แกนนำ กปปส. ปราศรัยขอบคุณประชาชนปฏิบัติการเข้มแข็ง ยันไปฟรีทีวีไม่ได้ไปคุกคามสื่อ แต่ไปขอความเห็นใจ จะโกธรจะเกลียดก็เชิญเพราะไม่เล่นการเมืองอีกแล้ว ยอมสู้คดีไม่ขี้ขลาดเหมือนทักษิณ ท้าตำรวจซุ่มสนามกอล์ฟมาจับเลย ลั่นต้องรื้อโครงสร้างตำรวจให้เป็นของประชาชน ประกาศยึด บช.น.ตามคำท้า “คำรณวิทย์“ 7 โมงเช้าพรุ่งนี้
เมื่อเวลา 20.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) กล่าวปราศรัยที่ศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร ถนนแจ้งวัฒนะ ระบุว่า ต้องกราบขอบคุณพี่น้องที่ได้ร่วมมือกันปฏิบัติการอย่างเข้มแข็งตั้งแต่เมื่อวานจนวันนี้ ผลการปฏิบัติการของมวลมหาประชาชนที่ออกไปปฏิบัติการในแต่ละพื้นที่ด้วยมือเปล่า ไม่มีอาวุธ สันติ สงบอหิงสา ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง วันนี้พี่น้องข้าราชการส่วนใหญ่ก็หยุดราชการไม่ไปทำงาน ถนนในกรุงเทพฯ ว่างเป็นพิเศษ ซึ่งต้องยืนยันกับพี่น้องเหล่านั้น การนัดหยุดราชการเพียงวันนี้เป็นวันแรก และต้องหยุดต่อไป เพื่อไม่เป็นเครื่องมือของระบอบทักษิณอีกต่อไป
อีกประเด็น คือการที่พี่น้องเราไปที่สถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ปรากฏมีคนวิพากษ์วิจารณ์เป็นอันมาก ส่วนใหญ่เป็นพวกมองโลกสวย ตำหนิติเตียน หาว่าเราไปคุกคามสื่อ ไปบีบบังคับสารพัด เลยเถิดว่าเรากระทำการกระทบเสรีภาพสื่อมวลชน ตนเป็นคนชอบพูดความจริงไม่เสเสร้ง สื่อในประเทศไทยเป็นสื่อที่ดี มีเสรีภาพ และมีอุดมการณ์ที่ทำงานเป็นสื่อมวลชน แต่บริษัทที่สื่อสังกัด เขาเป็นธุรกิจ ต้องคิดถึงความอยู่ได้ ต้องคิดถึงกำไร ขาดทุน บางทีสื่อส่งข่าวไปดีๆ เขาไปตัดทอนลงไป ผู้บริหารมีเป้าหมายทำกำไรเท่านั้นเท่านี้ มันจึงเข้าทางระบอบทักษิณ ความเป็นกลางของสื่อจึงต้องเฉไฉออกไป ประชาชนมาชุมนุมเป็นล้าน แสดงออกชัดเจนไม่รับระบอบทักษิณอีกต่อไปแล้ว แต่สื่อมวลชนเสนอข่าวนิดเดียว
ทีข่าว ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เสนอยาวเหยียด เราจึงจำเป็นต้องไปพูดคุยกับสื่อเหล่านั้น และบรรดาสื่อที่มีอิทธิพลกับประชาชนก็คือฟรีทีวี เราจึงจำเป็นต้องเดินทางไปพบพี่น้องสื่มวลชนเหล่านั้น ไม่ได้ไปคุกคาม ไปขอความเห็นใจ ขอความเป็นธรรม ให้เสนอข่าวของมวลมหาชนประชาชนบ้างได้ไหม อย่าปิดหูปิดตาคนทั้งประเทศ แล้วสื่อทั้งหลายเหล่านั้นเป็นพยาน ได้ไปแต่ละเหตุ ส่งคนเข้าไปเจรจาด้วยดีตลอด ไม่ได้ไปทำข้าวของเสียหาย ไปสิบนิ้วยกมือไหว้ แล้วจะโกรธเคืองอะไรกันหนักหนา พูดคุยทำความเข้าใจกันได้ ยอมเสนอข่าว เอาคำแถลงเราออกเราก็ดีใจ และกลับมายังฐานที่มั่นของเรา ที่พูดอย่างนี้เพราะผมเข้าใจดี เพราะมีคนติดยึดเรื่องนี้มาก แล้วผมยอมรับคำตำหนิ ผมวางแผนและทำคนเดียว เพราะคนอย่างผมโดนมาเยอะแล้ว แถมอีกสักข้อหาไม่หนักหนาอะไร
สื่อจะโกรธจะเกลียด ไม่ชอบ ขอโทษเถอะ เพราะผมไม่สนใจจริงๆ จบงานนี้ผมไม่เป็นนักการเมืองอีกแล้ว จะด่าจะเชียร์ผมไม่เป็นปัญหา อนาคตการเมืองผมตั้งใจแล้ว ชีวิตนี้เป็นนักการเมือง 35 ปี สู้ในระบบมาตลอดชีวิต แต่เห็นว่าไม่สามารถสู้ทุนสามาย์ระบอบนายทุนได้ จึงลาออกมาสู้ เมื่อตัดสินใจออกมาสู้บนถนน เคียงข้างประชาชนทั้งหลายก็ไม่คิดกลับไปสู้ในสภาอีกแล้ว ไม่อยากให้คิดว่าแพ้เขาในสภาออกมาสู้ ตีหัวเขาแล้วกลับไปสู้ในสภาอีก จะได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดเสียทีว่าออกมาทำงานให้ประชาชนคราวนี้จะไม่ลงสมัคร ส.ส. และไม่กลับไปพรรคประชาธิปัตย์อีกแล้ว ฉะนั้น สิ่งที่ผมทำกับพี่น้องประชาชนขณะนี้ จะได้ชัดเจนว่าไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์พรรคประชาธิปัตย์ และผมไม่เกี่ยวจริงๆ เพราะใครในพรรคก็สั่งผมไม่ได้อีกแล้ว เพราะผมฟังคำสั่งพี่น้องประชาชนเท่านั้น
ฉะนั้นพี่น้องสื่อ โกธรเคืองพี่น้องผมที่เดินทางไปสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ขอให้โกรธผม ลงโทษผมคนเดียว แต่ให้เข้าใจ ผมไม่มีทางเลือก อยากให้รู้ว่ามวลมหาประชาชนต่อสู้อย่างไร ไม่อยากให้กลายเป็นอากาศธาตุ แล้วก็ทำให้ระบอบทักษิณอยู่ต่อไป แต่ถ้าสื่อมีความเป็นธรรมกับเรา ให้พื้นที่ข่าวเรา เท่าที่ให้กับรัฐบาล เราไม่รบกวนรังควรญอีกต่อไป จะเคารพในฐานะเป็นสื่อมวลชนต่อไป
สำหรับพี่น้องข้าราชการทั้งหลาย วันนี้มีตัวแปร 2 ประการที่เอื้อระบอบทักษิณ คือสื่อมวลชนกับข้าราชการ ขอเรียนพี่น้องข้าราชการว่า ถึงเวลาเลือกข้างได้แล้วว่าจะเลือกข้างประชาชนหรือระบอบทักษิณ ไม่มีเวลาคิดมากไปกว่านี้แล้ว เมื่อคืนเรียนพี่น้องว่าได้ไปพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต่อหน้า ผบ.เหล่าทัพ และบอกพี่น้องแล้วว่า ทหารเขายืนอยู่ข้างประเทศไทย ตนพูดอย่างนี้ ส่งสัญณาณอย่างนี้ นึกว่าข้าราชการเข้าใจการส่งสัญญาณนี้ แต่ก็มีคนวอแว ก็จะแปลความให้ฟัง ผิดถูกขอรับผิดชอบคนเดียว
ที่ทหารประกาศว่าเขายืนอยู่ข้างประเทศไทยนั้น คนที่ยืนต่อหน้าเขามี 2 คน คนหนึ่งเป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่เป็นรัฐบาลโมฆะ หมดความชอบธรรม แต่อีกคนคือผม ที่เป็นตัวแทนอำนาจประชาชนที่มีอยู่จริง และมีอยู่ตลอดไป ทหารทั้งหลายควรจะประกาศข้างและตัวบทกฎหมาย เขาก็ควรจะยืนอยู่ข้างประชาชน แต่เขาก็เลือกประกาศว่าเขายืนอยู่ข้างประเทศไทย ก็หมายความว่าเขาไม่เอากับคุณยิ่งลักษณ์ ส่วนที่เขาไม่เอากับผม ผมไม่ติดใจ แค่เขาบอกว่าเขาอยู่ข้างประเทศไทยก็ชื่นใจแล้ว เพราะผมมั่นใจว่า ไม่ว่าเราจะทำอะไรต่อไป ทหารจะไม่มีวันหันปากกระบอกปืนมาหาประชาชนเด็ดขาด แต่ในการต่อสู้ของมวลมหาประชาชนคราวนี้ เราไม่ต้องกลัวทหารจะเป็นเครื่องมือยิ่งลักษณ์มาปราบปรามพวกเรา ผมกล้าเอาหัวเป็นประกัน จากการพูดคุยเมื่อคืน ทหารจะไม่มาปราบปรามประชาชนแน่นนอน
