“เฉลิม” เตือนระวังมือที่ 3 ป่วนม็อบ ชี้หากเกิดจริงไม่ใช่ฝีมือรัฐบาล-ทหาร-ตำรวจแน่นอน ลั่นไม่ยอมให้ยึดทำเนียบ-สนามบินเด็ดขาด
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (23 พ.ย.) เวลา 14.00 น. ที่กระทรวงแรงงาน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.รง.) พร้อมด้วยนายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน รองปลัด รง. อธิบดีทุกกรมสังกัด รง.พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น.ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์การเมืองและชี้แจงกรณีกระทรวงแรงงานถูกกล่าวหาใช้งบประมาณซื้อผลไม้แจกตำรวจที่ดูแลการชุมนุมบนถนนราชดำเนิน โดย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ขอเตือนว่าการชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ตนกลัวมือที่ 3 ที่สุด ที่พูดไม่ได้ขู่ แต่ถ้าเกิดมีใครโยนระเบิด 3 ลูกเข้าไปและมีคนตาย 300 คน ยืนยันว่าไม่ใช่ฝีมือตำรวจ ทหารและรัฐบาลเด็ดขาด เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นสุภาพสตรี เป็นเพศแม่ ไม่มีใจอำมหิต อย่างไรก็ตาม การประกาศชุมนุมใหญ่ที่จะเคลื่อนขบวนไปบนถนน 12 เส้นทาง ในวันที่ 25 พ.ย.นี้จะไม่ยอมให้มีการยึดทำเนียบและสนามบินอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ ยังไม่มีการประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าไปถึงขั้นจะต้องหาสถานที่สำรองเพื่อเป็นสถานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 25 พ.ย.นี้
“จะชุมนุมรัฐบาลก็ไม่อะไร แต่ห่วงมือที่ 3 และยืนยันว่าตำรวจจะไม่สลายการชุมนุม ตอนกลางคืนที่ผ่านมาได้มีการติดป้ายเป็นเขตใช้แก๊สน้ำตาเพื่อให้รู้ว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวอีกว่า เหตุผลที่ตนเข้ามาช่วยดูแลสถานการณ์การชุมนุมเนื่องจากรัฐบาลเห็นว่าตนสนิทกับตำรวจเยอะ แม้ไม่มีอำนาจสั่งการแต่ก็ทำหน้าที่ประสานงานและยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะไม่ได้ติดต่อกัน ซึ่งหน้าที่ของตนเพียงแค่เรียกน้องๆ ตำรวจที่รักกันมาพูดคุยกันเพื่อประเมินสถานการณ์โดยวันนี้ ที่ได้เรียก พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ชลบุรี มาคุยก็เพราะมีข่าวว่าจะมีการจ้างแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานใน จ.ชลบุรี มาร่วมชุมนุมที่ถนนราชดำเนิน
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำม็อบราชดำเนินรู้สึกไม่ปลอดภัยที่มีตำรวจ 4 นายตามประกบว่า ตนหวังดีไม่ได้ต้องการข่มขู่อะไร ตนผิดด้วยหรือที่ส่งตำรวจ 4 นายไปดูแลเวลาที่นายสุเทพเคลื่อนไหว ถึงขั้นเอาไปด่ากันบนเวทีปราศรัย หากนายสุเทพบอกว่าไม่ต้องการให้ดูแล ตำรวจก็จะไม่ดูแล ส่วนการที่กระทรวงแรงงานซื้อผลไม้ไปแจกตำรวจที่ดูแลความเรียบร้อยในการชุมนุมที่ถนนราชดำเนินนั้นตนก็ใช้เงินส่วนตัว ไม่ได้ใช้เงินราชการ
“ผมจะไปขอใบมอบอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อฟ้องนายสุเทพในข้อหาหมิ่นประมาท มีการปราศรัยใส่ร้ายถึงขั้นเนรเทศนายกรัฐมนตรีและตระกูลชินวัตรออกนอกประเทศเพราะทุกคนมีศักดิ์ศรีเท่ากันและไม่มีใครกลัวใคร ขอยืนยันว่านายกรัฐมนตรีไม่ยุบ ไม่ลาออก หากใครทำ ผมและสส.พรรคเพื่อไทยจะประท้วง ผมเห็นว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มาเป็นแกนนำแสดงว่าไม่มีเบี้ยที่จะเล่นแล้ว และต้องถูกเช็คบิลแน่ ขอบอกเลยว่ารัฐบาลจะไม่มีงูเห่าย้ายขั้วไปร่วมกับ ปชป.ตั้งรัฐบาล แม้แต่สุนัขเฝ้าพรรคเพื่อไทยยังไม่ยอมเข้าร่วมส่วนกรณีที่พรรค ปชป.ขอขยายเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็น 3 วัน ถ้ามีข้อมูลเด็ด 3 ชั่วโมงก็พอแล้ว” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนความผิดประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา ส.ส.และส.ว. 312 คนว่า ตามปกติแล้วคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมา จะต้องเขียนเป็นคำพิพากษารวมและพิพากษารายบุคคล หลังจากเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจะต้องส่งคำพิพากษาทั้งหมดมายังสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา จึงจะมีผลบังคับใช้สมบูรณ์ตามกฎหมายและมีผลผูกพันกับทุกองค์กร ทาง ป.ป.ช.จึงจะหยิบมาพิจารณาได้ แต่ขณะนี้ ป.ป.ช.พยายามจะพิจารณาให้เสร็จภายใน 72 ชั่วโมงทั้งที่เคยแถลงว่ามีคดีสำคัญค้างอยู่กว่า 2 หมื่นคดี
“พวกผมมีสิทธิ์ไม่เชื่อถือ ไม่เคารพคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ จากนี้ต่อไปศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คนเวลาไปเมืองนอกต้องเอาปี๊บคลุมหัวเพราะคำว่าสภาผัวเมีย ภาษากฎหมายไม่ใช้กันแสดงว่าดูทีวีช่องบลูสกายกันมากแล้วจะให้พวกผมยอมรับคำตัดสินได้อย่างไร” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว