณ์พื้นที่จุดปะทะ พร้อมถ่ายรูปสภาพของแนวแบริเออร์ รั้วลวดหนามไว้ด้วยเช่นกัน

กลุ่มมก.กู้ชาติ ขึ้นเวทีศูนย์ราชการ ทวงคืนอำนาจอธิปไตยของประชาชน

เวลา 19.00 น. กลุ่มอาจารย์ อดีตอาจารย์ นิสิต นักศึกษามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ร่วมกู้ชาติ หรือ มก.ร่วมกู้ชาติ นำโดย นางอุทัยรัตน์ ณ นคร ผอ.สถาบันวิจัยและพัฒนามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขึ้นเวทีศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ อ่านแถลงการณ์สนับสนุนการชุมนุมของ กปปส. ซึ่งปฏิบัติตามแนวทางสันติ และดำเนินการอย่างชัดเจนในการที่จะให้อำนาจอธิปไตยเป็ฯของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง

โดยเห็นว่าวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองขณะนี้เกิดจากการที่ประชาชนทุกสาขาอาชีพออกมาร่วมชุมนุมคัดค้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม และการแสดงออกไม่รับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญของรัฐบาล ประกอบกับความขัดแย้งที่สั่งสมมาเป็นเวลานานจากการบริหารงานของรัฐที่ไม่ได้ตัดสินใจเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม ทาง กลุ่ม มก.ร่วมกู้ชาติ มีความเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองโดยเฉพาะเมื่อมีเหตุสูญเสียของนักศึกษารามคำแหง และเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงกับประชาชนข้างทำเนียบรัฐฐาล

ทางกลุ่มจึงเห็นว่าเพื่อให้ปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ยุติลง จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา ลาออก คืนอำนาจอธิปไตยให้กับประชาชนอย่าแงท้จริง และจัดตั้งรัฐบาลรักษาการตามแนวทางที่ประชุมอธิการบดี พร้อมเลบือกนายกรัฐมนตรีรักษาการที่มีคุณธรรมและไม่ใช่นักการเมือง ขอให้รัฐฐาลดำรงสันติวิธีต่อผู้ชุมนุม และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบหาข้อเท็จจริงและเผยแพร่ต่อสังคมในกรณีการกระทำรุนแรงอย่างไร้มนุษยธรรมภายในมหาวิทยาลัยรามีคำแหง จนเป็นเหตุให้นักศึกษาประชาชนบาดเจ็บเสียชีวิต

นอกจากนี้ ขอสนับสนุน กปปส. ในการปฏิรูปประเทศทุกด้าน วางแนวทางการป้องกันคอรัปชั่น การปฏิรูปการศึกษา การปฏิรูปสื่อ การสร้างค่านิยมที่ดี การสร้างความเข้มแข็งให้ประชาชนเพื่อลดระบบอุปถัมภ์ รวมทั้งขอให้สื่อมวลชนเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมาตามจรรยาบรรณของวิชาชีพด้วย























































































กำลังโหลดความคิดเห็น