“มาร์ค” จวกรัฐไม่แจงคำพิพากษาพระวิหาร เตือน ตร.อย่าเลือกข้างลุยม็อบ

หน.ประชาธิปัตย์ จวกรัฐไม่แจงรายละเอียดคำพิพากษาพระวิหาร ชี้ยังไม่ชัดรัฐทำอะไรต่อ แนะชาวบ้านดูเอาม็อบไหนมุ่งรุนแรง เตือนตำรวจอย่าเลือกข้าง

วันนี้ (13 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงท่าทีรัฐบาลภายหลังศาลโลกพิพากษาคดีพิพาทปราสาทพระวิหารว่า ต้องติดตามเรียกร้องความโปร่งใสให้รัฐบาลเคารพหลักการการมีส่วนร่วมของประชาชนของรัฐสภา และท่าทีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่สงวนท่าทีอยู่นั้นถูกต้อง แต่ก็ต้องจับตาดูความรอบคอบรัดกุมการรักษาผลประโยชน์รัฐบาลเรื่องนี้ต่อไป ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงพิพากษาทั้งหมด โดยเฉพาะนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การต่างประเทศ ที่ระบุว่าไทยไม่เสียพื้นที่ 4.6 ตร.กม. แต่ข้อเท็จจริงปฏิเสธไม่ได้ว่าคำพิพากษา ย่อหน้าที่ 98 เขียนชัดเจนว่าการตีความคำพิพากษาปี 2505 พื้นที่ที่ศาลเห็นว่าเป็นอธิปไตยกัมพูชาออกมานอกเขตรั้วลวดหนามที่คณะรัฐมนตรีไทยวางไว้เมื่อปี 2505 และกำหนดนิยามพื้นที่ทุกทิศว่า ใช้อะไรเป็นเส้นแบ่ง เช่นตะวันออกคือหน้าผา ตะวันตกคือหุบเขาระหว่างภูมะเขือกับเขาพระวิหาร เหนือระบุถึงแผนที่ 1 ต่อ 200,000 แต่ศาลยอมรับย่อหน้าต่อมาว่าไทยยกประเด็นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ไม่สามารถปรับลงพื้นที่จริงได้ จึงเป็นเรื่องที่ 2 ประเทศต้องพูดคุยกัน แต่ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าขั้นตอนที่รัฐบาลจะดำเนินการคืออะไร

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ทั่วประเทศ ทำให้มีม็อบ 2 กลุ่มขึ้นมาและอาจเกิดมิคสัญญีว่า ประชาชนต้องดูว่าฝ่ายไหนมุ่งสู่ความรุนแรง เจ้าหน้าที่รัฐก็มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ไม่ได้มีหน้าที่เลือกข้าง ดังนั้นไม่ใช่ว่าถ้าเป็นม็อบเชียร์รัฐบาลอำนวยความสะดวกให้ ทั้งที่กำลังเสนอให้มีความรุนแรง แกนนำบางคนที่ศาลให้ประกันตัวออกมา คำพูดคำจาบางอย่างเหตุเจ้าหน้าที่ไม่ไปพิจารณาว่าต้องถอนประกันหรือไม่ ขณะที่ม็อบที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลนี้ถ้าเขาปฏิบัติอยู่ตามกฎหมายก็ต้องเคารพสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ อยากจะเตือนเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายว่าให้ปฏิบัติตามนี้