แต่ที่ยิ่งลักษณ์ดื้อรั้นอยู่ได้วันนี้ก็คือตำรวจ หมาต๋านั่นแหละ ตำรวจที่ไม่ดี ผมเคยเป็นรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลตำรวจ ตำรวจส่วนใหญ่ดี แต่ส่วนน้อยมันเลวมาก ร่วมกับคนเสื้อแดงเสื้อดำ ฆ่านักศึกษารามคำแหง ตนได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวนักศึกษาที่เสียชีวิต และรู้สึกเจ็บปวดที่ตำรวจไม่ดูแลความปลอดภัยให้นักศึกษาราม และตำรวจเหล่านี้ที่ยิงแก๊สน้ำตาใส่เราทุกวัน ตนเห็นใจพี่น้องประชาชนมาก ไปหาตำรวจดีๆ ไปพูดกับเขาดีๆ ให้ออกมาอยู่ข้างประชาชน พรุ่งนี้จะยึดกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ให้ได้ รวมกำลังมหาประชาชนทุกสายไปยึด บช.น. มาเป็นของประชาชนให้ได้ ให้ตำรวจเห็นว่าประชาชนที่มือเปล่าอย่างเราไม่มีอาวุธ สามารถต่อสู้กับสมนุทรราชย์ที่ทำกับเราด้วยความรุนแรง และเอาชนะได้ พิสูจน์กันที่ บช.น. พรุ่งนี้
ขณะนี้ก็ส่งตำรวจมาซุ่มซ่อนที่สนามกอล์ฟ เตรียมจะลุยเราคืนนี้อีก ขอให้มาเลย อ้างว่าคืนนี้ได้หมายศาลว่านายสุเทพเป็นกบฏ เพราะตำรวจไปตั้งข้อหาไปบอกศาลว่าผมเป็นกบฏ ผมประกาศว่าคืนนี้นอนที่นี่ มาเลย จับได้จับไป ผมก็ไปสู้คดี แล้วพี่น้องอยู่ข้างหลังก็จะลุกขึ้นมาสู้ มาทำแทน อายุ 64 ปี เป็นมาหมดทุกอย่างแล้ว เหลืออย่างเดียวยังไม่ได้เป็นคือเป็นนักโทษ แต่จะบอกให้ตำรวจรู้ว่า แม้จะมีโอกาสเป็นนักโทษอาจจะต้องติดคุก แต่คนอย่างสุเทพไม่เหมือนนายพวกมึง (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) ที่หนีคุกไปอยู่ต่างประเทศ ถ้ากระเหรี้ยนกระหือรือ ลุยประชาชนมาจับผมไม่ว่าอะไร แต่ผมบอกว่าถ้าผมหมดเรื่องยุ่งในการจัดการระบอบทักษิณ ผมยินดีรับทุกโทษทุกข้อหา
ผมก็นึกตั้งแต่ทำงานร่วมกับพี่น้องมา 30 กว่าวัน ยังไมได้ทำอะไรรุนแรงเลย เพราะยึดว่าจะต่อสู้สันติ อหิงหา ปราศจากอาวุธ ผมไม่ได้ข่มขู่ทำร้ายใครเลย แต่มันก็กลับไปพลิกตำรากล่าวหาว่าผมเป็นกบฎ ความจริงมันกล่าวหาเร็วไปหน่อย ความจริงผมกะว่าอีกไม่กี่วันจะเผด็จศึก ทวงคืนอำนาจประชาชน ถึงตอนนั้นก็โดนข้อหากบฏอยู่ดี อย่างที่บอกว่าการทำให้บ้านเมืองมันดี ขจัดระบอบทักษิณ การจะถือธูป เทียน ไปกราบไหว้ทุกวันมันไม่ทางชนะอยู่แล้ว จะอาศัยพี่น้องมากันเป็นล้านทุกวัน ไอ้ทักษิณมันอยู่ดูไบก็ไม่สะดุดสะเทือน เพราะมันจ้างนักร้องไปนั่งกินข้าวด้วยทุกวัน ตำรวจลืมไปว่าประชาชนเป็นนายของเขาตัวจริง แต่ตำรวจเลวๆ เหล่านั้นลืมคิดแต่นายทักษิณ พ่อมันนั่นทำงานรับใช้ตัวตายไม่คิด บอกตำรวจไว้เลยว่าถ้ามวลมหาประชาชนชนะคราวนี้ งานสำคัญของเราก็คือปฏิรูปโครงสร้างตำรวจทั้งประเทศ วันนี้ตำรวจทำตัวเป็นนายประชาชนก็ช่าง แต่ถ้าชัยชนะเป็นของเราเมื่อไร ตำรวจต้องเป็นตำรวจของประชาชน เป็นสมุนไม่ได้อีกแล้ว ถ้าจะได้ดีก็ต้องประชาชนให้ ไม่ใช่พี่มึงให้
ผมการันตีแทนประชาชนได้เลย ถ้าประชาชนชนะ ปรับโครงสร้างตำรวจเสร็จ จะเป็นนายร้อย นายพัน ไม่ต้องเอาเงินไปวิ่งเต้นซื้อตำแนหน่งอีกต่อไป ตำรวจดี ลูกคนจนก็จะได้เป็นนายพัน นายพลกับเขา ไม่เหมือนทุกวันนี้ไม่มีเงินไม่ได้ยศ ทำให้เป็นตำรวจต้องมารีดนาทาเร้นประชาชน เรื่องนี้จะจบเมื่อเราชนะ จึงขอเชิญชวนไปถึงพี่น้องตำรวจอีกครั้ง ฟังแล้วคิด มองให้ทะลุ ถ้าเห็นว่าสิ่งที่มวลมหาประชาชนตั้งใจจะทำเป็นความดี เป็นประโยชน์ชาติ เป็นประโยชน์กับตำรวจ ตั้งแต่พรุ่งนี้ ถอดเครื่องแบบเดินออกมาอยู่กับมวลมหาประชาชนเรา ส่วนตำรวจที่ยังดื้อด้านรับใช้ระบอบทักษิณอยู่ เราจะไปช่วยถอดเครื่องแบบจนได้พรุ่งนี้ บอกไว้ก่อนไม่ได้ไปด้วยความอาฆาตมาดร้าย ไม่มีเจตนาไปทุบตี แต่ต้องการไปปลดแอกตำรวจที่เป็นขี้ข้าระบอบทักษิณให้มาเป็นตำรวจของประชาชนอย่างสมบูรณ์แบบ
แล้วไม่ต้องมาใส่ร้ายป้ายสี ได้ยิน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. บอกจะมายึดมาผม บช.น. เชิญเลย พี่น้องระวังให้ดี พล.ต.ท.คำรณวิทย์มันตัวร้าย พรุ่งนี้ขอให้พี่น้องไปที่ บช.น. เป็นวันที่ 2 และถ้าปฏิบัติการต่ออีก 1-2 ชม. รับรองยึดได้แน่ แต่ผมโทรว่า มันจะค่ำแล้วให้หยุดก่อน เพราะมันจะเผา บช.น. แล้วโยนความผิดให้เรา มวลชนก็จะเสียชื่อเปล่าๆ ก็มันแบะท่าว่าเผาเลย ก็เลยสงสัยว่ามึงนั่นแหละจะเผาเอง ก็เลยให้ ส.ส.ลูกหมี (นายชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร) หยุดก่อนแล้วพรุ่งนี้ไปใหม่แต่เช้า พี่น้องที่ติดใจ บช.น. พรุ่งนี้ 7 โมงเช้า ออกเดินทางไปด้วยกัน แล้วก็ต้องยึด บช.น. ให้ดีสักบ่าย 3 โมง จะได้เข้าไปตอนค่ำ ลูกน้องคำรณวิทย์จะได้เผาไม่ทัน เราก็ไล่มันออกไปให้หมด
ที่ต้องไปจัดการที่ บช.น. เพราะมันจะใช้เป็นเครื่องมือปราบปรามพวกเรา ฉะนั้นต้องไปยึด ไปทำให้รู้ว่า ถ้าคิดปราบประชาชนคนมือเปล่าอย่างพวกเรา ก็ยึดได้ ทำให้ดูเป็นตัวอย่างพี่น้อง ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) นายพุทธิพงษ์ ปุณกันต์ ไปซ้อมมา 2 วันแล้ว ต้องจัดการเหมือนกัน ดูก่อนพรุ่งนี้มีกำลังขนาดไหน บอก ผบ.ตร. ก่อน ถ้าไม่ประกาศตัวยืนข้างประชาชน เราจำเป็นต้องเข้าไปใน สตช. เพื่อไม่ให้เป็นเครื่องมือระบอบทักษิณมาจัดการประชาชนอีกต่อไป เครื่องมือที่รัฐบาลนี้จะใช้ปราบปรามประชาชน มีแต่ตำรวจเท่านั้น จึงจำเป็นต้องปฏิบัติการกับตำรวจว่าเหลือแต่คุณโดเด่แล้วนะ ถ้าคุณไม่ยินยอม วันข้างหน้าจะใส่เครื่องแบบเดินถนนไม่ได้อีกต่อไป
ต้องให้ตำรวจตระหนักว่า ถ้าตั้งตัวเป็นศัตรูประชาชน รับใช้ระบอบทักษิณ คุณก็แต่งเครื่องแบบเดินถนนไม่ได้อีกต่อไป เพราะเจอประชาชนตรงไหนก็เดือดร้อนที่นั่น และอย่าคิดว่าประชาชนจะทำร้าย จะฆ่าคุณ แต่เห็นตำรวจแต่งเครื่องแบบ เสร็จงานนี้แล้วไม่เข้าข้างประชาชน เราจะเป่านกหวีดใส่ต้องแต่ต้นซอย ยันท้ายซอย ให้ประสาทแตกไปเลย เพราะตำรวจนครบาลเป็นตำรวจที่เราสงสัยว่าทำไมไม่ปกป้องนักศึกษารามฯ ปล่อยให้ถูกฆ่าถูกทำร้าย และตำรวจ บช.น. แสดงความโอหัง บังอาจยิงแก๊สน้ำตาใส่ประชาชนเป็นอันมาก จึงจำเป็นต้องจัดการตำรวจ บช.น. ให้ได้ในวันพรุ่งนี้ และถ้าตำรวจหน่วยอื่นไม่ว่าของภูธรภาคหนึ่ง ค่ายนเรศวร อริทราช จะยกกำลังมาปราบประชาชน เราก็จะทำเหมือนกับที่ทำกับนครบาลเหมือนกัน เราให้โอกาส อ้าแขนต้อนรับท่านแล้ว แต่เมื่อไม่ยอมรับมิตรไมตรี ยังปักใจเป็นสมุนทรราชย์ เราไม่มีวิธีอื่นนอกจากจัดการกับท่าน
