นายกรัฐมนตรีเปิดงาน 1 ทศวรรษกองทุนแม่ของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติพระราชินี ยันรัฐบาลพร้อมสมทบเงินให้หมู่บ้านที่เข้าโครงการ ยกระดับแก้ปัญหายาเสพติดเป็นระดับอาเซียน
ที่อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี วันนี้ (30 ส.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานในงาน 1 ทศวรรษกองทุนแม่ของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ร่วมกับภาคีภาคประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 81 พรรษา โดยมีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายขวัญชัย วงศ์นิติกร อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ผู้แทนจากหมู่บ้าน/ชุมชนต่างๆ ที่ดำเนินการตามกองทุนแม่ของแผ่นดิน และผู้แทนจากองค์กรภาคเอกชน เข้าร่วมงาน
โดยนายกรัฐมนตรีเปิดกรวยดอกไม้ถวายราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมเป็นสักขีพยานในการรับมอบพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้รับมอบ เพื่อนำไปส่งต่อให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดต่อไป
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้กล่าวเปิดงานว่า พลังที่เกิดจากเครือข่ายของกองทุนแม่ของแผ่นดินเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะเป็นพลังที่รวมความจงรักภักดีของภาคประชาชนและภาครัฐ ที่ถือเป็นพลังในการแก้ปัญหายาเสพติดที่ทำให้ทุกงานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชเสาวนีย์ในการพัฒนาโครงการต่างๆ รวมทั้งพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อจัดตั้งกองทุน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้มีการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนและหมู่บ้านทั่วประเทศอย่างยั่งยืน
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า การดำเนินงานกองทุนฯ นับเป็นแนวทางที่ยั่งยืนในการแก้ไขปัญหายาเสพติด และน้อมนำแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวปฏิบัติ ที่นอกจากจะสร้างให้ชุมชนมีภูมิต้านทานแล้วยังสามารถทำให้ชุมชนสร้างความเข้มแข็งและสร้างเสริมอาชีพ ทั้งนี้ รัฐบาลโดยได้ยกปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ มีการบูรณาการร่วมกันในประเทศ และจะเริ่มบูรณาการร่วมกันในส่วนของภูมิภาคโดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียนด้วย โดยจะยึดหลักนิติธรรมในการปราบปราม การลงโทษผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้มีอิทธิพล และผู้ที่ประพฤติมิชอบ รวมทั้งยึดการใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ยึดหลักผู้เสพคือผู้ป่วยที่ต้องทำการบำบัดรักษา แยกกลุ่มเสี่ยงออกจากกลุ่มผู้เสพเพื่อเป็นการป้องกัน พร้อมกับจัดตั้งศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อจะยุติการแพร่ระบาดของยาเสพติด คืนคนดีสู่สังคม สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชน สอดคล้องตามยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดปี 2555 ซึ่งวันนี้ได้นำผู้เสพกลับเข้าสู่กระบวนการแล้วกว่า 800,000 ราย โดยมีการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ การฝึกอาชีพ ทำให้กลับมาเป็นคนดียืนหยัดอยู่ในสังคมได้
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินการเรื่องยาเสพติดในพื้นที่กว่า 840,000 หมู่บ้าน มีการจับกุมผู้กระทำความผิดกว่า 370,000 คดี มีการจัดกิจกรรมสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันปัญหายาเสพติด เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันแก่เยาวชน แก่นักเรียน และต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ในการร่วมกันสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน โดยการลาดตระเวน การตั้งด่านตรวจ ที่ได้ดำเนินการไปแล้วกว่า 80,000 ครั้ง ในโอกาสที่กองทุนแม่ของแผ่นดินดำเนินการมาครบ 10 ปี และมีหมู่บ้านกว่า 14,000 หมู่บ้านทั่วประเทศที่ดำเนินโครงการกองทุนแม่ของแผ่นดิน ซึ่งรัฐบาลได้สนับสนุนสมทบให้กับหมู่บ้านและชุมชน ที่เริ่มดำเนินโครงการกองทุนแม่ของแผ่นดินในปี 2555 อีกกว่า 2,000 หมู่บ้าน และในระยะต่อไปรัฐบาลจะสนับสนุนส่งเสริมหมู่บ้านและชุมชนให้มีความพร้อมในการดำเนินโครงการกองทุนแม่ของแผ่นดิน และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่ายต่อไป
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคลที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 81 พรรษา รวมทั้งเพื่อให้การดำเนินงานของ 1 ทศวรรษกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประสบผลสำเร็จยิ่งๆ ขึ้น จึงขอเชิญชวนหมู่บ้าน/ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดินทั่วประเทศและทุกหน่วยงาน ได้ร่วมกันน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และร่วมกันตั้งปณิธานร่วมใจรวมพลังมุ่งแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อสนองพระราชปณิธานของพระองค์ที่ปรารถนาจะให้สังคมไทยปลอดจากยาเสพติด ด้วยความจงรักภักดีสืบไปต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีร่วมร้องเพลงความฝันอันสูงสุด และเพลงสดุดีมหาราชา พร้อมกับผู้เข้าร่วมงานทุกคน