โฆษกม็อบราชดำเนิน ลั่นขจัด “ระบอบทักษิณ” 24 พ.ย. ชูศาลรัฐธรรมนูญบรรยายความเลวร้ายเผด็จการเสียงข้างมาก จี้นายกฯ รับผิดชอบทูลเกล้าฯ ขู่เดินหน้าลงวาระ 3 ม.291 ชาวบ้านรับไม่ได้แน่ เตือน “สุภรณ์” ไม่หยุดกล่าวหาเจอฟ้อง บอกกรรมการสิทธิฯ รับประกันไม่ชุมนุมแรง พร้อมขยายพื้นที่รองรับประชาชน ย้ำจบสิ้นเดือน
วันนี้ (21 พ.ย.) ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ โฆษกเวทีประชาชนราชดำเนิน แถลงถึงท่าทีของการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยว่า จะปักหลักชุมนุมเพื่อปูทางไปสู่การชุมนุมครั้งประวัติศาสตร์ในวันที่ 24 พ.ย.นี้ เพื่อขจัดระบอบทักษิณ ไปสู่ความเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ประเทศไทยมีระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง ทั้งนี้ยังเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมประเด็นที่มา ส.ว.ว่าขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และมีการบรรยายพฤติกรรมการใช้เสียงข้างมากเป็นเผด็จการไม่เป็นไปตามหนทางตามระบอบประชาธิปไตยว่า เป็นข้อพิสูจน์ถึงความเลวร้ายของระบอบทักษิณในความพยายามที่จะได้มาซึ่งอำนาจการปกครองโดยไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
นายเอกณัฐกล่าวว่า ทั้งนี้ยังมีกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำร่างกฎหมายนี้ขึ้นทูลเกล้าฯ ทั้งที่มีการทักท้วงจากหลายฝ่าย จึงต้องให้นายกรัฐมนตรีออกมาแสดงความรับผิดชอบ และที่เลวร้ายคือคนในรัฐบาลออกมาแสดงท่าทีว่าจะมีการลงคะแนนวาระ 3 ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ หากดำเนินการจริงเชื่อว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 309 และอีกหลายมาตราที่จะกระทบต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขจึงเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ หากยังจะเดินหน้าต่อไปก็เชื่อว่าจะมีคนมากกว่าสองล้านคนออกมาประท้วงในวันที่ 24 พ.ย.นี้ เพราะเป็นการนิรโทษกรรมอำพราง
ส่วนกรณีที่นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีการจัดฉากเล่นละครในทำเนียบรัฐบาลอ้างว่ามีทหารพรานจากภาคใต้ได้รับการว่าจ้างจากนายสุเทพให้นำสไนเปอร์เข้าไปยังที่ชุมนุมนั้น นายเอกณัฐตอบโต้ว่า ไม่เป็นความจริง และเตือนนายสุภรณ์ว่าหากยังไม่ยุติการกล่าวหานายสุเทพจะฟ้องร้องเพื่อให้มีการพิสูจน์ความจริงในชั้นศาล พร้อมกับยืนยันว่าการชุมนุมครั้งนี้ไม่ได้มีการใช้อาวุธหรือความรุนแรง โดยนายแพทย์นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิฯ ก็ได้มาตรวจสอบที่ชุมนุมพร้อมกับระบุว่าเป็นการชุมนุมที่สงบปราศจากอาวุธได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ จึงขอให้คนของรัฐบาลเลิกกุข่าวใส่ร้ายประชาชนได้แล้ว แต่ต้องรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ
นายเอกณัฐกล่าวด้วยว่า จะมีการขยายพื้นที่รวมทั้งเครื่องขยายเสียง และจอภาพ เพื่อรองรับประชาชนที่เชื่อว่าจะเข้าร่วมการชุมนุมจำนวนมากในวันที่ 24 พ.ย.นี้ โดยจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ของรัฐที่จะขอคืนพื้นที่ที่อ้างว่าจะใช้เพื่อการจัดงานเฉลิมพระชนมพรรษาวันที่ 5 ธันวาคม และยืนยันว่าการชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย.นั้นไม่ได้เป็นการชุมนุมวันสุดท้าย แต่เป็นการชุมนุมครั้งใหญ่เพื่อล้มระบอบทักษิณให้ได้ภายในวันที่ 30 พ.ย.โดยมั่นใจว่าการชุมนุมของประชาชนจะไม่กระทบต่อการจัดงานเฉลิมพระชนมพรรษาแต่อย่างใด