พี่น้องทั้งหลาย นอกจากตำรวจต้องตัดสินใจเลือกข้างแล้ว ต้องย้ำกับพี่น้องข้าราชการ ตัดสินใจได้แล้วพูดปากเปียกแล้วว่า รัฐบาลแพ้ประชาชนแน่ ไม่งั้นเมื่อคืน น.ส.ยิ่งลักษณ์ เจอกับผม บอกตอบอะไรไม่ได้ ขอไปคิดก่อน เธอไม่เป็นหรอก สมองนิ่มๆ อย่างเธอนะ คนคิดอยู่นอกประเทศโน้น วันนี้จีบปากจีบคอออกแถลงการณ์ ข่าวทุกช่อง ช่อง 9 ช่อง 11 ไม่ออกแถลงการณ์ของเรา ติดไว้ก่อนเจอกันแน่ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ออกแถลงการณ์ไม่เป็นสาระอะไรเลย บอกดิฉันไม่ติดใจ ไม่ติดยึด ยุบสภา ลาออกก็ได้ ที่กอบโกยไปมากเกินไปแล้ว พวกนี้ใครจะเชื่อมั่นก็แล้วไป แต่ผมไม่เชื่อ ไม่มีวันที่คนพวกนี้จะรักคนไทย ประเทศไทย เหมือนที่พี่น้องประชาชนทั้งหลายรักคนไทย ประเทศไทย มันได้แต่หลอกลวงเราไปวันๆ เมื่อคืนผมไปเจอก็บอกมาเพราะเกรงใจ ผบ. 3 เหล่าทัพ ผมไม่ต้องการต่อรองอะไรทั้งสิ้น แต่จะบอกกว่าประชาชนเขาไม่ต้องการระบอบทักษิณต่อไปอีกแล้วขอให้ออกไป
พี่น้องอยากให้เคารพ ตั้งสติให้มั่นคิดให้แน่นอน ว่าที่ออกมานอนกลางดิน กินกลางทราย ต้องการอะไร ตอบตัวเองให้แน่ ผมถามพี่น้องหลายครั้ง เขาบอกต้องการขจัดระบอบทักษิณให้สิ้นไปจากประเทศไทย ซึ่งผมเชื่อพี่น้องประชาชน หัวใจผมมอบให้พี่น้องประชาชน เมื่อบอกผมว่าต้องการร่วมกันต่อสู้ขจัดระบอบทักษิณให้หมดสิ้นจากประเทศไทย ผมเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ตายเป็นตาย สู้จนกว่าจะชนะ และผมจะเดินหน้าสู้เพื่อเป้าหมายนี้ ฉะนั้น วันสองวันนี้ รัฐบาลยุบสภา แล้วผมยังพามวลชนเดินหน้าต่อ อย่ามาด่าผม เพราะถึงเลือกตั้งใหม่ มันก็รักษาการ แล้วก็ซื้อแล้วกลับเข้ามาเป็นรัฐบาล บริหารงานสูบเลือดเนื้อประชาชนต่อไป แต่ถ้าพี่น้องกลับบ้านหมด ผมก็จะเดินไปมอบตัวเข้าคุกคนเดียว
เช่นเดียวกัน ถ้านายกฯ ยิ่งลักษณ์ประกาศลาออก แล้วพี่น้องรู้สึกชนะ ถึงมันลาออกก็ยังเป็นรัฐบาลรักษาการ จนกว่ามีรัฐบาลใหม่ ซึ่งไม่ใช่รัฐบาลของประชาชน แล้วเมื่อวานมันปลด พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก จากการเป็น ผอ.ศอ.รส. แล้วตั้งนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ สายตรงดูไบ แล้วยิ่งลักษณ์ถ้าลาออกแล้วไปต่างประเทศ สุรพงษ์นี่แหละจะรับคำสั่งมาจัดการเราต่อไป จึงขอให้พี่น้องตั้งสติให้มั่นสู้เพื่ออะไร วันนี้มันโอบล้อม กดดันผม เพื่อให้ผมยอมรับเงื่อนไข ต้องขอประกาศเลยไม่ยอมรับเงื่อนไขของมัน ผมมีหน้าที่อย่างเดียวรับคำสั่งจากพี่น้องที่ให้เดินหน้าอย่างเดียว และพี่น้องทั้งหลายขอเรียนว่า เคยคิดจะจัดการกับรัฐบาลนี้ให้สำเร็จให้ได้ก่อนวันเฉลิมพระชนมพรรษา เพราะเห็นยิ่งลักษณ์ลุกขึ้นนำถวายพร บาดใจผมมาก แต่ถ้าจัดการกับตำรวจไม่เรียบร้อย จะเป็นภัยในวันหน้า จึงจำเป็นต้องขยายเวลาการต่อสู้ออกไปอีก ถ้าพรุ่งนี้ไม่ชนะก็จำเป็นต้องต่อสู้ต่อไป
ขอเรียนเชิญชวนประชาชนทุกภาคส่วนมาร่วมต่อสู้ เพราะขณะนี้ไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างพรรคการเมือง แต่เป็นการต่อสู้กับเผด็จการนายทุนทั้งประเทศไทย เป็นการต่อสู้ระหว่างคนดี คนชั่ว จึงไม่มีตรงกลางให้ท่านยืน บรรดานักการเมืองทั้งหลาย ขอประกาศ ถ้าจะคบกันขอให้มาคบกันตั้งแต่ตอนนี้ ถ้าไม่มาคบกันตอนนี้ไม่ต้องมาคบกันต่อไป เป็นโอกาสเดียวที่นักการเมืองจะต้องเลือกข้าง และช่วยกันคิดอ่านทำบ้านเมืองให้ดี ไม่ต้องลอยตัวต่อไป ถ้าคิดเหมือนกันให้มาช่วยกัน ถ้าไม่มาคราวนี้ตัดญาติขาดมิตร ไม่ต้องคบกันต่อไป
ฝากไปถึง พล.ต.อ.อดุลย์ ผมเคยยกย่องเป็นตำรวจที่ดี เหตุการณ์วันสองวันจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ถ้าตำรวจของท่านทำร้ายประชาชน ผมจะไม่ให้อภัยตำรวจของท่าน แต่ถ้าท่านแสดงจุดยืนอยู่ข้างประชาชน ดูแลพิทักษ์รักษาประชาชนต่อไป ผมก็จะให้การนับถือในฐานะเป็นตำรวจน้ำดี รวมไปถึงตำรวจที่ดี ขอให้มายืนอยู่ข้างประชาชนได้แล้ว พี่น้องที่มาต่อสู้ผมอยากให้รักษาความแน่วแน่ในการต่อสู้ต่อไป แม้จะต้องปฏิบัติภารกิจที่ยากลำบากท้าทาย แต่ให้ยึดหลักเราจะต่อสู้ด้วยความสันติ ผมกลัวพอเขายิงแก๊สน้ำตาจะทนไม่ไหว ไม่ได้ขอให้เล่นบทพระเอกตั้งแต่ต้นจนจบ และเรียนพี่น้องในต่างจังหวัดขอให้รวมตัวกันเป็น กปปส. จังหวัด และจะได้ทำงานร่วมกันเพื่อรบกับระบอบทักษิณในทุกแนวเพื่อเอาชนะให้ได้
คำต่อคำ : สุเทพ เทือกสุบรรณ ปราศรัย
"ก่อนที่จะพูดคุยกับพี่น้องทั้งหลายในประเด็นอื่น กระผมในนามของเลขาธิการ กปปส. ต้องขอกราบขอบพระคุณพี่น้องมวลมหาประชาชนที่ได้ร่วมมือกันปฏิบัติการอย่างเข้มแข็ง เมื่อวานและวันนี้ ทั้งสองวัน ขอกราบขอบพระคุณครับ
ผลการปฏิบัติการของมวลมหาประชาชนที่ออกไปปฏิบัติการในแต่ละพื้นที่ ด้วยมือเปล่า ไม่มีอาวุธ สันติ สงบ อหิงสา ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง วันนี้พี่น้องข้าราชการส่วนใหญ่ก็หยุดราชการไม่ไปทำงาน ถนนในกรุงเทพฯ ว่างเป็นพิเศษวันนี้ ซึ่งเราก็ต้องเรียนยืนยันกับพี่น้องข้าราชการเหล่านั้นว่า การที่นัดหยุดราชการ วันนี้เพียงเป็นวันแรก และจะต้องหยุดต่อไป ไม่เป็นเครื่องมือของระบอบทักษิณอีกต่อไป เดี๋ยวผมจะย้อนกลับมาพูดประเด็นนี้อีกครั้งหนึ่ง
