เลขานุการ รมต.สำนักนายกฯ อ้างรัฐไม่ขวางชุมนุม เตรียมส่งตำรวจไปขอคืนพื้นที่ ไล่ไปนอนกลิ้งสนามหลวง เย้ยภายในเดือนนี้มวลชนลด เพราะ “เทือก” สู้เพื่อตัวเอง ด้าน กทม.ให้ 24 โรงเรียนเปิดเรียนตามปกติ ให้อำนาจ ผอ.เขตสั่งปิดหากมีเหตุฉุกเฉิน
วันนี้ (13 พ.ย.) นายวิม รุ่งวัฒนจินดา เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าภายหลังศาลโลกมีคำพิพากษาคดีข้อพิพาทปราสาทพระวิหารแล้ว นายกรัฐมนตรีสบายใจขึ้น หลังจากนี้ก็จะดำเนินการตามเจตนารมณ์ของศาล และต้องเป็นไปตามกฎหมายภายใต้รัฐธรรมนูญไทย ส่วนการชุมนุมกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ รัฐบาลไม่ขัดขวาง ไม่สลายการชุมนุม ถ้าการชุมนุมยังอยู่ในกรอบของกฎหมายถือเป็นสิ่งที่กระทำได้ภายใต้รัฐธรรมนูญระบอบประชาธิปไตย
ทั้งนี้ การชุมนุมที่ส่งผลกระทบกับเดินทางของประชาชน เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะเข้าไปเจรจาขอพื้นที่เพื่อเปิดเส้นทางการจราจร ขณะที่การชุมนุมของภาคสังคมได้ยุติลงแล้ว จะมีเพียงการชุมนุมของพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี ยอมที่จะลาออก พร้อมกับ 8 ส.ส.เพื่อมาชุมนุม ยิ่งทำให้มวลชนลดลง เพราะเห็นแล้วว่านักการเมืองทำเพื่อตัวเอง
นายวิม กล่าวต่อว่า ในส่วนของรัฐบาลยังยึดหลักการเดิมไม่ใช้กำลังกับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่หากมวลชนมาร่วมชุมนุมน้อยลง เจ้าหน้าที่ตำรวจมีแผนที่จะไปเจรจาขอให้มีการเปิดพื้นที่จราจร โดยมีความเป็นไปได้ที่จะขอให้ไปชุมนุมที่ท้องสนามหลวงแทน แต่ก็เชื่อว่าไม่เกินกลางเดือน พ.ย.จำนวนผู้ชุมนุมจะลดลงไปเรื่อยๆ เนื่องจากเวลานี้เป็นการชุมนุมทางการเมืองมากกว่า เพราะประเด็นกฎหมายนิรโทษกรรม และคดีปราสาทพระวิหารชัดเจนแล้ว
อีกด้านหนึ่ง นายอรรถพร สุวัธนเดชา รองปลัดกรุงเทพมหานคร ได้มอบแนวทางการปฏิบัติกรณีการปิดโรงเรียนในพื้นที่ชุมนุม เขตพระนคร ดุสิต และป้อมปราบฯ ดังนี้ 1.ให้ทั้ง 24 โรงเรียน เปิดเรียนตามปกติตั้งแต่ 14 พ.ย.56 และให้เลิกเรียนในเวลา 14.30 น.2.อำนาจในการสั่งปิดเรียนหากเกิดกรณีฉุกเฉินให้อยู่ในการพิจารณาของผู้อำนวยการเขต 3.หากเกิดกรณีฉุกเฉินเร่งด่วน ให้โรงเรียนจัดหาสถานที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก เพื่อรอให้ผู้ปกครองมารับกลับ