รองประธานสภาฯ เชิญผู้เสนอร่างปรองดอง ขอถอน 6 ฉบับพ้นสภา เผยเจ้าตัวไม่ขัดข้อง จ่อชงที่ประชุมวันนี้ ไม่มีสับขาหลอก อ้างไม่เกี่ยวข้องวุฒิฯ ดูนิรโทษกรรม “บัง” ปรามอย่าพูดจุดวุ่นจากเหตุรัฐประหาร บอกทุกเรื่องมีเหตุมีผล
วันนี้ (7 พ.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 11.30 น. นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ได้หารือร่วมกับนายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล นายนิยม วรปัญญา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ และนายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย ผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ เพื่อพิจารณาว่าจะถอนร่างกฎหมายทั้ง 6 ฉบับ ออกไปก่อนได้หรือไม่
โดยนายเจริญกล่าวว่า ได้เชิญผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯทั้ง 5 ฉบับ และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ 1 ฉบับ มาหารือถึงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ โดยนายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์และส.ส.บัญชีรายชื่อ ผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ติดภารกิจไม่สามารถร่วมประชุมได้ แต่ก็ได้พูดคุยและสอบถามว่าเพื่อความสงบของประเทศ จะถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกจากระเบียบวาระได้หรือไม่ ซึ่งทั้ง 5 ท่านมีความเห็นเดียวกันว่าไม่ขัดข้อง ซึ่งในวันนี้ (7 พ.ย.) ภายหลังการพิจารณากระทู้ทั่วไปในที่ประชุมสภา ตนจะอาศัยข้อบังคับที่ 21 หยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาหารือในที่ประชุม และขอให้ทั้งผู้เสนอร่างกฎหมายทั้ง 6 ฉบับ ลุกขึ้นถอนร่างกฎหมายออกทั้ง 6 ฉบับ
“เมื่อผู้ที่เกี่ยวข้องประสงค์ถอนร่างกฎหมายออกแล้ว ความเป็นไปได้ที่จะหยิบยกขึ้นมาพิจารณาใหม่คงไม่มีแล้ว ไม่มีการสับขาหลอกแล้ว ถอนก็คือถอน อย่างไรก็ตาม ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ผ่านการพิจารณาวาระ 3 จากสภาผู้แทนราษฎรแล้วก็ต้องเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาต่อไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ” นายเจริญกล่าว
นายเจริญกล่าวต่อว่า เมื่อผู้เสนอร่างมีความประสงค์ที่จะถอนแล้ววิปฝ่ายค้านยังพูดเรื่องอื่นคงไม่ได้ ต้องมีสัจจะรักษาวาจา ส่วนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ เป็นเรื่องของวุฒิสภา เราไปเกี่ยวข้องไม่ได้ เพราะหลังจากสภาฯ ส่งไปแล้วก็เป็นหน้าที่ของเขา
ส่วนที่ผู้ชุมนุมให้ตีว่าเป็นกฎหมายการเงิน นายเจริญกล่าวว่า เป็นวิธีที่เขาคิด ซึ่งน่าจะคิดตั้งแต่การพิจารณาตั้งแต่ในที่ประชุมสภาฯ แล้ว แต่ก็ปล่อยให้ผ่านไป วันนี้สภาฯ จะพิจารณาเป็นอย่างอื่นไม่ได้ต้องรอวุฒิสภาพิจารณาก่อน
ขณะที่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า การเสนอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ มีเจตนาเพื่อต้องการสร้างความปรองดองในชาติ แต่ถ้าขณะนี้บ้านเมืองเกิดความขัดแย้งจากร่างกฎหมายดังกล่าว ก็ยินดีถอนร่างออกจากการประชุม เพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง
“ขณะนี้ประชาชนและเยาวชนกำลังเกิดความสับสน ซึ่งผมเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้มาก ซึ่งในอนาคตรัฐบาลไหนจะหยิบร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ขึ้นมาพิจารณา ก็อาจเป็นไปได้ เพราะประเทศต้องการความปรองดอง และเป็นหน้าที่ของผู้แทนราษฎรและฝ่ายบริหาร ในการทำให้บ้านเมืองสงบสุข” พล.อ.สนธิกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์บ้านเมืองที่วุ่นวายในตอนนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการรัฐประหารปี 2549 ที่ท่านมีส่วนเกี่ยวข้อง พล.อ.สนธิกล่าวว่า อย่าไปย้อนถึงวันนั้น ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นย่อมมีเหตุผล เอาไว้เป็นบทเรียน ทำอะไรจะได้ไม่เป็นปัญหาอีก ส่วนตัวคิดว่าทหารเองก็ได้รับบทเรียน
ด้านนายพีรพันธุ์กล่าวว่า ก่อนเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ได้ชี้แจงกับประชาชนว่าประเทศต้องการความปรองดอง ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากประชาชนจึงได้ยื่นเสนอต่อสภา แต่ในวันนี้เมื่อเกิดความสับสนในกฎหมาย ก็ไม่ประสงค์ที่จะถือไว้ เพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง จึงได้พูดคุยกับคณะแล้วเห็นว่าจะถอดถอนออกจากวาระการประชุม
