ผู้ประสานงาน คปท.เผยชมรมนักธุรกิจจ่อร่วมเวทีมัฆวานฯ เตรียมคุย “สมเกียรติ” แวบถวายฎีการ่วมกองทัพธรรม ด้าน “แซมดิน” แจงเป็นมติผู้ชุมนุมไม่รับอำนาจการบริหารงานรัฐ เผยแผนสภาประชาชนเอาคนหลายอาชีพมาบริหารแทน
วันนี้ (12 พ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 14.30 น. นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงานเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (12 พ.ย.) เครือข่ายฯได้เข้าร่วมเวทีปราศรัยกับการชุมนุมของชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย ที่ถนนสีลม ซึ่งได้รับการตอบรับและจะมาร่วมชุมนุมกับกลุ่ม คปท. สำหรับกรณีภาคีเครือข่ายประชาชน 77 จังหวัด ซึ่งร่วมชุมนุมกับ คปท. แต่ไปร่วมยื่นถวายฎีกากับกลุ่มกองทัพธรรม และกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) เพื่อทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานจัดตั้งสภาประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศไทย ซึ่งอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของ คปท.ด้วยนั้น ตนจะขอหารือกับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ประธานภาคีเครือข่ายประชาชน 77 จังหวัดอีกครั้ง เพราะเรื่องนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดมากนัก แต่ส่วนตัวก็เห็นด้วยที่จะมีการปฏิวัติโดยประชาชน แต่อยากให้มีความชัดเจนมากกว่านี้ นอกจากนี้ จุดยืนที่สำคัญของ คปท.จะยังไม่มีการเคลื่อนไหวไปที่ใด
ด้าน ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ผู้ประสานงานกองทัพธรรมมูลนิธิ หนึ่งในแกนนำ กปท.กล่าวถึงการถวายฎีกาเพื่อจัดตั้งสภาประชาชนว่า เป็นเรื่องที่กลุ่มผู้ชุมนุมมีมติแล้วว่าจะไม่รับอำนาจการบริหารงานของรัฐบาล จึงได้ดำเนินการไปถวายฎีกาดังกล่าว สำหรับสภาประชาชนขณะนี้ยังไม่ได้ระบุในรายละเอียดว่าจะดำเนินการอย่างไรบ้าง แต่เบื้องต้นได้วางแผนว่า จะรวบรวมบุคคลจากหลากหลายอาชีพที่มีความเหมาะสมให้ได้ 99 คน มาทำหน้าที่บริหาร คล้ายระบบ ส.ส.ในสภา แต่จะคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสม ทั้งนี้ระบุว่าสามารถดำเนินการได้เพียงเท่านี้ เพราะไม่มีเจตนาจะใช้ความรุนแรงใดๆ และหากฎีกาดังกล่าวไม่ได้รับการพิจารณาก็จะไม่ดึงดันในเรื่องนี้อีก
ขณะที่บรรยากาศการชุมนุม คปท.วันนี้ ช่วงบ่ายเริ่มคึกคักกว่าช่วงเช้า แม้อากาศจะร้อนอบอ้าว แต่มวลชนก็ทยอยเข้าพื้นที่เพิ่มขึ้น บนเวทีมีการแสดงดนตรีสลับกับการปราศรัย โดยเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ซึ่งเป็นการลดบทบาทประชาชน แต่ไปเพิ่มอำนาจให้นายกรัฐมนตรี