“พิภพ” เชื่อใจ “เทือก” ไม่ทิ้งสัญญามวลชน แนะจี้บอก “มาร์ค” ประกาศเป็นนโยบาย ถ้าเป็น รบ.จะเดินหน้าปฏิรูปประเทศให้สำเร็จ จวก “นิติราษฎร์” เอาอำนาจอะไรมาตัดสินศาล วอนมองการเมืองรอบด้านอย่าท่องแต่ตัวบท กม. เตือน “เหลิม” ห้าวอาสาดูตำรวจ มีอำนาจตามลายลักษณ์อักษรหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.50 น. วันที่ 23 พ.ย. นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีฝากถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำเวทีคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่างานที่ต้องสู้ต่อไปมวลชนสนับสนุนแล้ว เมื่อสัญญาแล้ว เชื่อว่านักเลงกำนันแบบสุเทพไม่ผิดคำสัญญาแน่นอน นาทีนี้ต้องขอปรบมือให้สำหรับการตัดสินใจนำประชาชน ซึ่งเดิมถูกกล่าวหาว่าเป็นการหาเสียง วันนี้พิสูจน์แล้วได้หลุดจากการหาเสียงแบบนักการเมือง มาเป็นผู้นำมวลชนอย่างแท้จริง
แต่งานที่นายสุเทพต้องทำหลังจากนี้ คือ ทำอย่างไรให้พรรคประชาธิปัตย์ประกาศนโยบายปฏิรูปประเทศในนามของพรรค เป็นสัญญาประชาคมออกมาจากปากหัวหน้าพรรค ว่าถ้ามีโอกาสเป็นรัฐบาลจะปฏิรูปประเทศให้สำเร็จจนได้ อย่างไรก็ดี เราพร้อมสนับสนุนทุกพรรคการเมืองที่จะขึ้นมาบริหารประเทศอย่างเที่ยงธรรม ไม่ทุจริตคอร์รัปชัน
นายพิภพกล่าวถึงกลุ่มนิติราษฎร์ ที่ออกมากล่าวหาว่าศาลรัฐธรรมนูญกำลังทำตัวเป็นผู้สถาปนาอำนาจ พร้อมยุให้ รบ.และ ส.ส.ไม่ต้องไปฟังว่า คนพวกนี้คงลืมคำของท่านพุทธทาสภิกขุ หรือ พระธรรมโกศาจารย์ ที่บอกว่าในระบอบประชาธิปไตยหากเสียงส่วนใหญ่เป็นโจร ก็จะพาทุกคนไปสู่วงจรของโจร ดังนั้นไม่ต้องไปฟังเสียงส่วนใหญ่ วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินไม่ฟังเสียงส่วนใหญ่ เนื่องจากเสียงส่วนใหญ่ได้กระทำผิดหลายเรื่อง เมื่อศาลรัฐธรรมนูญซึ่งตามกฎหมายบอกว่ามีอำนาจสุงสุดตัดสินแล้ว กลุ่มนิติราษฎร์กลับไปตัดสินศาลอีกที อยากถามว่ากลุ่มนิติราษฎร์เอาอำนาจมาจากไหน
ตนไม่เคยได้ยินคนหนุ่มในคณะนิติราษฎร์วิจารณ์ทักษิณเลย ไม่ว่าเรื่องทุจริตเลือกตั้ง กลุ่มนิติราษฎร์คลั่งระบอบประชาธิปไตยแบบเลือกตั้ง โดยไม่จำแนกว่าการเลือกตั้งมีการทุจริตมากน้อยแค่ไหน ไม่ได้มองมิติทางสังคมการเมืองในบ้านเราว่ามีอะไรเกิดขึ้น การเมืองมีสภาพอย่างไร มุ่งแต่เอาตัวบทกฎหมายตามลายลักษณ์อักษรเป็นตัวตั้ง ขอให้ทุกอย่างเข้ากับลายลักษณ์อักษรอย่างเดียว อย่างนี้พาประเทศไปไม่รอดแน่
นายพิภพกล่าวต่อว่า กรณีมีข่าวรัฐบาลจะประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงทั่วกรุงเทพฯ ตนก็ขอให้ประกาศออกมาได้เลยแล้วจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ส่วนกรณีตำรวจสกัดทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้พี่น้องที่ที่เดินทางจากต่างจังหวัดเข้าร่วมเวที ตนเชื่อว่าตำรวจก็ทำไปตามหน้าที่ แค่เป็นพิธีกรรม หากคุยดีๆ เชื่อว่าน่าจะคุยกันรู้เรื่อง เพราะตนทราบมาว่า รัฐบาลไม่กล้าสั่งการเป็นลายลักษณ์อักษร ด้านตำรวจเองก็รู้แล้วว่าอำนาจรัฐบาลใกล้จบ ผนวกมีบทเรียนเมื่อครั้ง 7 ต.ค. ส่วน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ผันตัวเองอาสามาดูแลตำรวจ อยากถาม ร.ต.อ.เฉลิมว่ามีอำนาจตามลายลักษณ์อักษรหรือไม่