xs
xsm
sm
md
lg

“ปุระชัย” ระบุเหตุโหวตไม่ไว้วางใจ “ปู” ทำงานห่วย จำนำข้าวเหลว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ (แฟ้มภาพ)
“ปุระชัย” เผยเหตุโหวตไม่ไว้วางใจ “ยิ่งลักษณ์-จารุพงศ์” ทำงาน 2 ปีไม่เข้าตา แถมเร่งรัดปิดปากฝ่ายค้านเร่งรื้อ รธน. ออก พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน จำนำข้าวเอื้อทุจริต ส่วนสถานการณ์การชุมนุมแนะทุกฝ่ายหันหน้าคุยกัน ผู้มีอำนายต้องยุติความรุนแรง ไม่ใช้ก่อเหตุเสียเอง

ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์สันติ กล่าวถึงกรณีที่ลงมติไม่ไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กับนายจารุงพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ว่าในการอภิปรายครั้งที่แล้วได้งดออกเสียงเพราะเห็นว่าช่วงนั้นรัฐบาลเพิ่งเข้ามาทำงานและมาประสบปัญหากับอุทกภัยปี 54 แต่วันนี้ผ่านมา 2 ปีกว่าแล้วจึงสามารถประเมินการทำงานได้ และที่ชัดเจนมากที่สุดใน 2 เหตุการณ์ คือ 1. เรื่องในสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยออกมาแล้ว ทั้งนี้จากสองเหตุการณ์รัฐบาลได้กระทำการเร่งรัด ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะการไปตัดสิทธิคนที่จะพูด ตรงนี้ควรเปิดโอกาสให้อย่างเต็มที่จะใช้เวลาก็วันก็ต้องให้พูด เพราะสภาคือสถานที่ที่แต่ละฝ่ายต้องได้แสดงความเห็นอย่างรอบครอบในการออกกฎหมายแต่ละฉบับ 2. เรื่องการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ตรงนี้น่าเป็นห่วงเป็นอย่างมาก เพราะชาวนาจำนวนมากที่ไปจำนำข้าวยังไม่ได้เงิน ในขณะที่คนได้ประโยชน์โดยตรงคือคนกลาง ซึ่งเป็นพ่อค้า

ส่วนสถานการณ์การชุมนุมในขณะนี้นั้น ร.ต.อ.ปุระชัยกล่าวว่า ประเทศไทยเรียนรู้มาตลอดเวลาว่าจะใช้วิธีที่ถูกต้องและวิธีที่ฉลาดอย่างไร นอกจากนี้ เราก็เคยมีบทเรีบยนมาจากในอดีตแล้วว่าการแก้ปัญหาด้วยความรุนแรงไม่ว่าฝ่ายไหนเป็นผู้ชนะ หรือเป็นผู้แพ้ แต่คนที่สูญเสียแม้แต่ 1 คนก็คือคนไทยด้วยกัน ดังนั้น สถานการณ์ทางการเมืองไม่ว่าจบลงแบบไหนก็คือคนไทยด้วยกัน จึงอยากให้ทุกฝ่ายเห็นแก่ความเป็นชาติเดียวกันที่ต้องสามัคคี หันหน้ามาพูดคุยกันด้วยเหตุและผล

ทั้งนี้ ตนอยากให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ไม่อยากให้มีการไปปลุกระดมคนใส่ความคิดต่างๆ นานาเป่าหูประชาชนจนมองเห็นคนที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามเป็นศัตรู ทางออกของประเทศวันนี้คือฝ่ายไหนแรง อีกฝ่ายหนึ่งก็ต้องเย็น เอาขันติธรรมเข้ามาใช้อย่างมีสติ แล้วหันหน้ามาพูดกันด้วยเหตุและผล

“ผมไม่อยากให้มีความรุนแรงเกิดขึ้นอีกเพราะประเทศไทยมีบทเรียนตรงนี้มาแล้ว และที่สำคัญอยากฝากถึงผู้มีอำนาจว่าจะต้องไม่ใช่ผู้ก่อปัญหา แต่ผู้มีอำนาจคือผู้ยุติความรุนแรงของปัญหา”


กำลังโหลดความคิดเห็น