อีกประเด็นหนึ่งก็คือการที่พี่น้องเราได้ไปที่สถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ปรากฏว่า มีคนวิพากษ์วิจารณ์กันมาก ส่วนใหญ่เป็นพวกที่มองโลกสวย ตำหนิติเตียน หาว่าเราไปคุกคามสื่อมวลชน ไปบีบบังคับสารพัด เลยเถิดไปว่า ได้กระทำการที่กระทบต่อเสรีภาพของสื่อมวลชน ผมต้องกราบเรียนกับพี่น้องครับว่า ผมเป็นคนชอบพูดความจริงไม่เสแสร้ง สื่อมวลชนในประเทศไทย เป็นสื่อมวลชนที่ดีมีเสรีภาพ และมีอุดมการณ์ที่ทำงานเป็นสื่อมวลชน แต่บังเอิญว่า บริษัทที่สื่อมวลชนทั้งหลายสังกัดนั้น เขาเป็นบริษัทธุรกิจ เขาต้องคิดถึงเรื่องความอยู่ได้ เขาต้องคิดถึงเรื่องกำไร ขาดทุน บางทีผู้สื่อข่าวที่ลงมาในสนามส่งข่าวไปดีๆ ไปข้างใน เขาก็ไปขัดเกลา ตัดทอนเสียใหม่ ข่าวก็ออกไปอีกเรื่องหนึ่งเลย นี่มันเป็นความจริง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ จะเป็นทีวี ก็เป็นอย่างนี้แหล่ะ ผู้ประกอบการ เจ้าของบริษัท นายทุน ก็มีเป้าหมายของตัวเอง ผู้บริหารบริษัทนั้นมีเป้าหมายที่จะทำกำไรปีละเท่านั้นเท่านี้ มันจึงเข้าทางระบอบทักษิณเขา เพราะทางโน้นก็พร้อมที่จะให้ผลประโยชน์ไม่อั้นอยู่แล้ว ถ้ารับใช้เขา ความเป็นกลางของสื่อมวลชนก็เลยเฉไฉออกไป
ประชาชนมาชุมนุมกันเป็นล้าน แสดงออกซึ่งเจตนารมณ์ชัดเจน ว่าไม่ยอมรับระบอบทักษิณอีกต่อไปแล้ว แต่สื่อมวลชนเสนอข่าวให้จิ๊กเดียว ทีข่าวไอ้เหลิม ทีข่าวยิ่งลักษณ์ ทีข่าวประชา ทีข่าวณัฐวุฒิ ทีข่าวจตุพร ยาวเหยียด เราจึงจำเป็นที่จะต้องไปพูดคุยกับสื่อมวลชนเหล่านั้น และสื่อมวลชนที่มีอิทธิพลต่อการรับรู้ของพี่น้องประชาชนมากที่สุด ก็คือบรรดาสถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 ช่อง 5 ช่อง 7 ช่อง 9 ช่อง 11 ไทยพีบีเอส เราจึงจำเป็นต้องเดินทางกันไปพบกับพี่น้องสื่อมวลชนเหล่านั้น ไม่ได้ไปคุกคาม ไปขอความเห็นใจ ขอความเป็นธรรม เสนอข่าวของมวลมหาประชาชนบ้างได้ไหม อย่าปิดหูปิดตาคนทั้งประเทศ แล้วสื่อมวลชนทั้งหลายเหล่านั้นก็เป็นพยานได้ ไปแต่ละแห่งเราก็ส่งคนเข้าไปเจรจาไปพูดจา ไม่ว่าจะเป็นช่อง 3 ช่อง 5 ช่อง 7 ช่อง 9 ช่อง 11 และไทยพีบีเอส พูดด้วยดีมาโดยตลอด ไม่ได้ไปทำข้าวของเสียหาย ไม่ได้แบกไม้กระบองไป เดินมือเปล่า 10 นิ้วยกมือไหว้ขอความเห็นใจ แล้วมันจะโกรธเคืองอะไรนักหนาครับ
พูดคุยกันได้เข้าใจกันได้ ท่านมีใจเอื้อเฟื้อยอมเสนอข่าวของเรา ยอมเอาคำแถลงของเราออกไปเผยแพร่ให้กับประชาชน เราก็ขอบคุณและตื้นตันใจกลับบ้านเราก็กลับฐานที่มั่นของเรา ไม่ได้ไปคุกคามอะไรต่อเลย ที่ต้องพูดอย่างนี้เพราะผมเข้าใจดีว่า มีคนที่เขาติดเย็บกับเรื่องนี้มาก แล้วเขาตำหนิ ผมยอมรับคำตำหนิไม่ต้องไปตำหนิมวลมหาประชาชนของผม ตำหนิผมก็แล้วกัน ทั้งหมดนี้ผมวางแผนและสั่งการเองคนเดียว เพราะว่าคนอย่างผมโดนมาเยอะแล้ว แถมอีกซักข้อหาหนึ่งก็ไม่นักหนาอะไรเท่าไหร่ ใช้ได้
สื่อจะโกรธ จะเกลียด จะไม่ชอบ ก็ขอโทษเถอะ พี่น้องสื่อมวลชนทั้งหลาย ไม่ใช่ยะโส แต่ผมไม่สนใจจริงๆ เพราะจบงานนี้ผมไม่เป็นนักการเมืองอีกแล้ว หยุดแค่นี้ จะด่า จะเชียร์ผม ไม่มีปัญหากับอนาคตผม ตั้งใจแล้ว ชีวิตนี้เคยคิดจะเป็นนักการเมืองของประชาชน สู้ในระบบมาตลอดชีวิต 35 ปี เมื่อเห็นว่าการต่อสู้ในระบอบไม่สามารถเอาชนะทุนสามานย์ เผด็จการนายทุนได้ จึงลาออกจากผู้แทนมายืนสู้ร่วมกับพี่น้องประชาชน แพ้/ชนะ ให้มันรู้ไปคราวนี้
เมื่อตัดสินใจออกมาสู้บนถนน เคียงข้างกับพี่น้องทั้งหลาย ก็ไม่คิดกลับไปสู้ในสภาอีกแล้ว เพราะไม่ต้องการให้ใครครหาว่า แพ้เขาในสภาเลยมาตีหัวเขาข้างนอกแล้วกลับไปเล่นเขาในสภาอีก คนอย่างกำนันสุเทพ ไม่ทำอย่างนั้น แล้วจะได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดกันเสียทีว่า เมื่อตัดสินใจออกมาทำงานให้กับพี่น้องประชาชนคราวนี้ ก็จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้แทนราษฎร และไม่กลับไปพรรคประชาธิปัตย์อีกแล้ว
เพราะฉะนั้น สิ่งที่ผมทำกับพี่น้องประชาชนในขณะนี้จะได้ชัดเจนว่า ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์กับพรรคประชาธิปัตย์ และไม่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ และผมไม่เกี่ยวจริงๆ ไม่ว่าใครในพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถสั่งผมได้อีกแล้ว เพราะผมฟังคำสั่งประชาชนเท่านั้น
เพราะฉะนั้นถ้าพี่น้องสื่อมวลชนโกรธเคืองที่มวลมหาประชาชนของผม ได้เดินทางไปยังสถานีโทรทัศน์ต่างๆ แล้วทำให้พวกท่านขุ่นเคืองใจ ผมขอยอมรับผิด ผมขอโทษและให้ลงโทษเฉพาะผม อย่าลงโทษพี่น้องผม แต่ให้เข้าใจว่า ผมไม่มีทางเลือกจริงๆ ผมต้องการให้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศได้รู้ว่า มวลมหาประชาชนเขากำลังต่อสู้กับอะไรอยู่ และเขาทำอะไรบ้าง ถ้าคนไม่รู้เลยความทุ่มเทของมวลมหาประชาชนเหล่านี้ ก็ละลายกลายเป็นอากาศธาตุ ระบอบทักษิณก็ยังอยู่ยั่งยืนต่อไป
เพราะฉะนั้นต้องเข้าใจเถอะครับว่า ตั้งใจทำโกรธเป็นโกรธเกลียดเป็นเกลียดไม่ว่ากันแล้ว เดินหน้าอีก แต่ถ้าท่านทั้งหลายที่เป็นสื่อมวลชนมีความเป็นธรรมกับเรา ให้พื้นที่ข่าวเราเท่าๆ กับที่ให้กับรัฐบาล ผมจะไม่รบกวนรังควานท่านทั้งหลายอีกต่อไป และจะเคารพนับถือในฐานะที่ท่านเป็นสื่อมวลชนของประชาชน ผมขอแค่นี้ครับ
สำหรับพี่น้องข้าราชการทั้งหลาย เมื่อครู่ก็ได้พูดไปนิดหนึ่งแล้ว ผมได้กราบเรียนกับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศว่า วันนี้ มีตัวแปร 2 ประการ ที่เกื้อหนุนต่อระบอบทักษิณ คือ สื่อมวลชน กับข้าราชการ เราได้เคลียร์เรื่องสื่อมวลชนกันแล้ว เหลือแต่ข้าราชการ ผมต้องเรียนกับพี่น้องข้าราชการว่า ถึงเวลาที่ต้องเลือกข้างได้แล้ว ว่าท่านตัดสินใจจะเลือกข้างระบอบทักษิณ หรือจะเลือกข้างประชาชน ไม่มีเวลาให้คิดนานมากไปกว่านี้แล้ว
เมื่อคืน ผมก็ได้กราบเรียนกับพี่น้องว่า ได้ไปพบกับคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พูดคุยกันต่อหน้าผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้ง 3 เหล่าทัพ และผมก็ได้กราบเรียนกับพี่น้องแล้วว่า ทหารเขาได้ประกาศจุดยืนชัดเจน ว่าเขายืนอยู่ข้างประเทศไทย ผมพูดอย่างนี้ ส่งสัญญาณอย่างนี้ ก็นึกว่าข้าราชการทั้งหลายควรจะเข้าใจนัยของสื่อที่ผมส่งไปถึง แต่ก็ยังมีคนวอแว ข้องใจ สงสัยอยู่อีก เอาว่าผมแปลความให้ฟังก็แล้วกัน แปลผิด แปลถูก ผมรับผิดชอบคนเดียว
