ทีมโฆษกรัฐบาลแจงรัฐเลื่อนประชุมคณะกก.จัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ เหตุม็อบปิดถนนเดินทางไม่สะดวก ขณะที่ ครม.รับทราบสรุปสถานการณ์นักท่องเที่ยว ม.ค.-ต.ค. 56 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ครม.แต่งตั้งบอร์ด กฟภ.3 ราย ตั้งบอร์ด กฟน.12 คน พร้อมแต่งตั้งอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และอนุมัติ 8 ผู้ตรวจ ก.เกษตรฯ
วันนี้ (25 พ.ย.) ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันนี้รัฐบาลต้องเลื่อนการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งตามกำหนดเดิม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องเป็นประธานการประชุม ที่จะจัดขึ้นภายในตึกสันติไมตรี เวลา 13.30 น. แต่เนื่องจากมีเหตุการณ์การชุมนุมของประชาชนกลุ่มต่างๆ ที่เดินขบวนไปตามถนนสายสำคัญ ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะเดินทางเข้ามายังทำเนียบรัฐบาล ทำให้คณะกรรมการฯ ที่จะมาร่วมการประชุมไม่สามารถเดินทางเข้ามาทำเนียบรัฐบาลได้โดยสะดวก รัฐบาลจึงจำเป็นต้องเลื่อนการจัดการประชุมดังกล่าวออกไป แต่สถานการณ์การเมืองขณะนี้ค่อนข้างอ่อนไหวจึงเกรงว่าจะมีผู้ไม่หวังดีนำประเด็นดังกล่าวไปบิดเบือนเจตนารมณ์ของรัฐบาลในทำนองที่ว่าไม่ให้ความสำคัญในการจัดงานครั้งนี้ จึงจำเป็นต้องชี้แจงเหตุผลเพื่อให้ประชาชนเข้าใจ นอกจากนี้ ในช่วงปลายเดือน พ.ย.ถึงต้นเดือน ธ.ค.จะมีการจัดกิจกรรมหลายกิจกรรมเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัฐบาลจึงอยากฝากขอความร่วมมือไปยังแกนนำผู้ชุมนุมซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ให้คำนึงถึงประเด็นความเหมาะสมในการเคลื่อนไหวชุมนุมลักษณะที่อาจมีการกีดกวางการจราจร และส่งผลกระทบต่อประชาชนทำให้ไม่สามารถเดินทางมาร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯได้โดยสะดวก
ร.ต.หญิง สุณิสากล่าวอีกว่า ครม.เห็นชอบร่างกฎคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ... ซึ่งมีสาระสำคัญคือ การวางหลักเกณฑ์กรณีที่ข้าราชการพลเรือนถูกกล่าวหา หรือมีกรณีที่น่าสังสัยว่ากระทำผิดวินัย ผู้ที่พบเห็นไม่ว่าจะเป็นผู้บังคับบัญชาหรือประชาชนทั่วไป สามารถที่จะกล่าวหาในลักษณะการทำหนังสือกล่าวหา หรือการกล่าวหาด้วยวาจะเข้ามาที่ผู้บังคับบัญชาได้ รวมถึงการร้องเรียนเป็นบัตรสนเท่ห์ โดยวิธีการสอบสวนหรือพิจารณาเบื้องต้นหากปรากฏพยานหลักฐานว่าการกล่าวหาดังกล่าวมีมูลให้พิจารณาว่าเป็นการกระทำผิดวินัยที่ร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง หากไม่ร้ายแรงผู้บังคับบัญชาจะสามารถดำเนินการสอบสวนเอง หรือแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยขึ้น แต่จะต้องมีการแจ้งข้อกล่าวหา และสรุปพยานหลักฐาน เพื่อให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจง และต้องมีการกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจนในการสอบสวนด้วย ส่วนกรณีเข้าข่ายการกระทำผิดวินัยร้ายแรงจะต้องมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ต้องแจ้งข้อกล่าวหาสรุปพยานหลักฐานให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ทราบ และฟังคำชี้แจงของผู้ถูกกล่าวหาด้วย แต่หากการกล่าวหานั้นไม่มีมูลความจริง ผู้บังคับบัญชาสามารถยุติเรื่องดังกล่าวได้ทันที่เพื่อให้ความเป็นธรรม
ขณะที่นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.มีมติรับทราบสรุปสถานการณ์นักท่องเที่ยว ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) เสนอ ว่า ในช่วงเดือน ต.ค. 56 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทย จำนวน 2,065,518 คน เพิ่มขึ้น264,371 คน จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.68 ทั้งนี้ประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย รัสเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี ลาว ออสเตรเลีย อินเดีย สิงคโปร์ และสหราชอาณาจักร ตามลำดับ ส่วนช่วงเดือน ม.ค.-ต.ค. 56 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทย จำนวน 21,738,328 คน เพิ่มขึ้น3,963,441 คน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.30 โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ภูมิภาคที่มีอัตราการเพิ่มของจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ เอเชียตะวันออก ยุโรป และอเมริกา สำหรับประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่ จีน มาเลเซีย รัสเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี ลาว อินเดีย ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสิงคโปร์ ตามลำดับ
ด้านนายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แทนผู้ที่พ้นจากตำแหน่งด้วยอายุครบ 65 ปี และขอลาออก รวม 3 ราย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ 1. นายจักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ 2. นายวัลลภ พริ้งพงษ์ และ 3. นายดนุชา พิชยนันท์ เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 เป็นต้นไป
นายภักดีหาญส์กล่าวต่อว่า ครม.มีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง แทนผู้ที่พ้นจากตำแหน่งจำนวน 12 คน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ 1. นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย 2. นายขวัญชัย วงศ์นิติกร อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน 3. พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 4. นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง 5. พล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปรมภูติ ข้าราชการบำนาญ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี 6. นายหิรัญ พรหมมา ข้าราชการบำนาญ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ 7. นายวิทูร จงเจริญพรชัย อดีตรองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง 8. นายนริศ ศรีนวล อดีตรองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 9. นายชัยธวัช เสาวพนธ์ รองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 10. นางกัญญารัตน์ ศรีบุญงาม ธุรกิจส่วนตัว 11. นายภัทรลาภ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา กรรมการบริษัท เอ็มโซลูชั่น จำกัด และ 12. พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการบริษัท เวย์บียอน จำกัด ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 เป็นต้นไป
นายภักดีหาญส์ระบุต่อว่า ครม.มีมติอนุมัติย้ายสับเปลี่ยนข้าราชการประเภทบริหาร ระดับสูง จำนวน 2 ราย ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ 1. นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง และ 2. นายจุมพล สงวนสิน ผู้ตรวจราชการกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกว่า ครม.มีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวม 8 ราย ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ 1. นายวิทยา อธิปอนันต์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง 2. นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง 3. นายอภัย สุทธิสังข์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง 4. นายวราวุธ ขันติยานันท์ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง 5. นางนันทิยา อุ่นประเสริฐ รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง 6. นายโอภาส กลั่นบุศย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง 7. นายสมปอง อินทร์ทอง รองเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง และ 8. นางวีณา พงศ์พัฒนานนท์ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
