xs
xsm
sm
md
lg

“รสนา” เสนอ ป.ป.ช.รับไม้ต่อฟัน 312 ส.ส.-ส.ว.ทำขัด รธน. บี้ “ปู” รับผิดชอบ รีบนำขึ้นทูลเกล้าฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รสนา โตสิตระกูล (แฟ้มภาพ)
“รสนา” เผยพอใจผลการตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ เป็นบทเรียนเสียงข้างมากลากไปไม่ถูกต้อง แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและหลักนิติธรรม เสนอ ป.ป.ช.รับไม่ต่อฟัน 212 ส.ส.และ ส.ว.ตามคำร้องที่เคยเสนอไป ขณะเดียวกัน จี้ “นายกฯ ยิ่งลักษณ์” แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก เหตุเคยท้วงติงแล้วกระบวนการตรวจสอบยังไม่เสร็จ แต่รีบนำขึ้นทูลเกล้าฯ ให้ทรงลงพระปรมาภิไธย

วันนี้ (20 พ.ย.) น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพมหานคร ผู้ยื่นคำร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มา ส.ว.ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 กล่าวหลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยว่าเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิถีทางที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรค 1 แต่ยังไม่เข้าเงื่อนไขที่จะยุบพรรคว่า คำวินิจฉัยเป็นไปตามที่พวกตนร้องไป เพื่อให้ร่างแก้ไขดังกล่าวเป็นโมฆะไม่ได้เรียกร้องเรื่องการยุบพรรค ซึ่งถือว่าคำวินิจฉัยของศาลที่ออกมาตนพอใจแล้ว และคิดว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต้องนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไปประกอบในการพิจารณากรณี ส.ว.ได้ยื่นเรื่องถอดถอน 310 ส.ส.เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว.โดยมิชอบ

สำหรับความรับผิดชอบของ ส.ส.และ ส.ว.ทั้ง 312 คนที่ร่วมลงชื่อและเห็นชอบผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้นั้น น.ส.รสนากล่าวว่า ที่ผ่านมานักการเมืองของไทยไม่เคยรับผิดชอบทางการเมืองจากการกระทำของตัวเอง ต้องใช้ข้อกฎหมายบังคับ

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ตนเห็นว่าผู้ที่ต้องแสดงความรับผิดชอบที่ชัดเจน คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เนื่องจากพวกตนได้ท้วงติงแล้วว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวยังไม่เรียบร้อย ยังไม่ได้รับรองอย่างถูกต้อง อยู่ระหว่างเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังนำขึ้นทูลเกล้าฯ ให้ทรงลงพระปรมาภิไธย ดังนั้นต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ด้วยการลาออกจากตำแหน่ง และให้ผู้อื่นที่มีความรู้ความสามารถขึ้นมาทำหน้าที่ ซึ่งในพรรคเพื่อไทยก็มีหลายคน เช่น พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี

“เรื่องนี้จะเป็นบทเรียนสำหรับเสียงข้างมากในสภาว่า การมีเสียงข้างมากไม่ใช่ว่าจะทำได้ถูกต้องเสมอไป ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย และหลักนิติธรรม”


กำลังโหลดความคิดเห็น