ที่ทหารเขาประกาศว่า เขายืนอยู่ข้างประเทศไทยนั้น คนที่ยืนต่อหน้าเขามันมีอยู่ 2 คน คนหนึ่งยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นรัฐบาลที่โมฆะหมดความชอบธรรมแล้ว แต่ยังอ้างว่า มีอำนาจอยู่ อีกคนหนึ่งก็คือ ผม ซึ่งเป็นตัวแทนของมวลมหาประชาชน เป็นตัวแทนของอำนาจประชาชน ซึ่งเป็นของจริง และเป็นของแท้มีอยู่ และจะดำรงอยู่ต่อไป
ทหารทั้งหลายควรจะประกาศข้าง และโดยตัวบทกฎหมายเขาก็ควรจะยืนยันว่า เขาอยู่ข้างรัฐบาล แต่เขาไม่พูดอย่างนั้น เขาบอกว่า เขายืนข้างประเทศไทย หมายความว่า เขาไม่เอากับคุณยิ่งลักษณ์ ส่วนเรื่องที่เขาไม่เอากับผม ผมไม่ติดใจ เขาไม่ประกาศว่า อยู่ข้างผม ผมไม่ติดใจ แค่เขาประกาศว่า เขาอยู่ข้างประเทศไทย ผมก็ชื่นใจแล้ว เพราะผมมั่นใจได้เลยว่า ไม่ว่าเราจะทำอะไรต่อไป ทหารไม่มีวันหันปากกระบอกปืนมาหาประชาชนอย่างเด็ดขาด แต่ว่าในการต่อสู้ของมวลมหาประชาชนครั้งนี้ เราไม่ต้องกลัวว่า ทหารจะเป็นเครื่องมือของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรมาปราบปรามพวกเรา ผมกล้าเอาหัวเป็นประกัน จากการตีความคำสนทนาที่ว่าเมื่อคืนนั้นว่า ทหารไม่มีวันมาปราบประชาชนให้ยิ่งลักษณ์แน่นอน แต่ที่ยิ่งลักษณ์ดื้อรั้นอยู่ได้วันนี้ก็คือ ตำรวจหมาต๋าทั้งหลาย ตำรวจเลวๆ บางคน ผมต้องพูดอย่างนี้ เพราะผมเคยเป็นรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลงานตำรวจ ตำรวจส่วนใหญ่เป็นคนดี มีเลวน้อย แต่ที่น้อยมันเลวมาก เลวจัด เลวเยอะ เลวทุกวัน ตำรวจพวกนี้แหละครับที่สร้างปัญหาให้กับพวกเรา ตำรวจพวกนี้แหละครับที่ร่วมมือกับคนเสื้อแดง เสื้อดำ ฆ่านักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง
ผมได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวของนักศึกษาทั้งที่เสียชีวิต และบาดเจ็บแล้ว แต่รู้สึกเจ็บปวดเหลือเกินครับ กับการกระทำของตำรวจที่ไม่ดูแลความปลอดภัยให้กับนักศึกษารามคำแหง และตำรวจพวกนี้แหละครับที่ยิงแก๊สน้ำตาใส่เราทุกวันๆ 2 วันมาแล้ว ผมเห็นใจพี่น้องประชาชนมาก ไปหาตำรวจดีๆ ไปพูดกับเขาดีๆ ขอร้องเขา ว่าออกมาอยู่ข้างประชาชน อย่าไปรับใช้ระบอบทักษิณ อย่าไปเป็นเครื่องมือของรัฐบาลทรราชอีกต่อไป คำตอบที่ได้มาคือแก๊สน้ำตา ยิงทั้งวัน ยิงทุกวัน สองวันมาแล้ว พี่น้องทั้งหลาย พรุ่งนี้ไปให้มันยิงอีก
ตัดสินใจแล้วครับพี่น้อง มันจะยิงแก๊สน้ำตาซักกี่ลูกก็ตาม พรุ่งนี้ต้องยึดกองบัญชาการตำรวจนครบาลให้ได้ ยึดมันให้ได้ รวมกำลังมวลมหาประชาชนทุกสายพรุ่งนี้ มุ่งไปยึดกองบัญชาการตำรวจนครบาลมาเป็นของประชาชนให้ได้ ให้ตำรวจเห็นว่าประชาชนที่มือเปล่าอย่างเรา ไม่มีอาวุธ สามารถต่อสู้กับสมุนทรราชที่ทำกับเราด้วยความรุนแรง และเอาชนะได้ พิสูจน์กันที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พรุ่งนี้ครับ
และบอกกับพี่น้องขณะนี้ก็ส่งตำรวจมาสุ่มซ่อนอยู่ที่สนามกอล์ฟ เตรียมจะลุยเราคืนนี้อีก มาๆ มาเลย คราวนี้มาเลย อ้างว่าคืนนี้ได้หมายศาลว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นกบฏ เพราะตำรวจเป็นคนตั้งข้อหาไปบอกกับศาลว่า ผมเป็นกบฏต่อแผ่นดิน ถือหมายจะมาจับผมคืนนี้ ผมบอกเลยว่า คืนนี้นอนที่นี่ มาเลย มาจับเลย จับได้จับไป ผมก็ไปสู้คดี และพี่น้องที่อยู่ข้างหลังเขาก็ลุกขึ้นมาทำแทนผมเอง มันจะกลัวอะไรพี่น้องในชีวิตนี้ อายุ 64 ปี เป็นมาหมดทุกอย่างแล้ว เหลืออยู่อย่างเดียวคือ ยังไม่ได้เป็นนักโทษ แต่จะบอกให้ตำรวจรู้นะว่า แม้จะรู้ว่า อาจจะมีโอกาสเป็นนักโทษจะต้องติดคุก แต่คนอย่างสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่เหมือนนายพวกมึงที่หนีคุกไปอยู่ต่างประเทศแน่นอน
ถ้ากระเหี้ยนกระหือรือจะเอาใจนาย จะลุยประชาชนมาจับผมก็ยินดี ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าไม่ลุยมาผมบอกแล้ว ผมหมดเรื่องยุ่งๆ ที่ผมต้องทำร่วมกับประชาชนในการขจัดระบอบทักษิณ ผมพร้อมไปมอบตัว รับข้อกล่าวหารับการพิจารณาคดี ทุกข้อหา ไม่หนีแน่นอน
ผมก็มานึกๆ นะครับพี่น้อง ตั้งแต่ทำงานต่อสู้ร่วมกับพี่น้องมา 30 กว่าวัน ผมยังไม่ได้ทำอะไรรุนแรงเลย เพราะยึดมั่นในหลักการว่าเราจะต่อสู้อย่างสันติ อหิงสา และปราศจากอาวุธ ผมยังไม่ได้ข่มขู่ประทุษร้ายใครเลย ไม่ได้บอกว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายใครเลย แต่ว่ามันก็อุตส่าห์ไปพลิกตำราตั้งข้อหากบฏผมได้ เอ้า! มา สู้คดีกัน ที่จริงเขาตั้งเร็วไปหน่อย ผมกะว่าอีกไม่กี่วันนี่ล่ะ จะเผด็จศึก ประกาศชวนพี่น้องทั้งหลายทวงคืนอำนาจของประชาชนมาจากรัฐบาลทรราชให้ได้ นี่แหล่ะ ที่จริงถ้าอดใจรอถึงวันนั้น ก็ได้ตั้งข้อหากบฏอยู่ดี ผมรู้อยู่แล้วว่าผมกำลังทำอะไร การที่จะต่อสู้เพื่อให้ประเทศไทยได้เปลี่ยนแปลง พัฒนาให้มันดีขึ้น ปฏิรูปให้มันดีขึ้น มันต้องขจัดระบอบทักษิณเสียก่อน ซึ่งการที่จะขจัดระบอบทักษิณนี่ ถือแต่ดอกไม้ ธูปเทียน ดอกบัว ไปไหว้มันทุกวันๆ มันไม่มีทางชนะอยู่แล้ว ผมรู้อยู่แล้ว จะอาศัยพี่น้องมากันเยอะแยะเป็นล้านๆ คน ไอ้ทักษิณก็ไม่สะดุ้งสะเทือน เพราะมันอยู่ดูไบ นั่งกินข้าว มีนักร้องเมืองไทยไปร้องเพลงให้ฟัง ดาราป้อนข้าวให้ ประชาชนของเรานอนกลางดินกินกลางทรายสู้กับมัน และไม่ได้เห็นหน้ามันเลย กลิ่นก็ไม่ได้เห็น ไม่ได้ ที่สู้อยู่นี่ลูกสมุนบริวารทั้งนั้น ไอ้พวกหมาต๋าทั้งหลาย นี่ที่ฟัดอยู่กับเรา เพราะตำรวจลืมไปว่า ประชาชนอย่างพวกเราคือผู้บังคับบัญชาตัวจริง คือนายของเขาตัวจริง แต่ตำรวจเลวๆ เหล่านั้นลืม คิดแต่โน้นนายทักษิณของมันโน้น พ่อมันโน้น ทำงานรับใช้ตัวตายไม่คิด บอกกับตำรวจไว้เลย ว่าถ้ามวลมหาประชาชนชนะคราวนี้ งานสำคัญงานหนึ่งในการปฏิรูปของเราคือ ปฏิรูปโครงสร้างตำรวจทั้งประเทศ
วันนี้ตำรวจจะทำตัวเป็นนายประชาชนก็ช่าง แต่ถ้าชัยชนะเป็นของประชาชนเมื่อไหร่ ตำรวจต้องเป็นตำรวจของประชาชน ไม่มีได้ทางได้เป็นสมุนทรราชอีกแล้ว เพราะจะจัดโครงสร้างใหม่ ถ้าจะได้ดีต้องประชาชนให้ไม่ใช่พี่มึงให้ อย่างที่มึงประกาศมา ที่จริงตำรวจดีๆ ควรจะตัดสินใจมาอยู่ข้างเราได้แล้ว เพราะถ้ามาอยู่ข้างประชาชน และเป็นตำรวจดี มีฝีมือ มีคุณธรรม ประชาชนใจกว้างอยู่แล้วที่จะสนับสนุนให้ตำรวจดีๆ ได้เติบโตในหน้าที่ราชการ ผมการันตีแทนประชาชนได้เลยว่า ถ้าเราประชาชนชนะ ปรับโครงสร้างตำรวจเสร็จ ต่อไปจะเป็นนายร้อย จะเป็นนายพัน จะเป็นผู้กำกับการ จะเป็นผู้การ ไม่ต้องวิ่งเต้นเอาเงินไปเซ่นแลกตำแหน่ง ซื้อตำแหน่งอีกต่อไป ตำรวจดีลูกคนจนก็จะได้เป็นนายพัน นายพลกับเขา ไม่เหมือนทุกวันนี้ไม่มีเงินซื้อตำแหน่ง ไม่ได้เลื่อนยศ และนั่นแหละเป็นต้นเหตุให้ตำรวจต้องมารีดนาทาเร้นเอากับประชาชนทั้งหลาย เรื่องนี้จะจบเมื่อเราชนะ ขอให้ตำรวจจำไว้
จึงขอเรียนเชิญไปยังพี่น้องตำรวจทั้งหลาย ที่ครั้งหนึ่งฟังแล้วคิด มองให้ทะลุ ถ้าเห็นว่าสิ่งที่มวลมหาประชาชนเขาตั้งใจจะทำนั้นเป็นความดี เป็นความงาม เป็นประโยชน์กับชาติ เป็นประโยชน์กับประชาชน และเป็นประโยชน์กับตำรวจแล้ว ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ถอดเครื่องแบบเดินออกมารวมอยู่กับมวลมหาประชาชนพวกเรา ส่วนตำรวจที่ยังดื้อด้านรับใช้รัฐบาลทรราชระบอบทักษิณอยู่ ไม่ยอมถอดเครื่องแบบออกมาอยู่กับเรา เราจะไปช่วยถอดเครื่องแบบให้จนได้พรุ่งนี้ บอกไว้ก่อนไม่ได้ไปด้วยความอาฆาตมาดร้าย ไม่มีเจตนาไปทุบไปตี ไปเพื่อที่จะปลดแอกให้กับตำรวจให้พ้นสภาพจากการเป็นขี้ข้าของระบอบทักษิณ มาเป็นตำรวจของประชาชนโดยสมบูรณ์แบบ แล้วไม่ต้องมาใส่ร้ายป้ายสี ผมได้ยินคำรณวิทย์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล บอกว่า อยากจะเข้ามา อยากจะยึด ตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อไรก็เชิญเลย อยากจะเผาเมื่อไรเชิญเลย พี่น้องทั้งหลาย ระวังให้ดี ไอ้คำรณวิทย์นี่มันตัวร้าย
วันนี้ ส.ส.ชุมพล จุลใส พาพี่น้องทั้งหลายไปที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นวันที่สอง และถ้าปฏิบัติการต่ออีกสัก 1 ชั่วโมง 2 ชั่วโมง ยึดกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้แน่นอน แต่ผมได้โทรศัพท์สั่งว่า มันจะค่ำแล้ว ถอยออกมาก่อน เพราะเข้าไปตอนค่ำๆ เกิดลูกน้องคำรณวิทย์มันจุดไฟเผากองบัญชาการตำรวจนครบาล แล้วมันก็จะมาป้ายสี โยนความผิดให้เรา มวลมหาประชาชนก็จะเสียชื่อเสียเปล่าๆ ก็มันแบะท่าไว้เลยนี่ครับ ว่าเผามาเลย กูสงสัยว่ามึงนั่นล่ะจะเผาเอง กูถึงไม่ไป
วันนี้ผมจึงสั่งว่า คุณลูกหมี ส.ส.ชุมพล ถอนก่อนๆ มันจะค่ำแล้ว พรุ่งนี้ไปใหม่ พรุ่งนี้ไปแต่เช้า ไปเช้าๆ ลงมือตั้งแต่เช้า เพราะฉะนั้นพี่น้องประชาชนที่ยังติดใจ กองบัญชาการตำรวจนครบาล พรุ่งนี้ทานอาหารแต่เช้ามืด 7 โมงออกเดินทาง ขบวนรถจัดให้พร้อม ไปด้วยกัน แล้วก็ต้องยึดกองบัญชาการตำรวจนครบาลให้ได้สักบ่าย 3 โมง จะได้เข้าไปตอนค่ำ ลูกน้องคำรณวิทย์มันก็เผาไม่ทัน เราก็ไล่มันออกไปให้หมด
พี่น้องทั้งหลาย ที่ต้องไปจัดการกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพราะว่ามันมีฤทธิ์มีแรงมาก แล้วก็ประกาศตัวเป็นสมุนรับใช้ระบอบทักษิณ และตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่ล่ะที่มันจะใช้เป็นเครื่องมือมาปราบปรามพวกเรา เพราะฉะนั้นต้องไปยึดก่อน ต้องไปทำให้รู้ว่า ถ้าคุณคิดจะปราบประชาชนคนมือเปล่าอย่างพวกเราก็จัดการกับคุณได้เหมือนกัน ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง พี่น้อง
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คุณพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ก็ไปซ้อมมือมาสองวันแล้ว วันหนึ่งก็ต้องจัดการเหมือนกัน เดี๋ยวดูก่อนว่าพรุ่งนี้ พอที่จะมีกำลังขนาดไหน แต่บอกให้ท่านผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบว่า ถ้าท่านไม่รับตัดสินใจประกาศตัวเข้าข้างประชาชน ยืนข้างประชาชน เราจำเป็นที่จะต้องเข้าไปในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ต้องการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเครื่องมือของระบอบทักษิณมาจัดการกับประชาชนอีกต่อไป คือผมเรียนกับพี่น้องแล้ว เครื่องมือที่รัฐบาลนี้จะใช้ในการปราบปรามประชาชน เมื่อทหารไม่ยอมเป็นเครื่องมือให้ ก็มีแต่ตำรวจเท่านั้น เราจึงจำเป็นต้องปฏิบัติการกับตำรวจ เพื่อบอกกับตำรวจว่า เหลือแต่คุณโด่เด่แล้วนะ ถ้าคุณไม่เข้ากับประชาชน เราจำเป็นต้องจัดการกับคุณ และวันข้างหน้าคุณจะแต่งเครื่องแบบเดินบนถนนไม่ได้อีกต่อไป
คือจำเป็นแหละครับพี่น้องครับ ต้องให้ตำรวจตระหนักได้เลยว่า ถ้าคุณตั้งตัวเป็นศัตรูกับประชาชน รับใช้ระบอบทักษิณ คุณก็ไม่สามารถแต่งเครื่องแบบตำรวจเดินบนถนนได้อีกต่อไปแล้ว เพราะเจอประชาชนที่ไหนคุณจะเดือดร้อนที่นั่น และอย่าคิดว่าประชาชนอย่างพวกเราจะเป็นอาชญากร จะฆ่าคน จะทำร้ายคนไม่ใช่ เราจะทำอย่างนี้ ปี้ด เห็นตำรวจแต่งเครื่องแบบเดินถนนเมื่อไหร่ เสร็จงานนี้ถ้าเขาไม่เข้าข้างประชาชนเราจะเป่านกหวีดตั้งแต่หัวซอย จนถึงก้นซอยทะลุซอย ออกถนนใหญ่เป่ามันทุกแห่งเลยที่เจอตำรวจ คือคนถ้าไม่คิดอยู่ข้างมวลมหาประชาชนมันก็ต้องเจออย่างนี้ เราจะทำอย่างสันติ อหิงสา แต่บอกให้รู้ว่า คุณเป็นศัตรูประชาชน รับใช้รัฐบาลทรราช เรารังเกียจคุณ เพราะฉะนั้นเจอเสียงนกหวีดของเราให้ประสาทแตกไปเลย พี่น้องทั้งหลาย เพราะตำรวจนครบาลเป็นตำรวจที่เราสงสัยว่า ทำไมถึงไม่ปกป้องนักศึกษามหา'ลัยรามคำแหง ปล่อยให้ถูกฆ่าตาย ถูกทำร้ายบาดเจ็บตั้ง 40 50 คน และเพราะตำรวจนครบาลแสดงความโอหังบังอาจ ยิงแก๊สน้ำตาใส่ประชาชนบาดเจ็บไปเป็นจำนวนมาก เราจึงจำเป็นต้องจัดการกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลในวันพรุ่งนี้ นี่บอกให้สื่อเข้าใจเสียด้วย และถ้าตำรวจหน่วยอื่น ไม่ว่าของภูธรภาค 1 ไม่ว่าตำรวจจากค่ายนเรศวร หรืออรินทราช ยังคิดบังอาจจะยกกำลังมาปราบปรามประชาชน เราจะทำเช่นเดียวกับที่เราทำกับตำรวจนครบาลเหมือนกัน เราให้โอกาสท่านแล้ว เราอ้าแขนต้อนรับอยากจะรักท่าน อยากเป็นมิตรกับท่าน แต่ว่าเมื่อท่านไม่ยอมรับมิตรไมตรีของเรา ท่านยังปักใจที่จะเป็นสมุนรับใช้ทรราช เราก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องจัดการกับท่านเท่านั้น และนี่คือสิ่งที่เราประกาศกับตำรวจให้รู้ไว้ เป็นการล่วงหน้า จะต้องไม่เสียใจกันอีกภายหลัง
พี่น้องทั้งหลายนอกจากตำรวจจะต้องตัดสินใจเลือกข้างแล้ว ก็ต้องย้ำกับพี่น้อง ข้าราชการทั้งหลาย ตัดสินใจได้แล้ว พูดกันไปหมดแล้ว ปากเปียกปากแฉะแล้ว เห็นอยู่ชัดๆ ว่ารัฐบาลนี้แพ้ประชาชนแน่นอน ไม่งั้นนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ไม่ดิ้นทั้งวันทั้งคืน เหมือนที่กำลังดิ้นอยู่ตอนนี้หรืออย่างไร เมื่อคืนเจอกับผม ตอบอะไรไม่ได้ขอไปคิดก่อน ผมรู้มึงคิดไม่เป็นหรอก สมองนิ่มๆ อย่างเธอคิดเองไม่ได้ โน้นไอ้คนคิดอยู่ดูไบ วันนี้ออกมาจีบปากจีบคอแถลงการณ์อีกแล้ว สื่อออกหมดทุกช่อง รวมทั้งช่อง 9 ช่อง 11 ซึ่งไม่ออกแถลงการณ์ของเราจดใส่บัญชีไว้ก่อน ช่อง 9 ช่อง 11 เจอกับสุเทพ เจอกับมวลมหาประชาชนแน่นอน ที่พูดนี้ไม่ได้ข่มขู่นะ แต่บอกว่า อาฆาตไม่ลืมก็แล้วกัน นายกฯ ยิ่งลักษณ์ออกแถลงการณ์ไม่เป็นสาระ ที่จะเป็นประโยชน์กับอนาคตของประเทศไทยตรงไหนเลย นอกจากเป็นการซื้อเวลาไปวันๆ
บอกว่าอย่างไรครับ บอกว่าดิฉันไม่ติดใจ ไม่ติดยึด ยุบสภาฯ ก็ได้ ลาออกก็ได้ จริงๆ ได้ทั้งสองอย่างครับ เพราะว่าที่กอบโกยมันมากเกินกำไรแล้ว ทั้งตระกูลเขาถึงบอกว่า ตระกูลนี้มันโคตรโกงไงครับ แต่ว่าพวกนี้ใครจะเชื่อมันก็แล้วไป ผมไม่เชื่อ ไม่มีวันที่คนพวกนี้จะรักคนไทย รักประเทศไทย เหมือนที่พี่น้องประชาชนทั้งหลาย รักคนไทย และรักประเทศไทย มันได้แต่หลอกลวงเราไปวันๆ เมื่อคืนผมไปเจอ ผมถึงได้บอกว่า ที่ผมมาผมเกรงใจผู้บัญชาการ 3 เหล่าทัพ และผมไม่ต้องการอะไรกับนายกฯ ผมไม่ต้องการต่อรองอะไรกับนายกฯ ทั้งสิ้น ผมเพียงแต่มาบอกว่า ประชาชนเขาไม่ทนกับระบอบทักษิณอีกต่อไปแล้ว ต้องออกไป
พี่น้องทั้งหลายผมอยากให้พี่น้องที่เคารพ ตั้งสติให้มั่น คิดให้แน่นอนว่า ที่ออกจากบ้านมานอนกลางดินกินกลางทราย ตากแดดตากฝนต่อสู้กันคราวนี้ต้องการอะไร ตอบตัวเองให้ได้แล้วอย่าวอกแวก ผมถามพี่น้องหลายครั้งหลายหนว่า ที่มาต่อสู้กันคราวนี้ต้องการอะไร คำตอบที่พี่น้องทั้งหลายบอกกับผมทุกครั้ง คือต้องการขจัดระบอบทักษิณให้หมดสิ้นแผ่นดินไทย ใช่หรือไม่พี่น้อง ผมฟังเสียงพี่น้องอย่างนี้ไง ผมก็ถือว่าเป็นลูกยุลูกยอไง ผมก็เลยลุยเต็มที่ไง จนกลายเป็นกบฏวันนี้ไง
ผมเรียนกับพี่น้องใช่มั้ยครับ ผมเชื่อพี่น้องประชาชน หัวใจผมมอบให้พี่น้องประชาชน ไม่มีข้อเคลือบแคลง เมื่อพี่น้องบอกผมว่า ต้องการร่วมกันต่อสู้เพื่อขจัดระบอบทักษิณให้หมดสิ้นแผ่นดินไทย ผมเอาชีวิตตัวเองเป็นเดิมพัน ตายเป็นตาย สู้ให้ได้ ให้ประชาชนชนะให้ได้ และเพราะผมถือว่าเสียงของพี่น้องคือคำสั่งที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ผมจะต้องอุทิศตัวทำตามคำสั่งนั้น ผมก็จะเดินหน้าต่อสู้เพื่อเป้าหมายนี้ เพราะฉะนั้น ถ้าวัน-สองวันนี้ รัฐบาลเขายุบสภา และผมยังเดินนำพี่น้องสู้ต่อไป อย่ามาด่า ว่าผมไม่รู้จักพอ ผมไม่รู้จักยอม เพราะถึงเลือกตั้งใหม่ ถ้ามันยังซื้อเสียงได้ ยังโกงได้ ยังเป็นรัฐบาลรักษาการอยู่ มันก็กลับมาใหม่ ปกครอง บริหารบ้านเมืองแล้วโกงกินต่อไป สูบเลือดสูบเนื้อประชาชนต่อไป ปล้นประชาชนต่อไป ไม่เคารพรัฐธรรมนูญต่อไป เป็นวัฏจักรอย่างนี้ แล้วเราก็ต้องเป็นขี้ข้ามันต่อไป
ผมประกาศไว้เลยครับ ว่าผมจะยืนหยัดอย่างนี้ ไม่ว่าพวกโลกสวยทั้งหลายจะมาด่าผมอย่างไรก็ตาม ผมฟังเสียงพี่น้อง แต่ว่าถ้าพี่น้องกลับบ้านหมด พอใจไปเลือกตั้ง เหลือผมคนเดียว ผมก็เดินไปมอบตัว เข้าคุกข้อหากบฏคนเดียว เพราะว่ารัฐบาลนี้มันเตรียมเปิดประตูคุกรอผมอยู่แล้ว ด้วยข้อหาเยอะแยะไปหมด
เช่นเดียวกันครับ ถ้าอยู่ๆ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ประกาศลาออก แล้วพี่น้องประชาชนบอก ชนะแล้ว กลับบ้าน ผมบอกว่า ถึงมันลาออก มันก็ยังรักษาการเป็นนายกรัฐมนตรี จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ และไม่ใช่รัฐบาลประชาชนของพวกเราแน่นอน ยังเป็นรัฐบาลพวกมันอยู่ แล้วที่น่ากลัวกว่านั้น ผมจะบอกพี่น้อง เมื่อวาน หรือวันนี้ ผมจำไม่ได้แล้ว ไม่ได้นอน เขาปลดประชา พรหมนอก ออกแล้ว จาก ผอ.ศอ.รส.แล้วตั้งสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เป็น ผอ.ศอ.รส.แทน ไอ้นี่มันสายตรงดูไบเลยพี่น้อง แล้วบ้าที่สุด เพราะฉะนั้นแม้ยิ่งลักษณ์บอกว่าลาออกแล้ว ไปต่างประเทศเลย ไอ้สุรพงษ์นี่ล่ะ จะเป็นตัวตายตัวแทนรับคำสั่งดูไบมาจัดการกับเราต่อไป นี่ พี่น้อง จับตาดูเอาไว้
ผมถึงกราบเรียนกับพี่น้องครับว่า ตั้งใจกันให้มั่น คุมสติตัวเองให้ดี ถามใจตัวเองให้ดี สู้เพื่ออะไร สู้ไปถึงไหน สู้อย่างไร ผมไม่หว่านล้ม ผมไม่ชักจูงพี่น้องทั้งสิ้น แต่ผมเพียงบอกพี่น้องว่า ถ้าพี่น้องสั่งให้ผมไปถึงที่สุด ผมจะไม่หยุดกลางทาง พี่น้องจะไปหรือไม่ไปกับผม แล้วแต่พี่น้องทั้งหลายตัดสินใจเอาเอง
ที่ต้องพูดกับพี่น้องเปิดใจกันอย่างนี้ เพราะว่าขณะนี้มันกำลังโอบล้อม ปล่อยความคิดเรื่องนี้ตรงนั้นตรงโน้น เพื่อที่จะมาบีบผม กดดันผม ให้ยอมรับเงื่อนไขของฝ่ายรัฐบาล ผมประกาศเลยว่า ผมไม่รับ ยกเว้นพี่น้องสั่งให้ผมรับ นั่นเป็นเรื่องของพี่น้อง ไม่ใช่เรื่องของผม ผมมีหน้าที่อย่างเดียว รับคำสั่งพี่น้อง แล้วทำให้ดีที่สุด ทำให้ถึงที่สุด เป็นไงเป็นกัน ถ้าพี่น้องเปลี่ยนใจ หรือไม่เปลี่ยนใจ แล้วแต่พี่น้อง แต่ผมไม่เปลี่ยน ผมเดินของผมไปอย่างนี้ ทะลุทะลวงไปเรื่อยๆ
และพี่น้องทั้งหลายครับ ผมก็ต้องเรียนกับพี่น้องว่า เคยคิดว่าจะจัดการกับรัฐบาลนี้ให้สำเร็จให้ได้ก่อนวันเฉลิมพระชนมพรรษา เพราะผมเห็นยิ่งลักษณ์ลุกขึ้นกล่าวนำถวายพระพร มันบาดหัวใจผมมาก ผมไม่อยากเห็น แต่ว่า ถ้ายังจัดการกับตำรวจไม่เรียบร้อย วันที่พี่น้องทั้งหลายลุกขึ้นทวงอำนาจคืนมา จะมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายมาก เพราะผมเคยเห็นฤทธิ์เดชของตำรวจเหล่านี้ เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องขยายเวลาของเราออกไปอีกหน่อย จัดการกับตำรวจให้มันราบคาบ ให้รู้ดำรู้แดงเสียก่อน เมื่อทหารไม่ยุ่งด้วย ตำรวจหมดแรง เหลือแต่ยิ่งลักษณ์ ไม่รู้ใครเป็นใครกันแน่ ทีนี้แหละ ผมขอถือโอกาสนี้กราบขอบพระคุณบรรดานักเรียนนักศึกษา คุณครูอาจารย์ทุกมหาวิทยาลัย ที่ได้ร่วมมือกับมวลมหาประชาชน และประกาศหยุดการเรียนหยุดการสอน หยุดทำราชการ จนกว่าประชาชนจะชนะ และก็ถือโอกาสกราบขอบพระคุณพี่น้องสื่อมวลชน ที่ได้เสนอข่าวการต่อสู้ของมวลมหาประชาชนอย่างตรงไปตรงมาทุกช่อง โดยเฉพาะช่องที่ผมจับตาอยู่ก็คือ คุณสรยุทธ ช่อง 3 วันนี้เสนอข่าวดีมาก คนอย่างเราใจนักเลงครับพี่น้อง ไม่เขาทำไม่ดีเราด่าเขา เวลาเขาทำดีเราก็กล้าชมเขา นี่คือคนอย่างประชาชนแบบเรา แล้วก็ถือโอกาสขอบคุณทีเอ็นเอ็น ซึ่งเสนอข่าวรายงานสถานการณ์ของพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องทุกวัน ก็ขอได้รับขอบคุณจากมวลมหาประชาชนด้วย
ขอถือโอกาสนี้กราบเรียนเชิญชวนผู้ที่มีบทบาทในสังคมทุกภาคส่วน ถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องก้าวให้พ้นความกลัวที่มีต่อระบอบทักษิณ ออกมาเถอะครับ มายืนเป็นกำลังของมวลมหาประชาชน เราเรียกร้องท่าน เราต้องการท่าน เรารักท่าน และต้องการร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับท่านครับ มาร่วมกับมวลมหาประชาชน เพื่อขจัดระบอบทักษิณให้หมด แล้วเราจะได้ร่วมมือกันเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ที่บริสุทธิ์ เป็นประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แล้วไม่มีนายทุนสามานย์ มาครอบงำปกครองหากำไร สูบเลือดสูบเนื้อคนไทยอีกต่อไป นี้คือเจตนารมณ์ร่วมกัน
มาเถอะครับ ท่านทั้งหลายรีบมา มาเสียโอกาสนี้ บางคนยังแสดงตนว่าต้องเป็นกลาง ไม่อยากฝักใฝ่ฝ่ายใด ผมเรียนอีกครั้งครับว่า นี้ไม่ใช่เรื่องของพรรคการเมือง ขณะนี้ไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างพรรคการเมืองกับพรรคการเมือง แต่เป็นการต้อสู้ระหว่างเผด็จการ ทรราชนายทุนกับประชาชนทั้งประเทศไทย เป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายคนชั่วกับฝ่ายคนดี เพราะฉะนั้นไม่มีที่ตรงกลางให้พวกท่านยืนต้องเลือกข้างจะเอาชั่วหรือเอาดี บรรดาเพื่อนักการเมืองทั้งหลาย ทั้งที่เคยคบร่วมงานกันทั้งที่เคยคบค้าสมาคมกัน ผมสุเทพ เทือกสุบรรณ ขอประกาศวันนี้ว่าถ้าจะคบพวกผมต่อไป ต้องมาคบตั้งแต่ตอนนี้ ถ้าพ้นกำหนดนี้ไม่ต้องคบกันอีกต่อไป เป็นโอกาสเดียวที่นักการเมืองจะต้องเลือกข้างอยู่ฝ่ายข้างดี แล้วมาช่วยกันคิดอ่าน ทำบ้านเมืองให้มันเจริญขึ้นไม่ต้องลอยตัวต่อไปบอกชัดๆ อย่างนี้ ถ้าคิดเห็นเหมือนกัน แสดงตนออกมา มาช่วยเหลือประชาชนมายืนข้างประชาชน อนาคตก็คบกันได้ไม่มาคราวนี้ก็ตัดญาติขาดมิตรกันไม่ต้องคบกันต่อไป เพราะว่าคบไปก็ไร้ประโยชน์ คุณไม่ใช่คนของประชาชนผมไม่อยากคบกับคุณแล้ว
ท้ายที่สุดก็อยากฝากไปถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผมเคยยกย่องว่า เป็นตำรวจที่ดีแต่เหตุการณ์วัน สองวันต่อไปนี้จะเป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญสำหรับพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ถ้าตำรวจของท่านทำร้ายประชาชน ผมไม่อภัยให้ท่านเด็ดขาด เด็ดขาด แต่ถ้าท่านแสดงจุดยืนอยู่ข้างประชาชนดูแลพิทักษ์รักษาประชาชนต่อไป ผมก็จะให้ความเคารพนับถือในฐานะที่ท่านเป็นตำรวจน้ำดี เป็นตำรวจอาชีพ และนี้ให้เปรียบไปถึงพี่น้องข้าราชการตำรวจอื่นๆ ด้วย ถ้าอยากมาอยู่ข้างประชาชนมาตั้งแต่ตอนนี้ และมาได้แล้ว ผมต้องกราบเรียนกับพี่น้องมวลมหาประชาชนที่รักทั้งหลาย ท่านต่อสู้มาด้วยความอดทน ด้วยความมุ่งมั่น ผมเห็นอยู่ตลอดเวลา เพราะผมกินนอนอยู่กับท่าน ผมอยากให้ท่านรักษาความแน่วแน่มั่นคง ในแนวทางการต่อสู้ต่อไป ต้องอดทนต่อไป แม้ว่าเราจะต้องไปปฏิบัติภารกิจที่ยากลำบาก ท้าทาย แต่ก็ต้องยึดหลักให้มั่นว่า เราจะต่อสู้อย่างสันติ ไม่มีอาวุธ ไม่ใช้ความรุนแรง ไอ้ตรงนี้สำคัญต้องยึดให้มั่น เพราะผมกลัวว่า พอเขายิงแก๊สน้ำตามาใส่ทนไม่ไหว เอาก้อนหินขว้างมัน เอาหนังสติ๊กยิงมัน ต้องไม่มีเด็ดขาด ต้องเล่นบทพระเอกตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะเราเกิดมาเป็นพระเอกครับพี่น้อง ไม่ใช่ผู้ร้าย และขอถือโอกาสนี้กราบเรียนไปถึงพี่น้องประชาชนที่อยู่ต่างจังหวัด ไม่ว่าท่านจะอยู่ในเครือข่าย องค์กร ประชาชนหน่วยไหนก็ตาม โปรดรวมตัวกันเป็น กปปส.จังหวัดนั้น แล้วเราจะได้ทำงานเชื่อมโยงกัน ตอนนี้ท่านเข้าไปควบคุมพื้นที่ศาลากลาง ท่านไปจัดเดินขบวน รอบศาลากลาง ในตลาด ให้ประชาชนทั้งหลายตื่นตัวลุกขึ้นร่วมกันต่อต้านระบอบทักษิณ เราจะทำงานประสานกัน และถ้าเราต่อสู้ได้สำเร็จ เราจะจับมือกันทั้งคนต่างจังหวัด ทั้งคนกรุงเทพฯ ทุกเครือข่าย ร่วมกันสร้างประเทศไทยด้วยมือของประชาชนเอง ในนามของ กปปส.เดี๋ยวพวกผมก็จะให้เบอร์โทรศัพท์สำนักงานส่วนกลางที่ กปปส.จังหวัดจะได้ติดต่อเข้ามา เพื่อประสานงานกัน เราต้องทำงานประสานกันทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดต้องรบกับระบอบทักษิณทั่วทุกหัวระแหง รบทุกแนว รบจนชนะ เอาให้ชนะให้ได้ พี่น้องครับนี่คือสิ่งที่พวกเราต้องทำร่วมกัน
ผมขอร่วมแรงร่วมใจกับพี่น้อง และก็ตั้งเป้าอย่างเดียวชัยชนะของประชาชน และเราจะต้องร่วมกันฉลองชัยชนะให้ได้ในเร็ววันนี้ไม่นานเกินรอ พี่น้องครับอดทน และสู้ต่อไปครับ พี่น้อง ขอบคุณและสวัสดีครับ พี่น้องครับ"