โฆษกเพื่อไทยหมดมุก นั่งเทียนเขียนบันได 5 ขั้น อ้าง ปชป.ต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หวังล้มรัฐบาล ย้ำพรรคทำคู่มือส่ง ส.ส.กล่อมประชาชน “หมวดเจี๊ยบ” ย้ำจุดยืนรัฐบาลเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ขอกลุ่มสมาชิกราชนิกูลเปิดใจรับฟัง อ้างบทวิเคราะห์กระทรวงท่องเที่ยวฯ ม็อบต้านนิรโทษฯ กระทบท่องเที่ยว กลุ่มประชาชน 40 คน มอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจบริหารประเทศต่อ
วันนี้ (4 พ.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวว่า ในการประชุมพรรคในวันนี้ ที่ประชุมได้กำชับให้ ส.ส.เข้าร่วมการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันที่ 5 พ.ย.และร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 6-7 พ.ย.และขอบคุณที่สมาชิกเข้าร่วมประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 วาระ 3 ในวันนี้ (4 พ.ย.) รวมถึงโหวต ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วาระ 2 และ 3 เมื่อวันที่ 31 ต.ค.อย่างพร้อมเพรียง
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้าน ออกมาโจมตีเกี่ยวกับ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทางพรรคก็ได้จัดทำคู่มือให้กับสมาชิกพรรคไปทำความเข้าใจกับประชาชน ว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เป็นการให้อภัยทุกฝ่ายซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และไม่เกี่ยวกับการคืนเงินให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เหมือนที่ฝ่ายค้านโจมตี ส่วนที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 10 กว่าคน นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ มีการเคลื่อนมวลชนในวันนี้ ทั้งที่มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภานั้น ถือว่าไม่ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ มองว่าเป็นการดำเนินการที่ขัดกับหลักจริยธรรมของ ส.ส.จึงเตรียมยื่นเรื่องดังกล่าวต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ในวันที่ 6 พ.ย.นี้
พร้อมกันนี้ นายพร้อมพงศ์ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในครั้งนี้ เพื่อต้องการล้มรัฐบาล โดยใช้แผนบันได 5 ขั้น คือ 1.กดดัน ส.ว.ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม 2.ขยายแผลความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทย และ นปช. 3.หาเสียงสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า 4.ลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาลเพื่อหวังล้มรัฐบาล และ 5.ให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง และนายสุเทพ ได้มาทำหน้าที่ในฝ่ายบริหารอีกครั้ง และในขณะนี้ซึ่งมีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ใน 3 เขตของ กทม.นั้น เชื่อว่าหากการจัดชุมนุมขัด พ.ร.บ.ความมั่นคง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคงมีการดำเนินการ แต่ทางพรรคก็จะรวบรวมหลักฐานต่างๆ หากมีการกระทำผิด พ.ร.บ.พรรคการเมือง หรือกฎหมายอื่นก็จะมีการยื่นเอาผิดต่อไป
เมื่อถามถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน แถลงข่าวเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมอีกฉบับเข้าสู่สภา นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า การที่ ร.ต.อ.เฉลิม จะเสนอกฎหมายก็ถือเป็นเอกสิทธิ์ที่สามารถทำได้ แต่ขณะนี้เมื่อร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไปสู่การพิจารณาของ ส.ว.แล้ว ก็ต้องเดินหน้าต่อไป
ก่อนหน้านี้ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอยืนยันว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และที่ผ่านมาได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งเรื่องการปิดกั้นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมเกี่ยวกับสถาบันฯ ที่รัฐบาลทำได้มากกว่าสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ การดำเนินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และรัฐบาลยังเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ในส่วนของแผนงาน เทิดทูน พิทักษ์ และรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ ถึง 13,607.8 ล้านบาท รวมทั้งได้สนับสนุนโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
“ขอให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ มีความยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขฯ อย่าได้สงสัยในจุดยืนของรัฐบาลที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะรัฐบาลมีแต่ความจงรักภักดี และไม่ได้จงรักภักดีแค่ปาก แต่ได้แสดงออกอย่างเป็นรูปธรรมมาโดยตลอด ทั้งนี้ รัฐบาลเข้าใจดีว่า กลุ่มสมาชิกราชนิกูลและประชาชนบางกลุ่มมีความกังวลและห่วงใยสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงออกมาแสดงความคิดเห็นต่างๆ แต่ก็หวังว่าทุกฝ่ายจะเปิดใจรับฟังคำชี้แจงของรัฐบาล และให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลด้วย” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวว่า รัฐบาลอยากให้พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นแกนนำสำคัญในการเคลื่อนไหวทางการเมืองขณะนี้ ใช้ความระมัดระวังในการควบคุมการชุมนุม ให้อยู่ในกรอบของกฎหมายและอย่าปล่อยให้มีการใช้ความรุนแรง เพราะอาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนและการท่องเที่ยวของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงไฮซีซันปลายปีนี้ ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้จัดทำบทวิเคราะห์ สถานการณ์ท่องเที่ยวไทยในปัจจุบันและแนวโน้มผลกระทบจากสถานการณ์การเมือง คาดว่าสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ ที่มีการเดินขบวนในถนนสายหลักของกรุงเทพฯ และชุมนุมยืดเยื้อ จะส่งผลให้นักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออกและยุโรป ในเดือนพฤศจิกายนหายไปราว 240,000 คน ของจำนวนนักท่องเที่ยวที่ตั้งเป้าไว้ และจะเสียหายราว 1 หมื่นล้านบาท
มีรายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น.ที่ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มประชาชนจากเขตต่างๆ ประกอบด้วย เขตคันนายาว บึงกุ่ม ดุสิต ดินแดง วังทองหลาง และลาดพร้าว ประมาณ 40 คน เดินทางมามอบช่อดอกไม้พร้อมถือป้ายให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในการบริหารประเทศต่อไป โดยมี พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ ร.ท.หญิง สุณิสา เป็นตัวแทนรับ ทั้งนี้ พล.ต.ต.ธวัช ได้กล่าวขอบคุณกลุ่มประชาชน พร้อมระบุว่าจะนำความปรารถนาดีนี้เรียนให้นายกรัฐมนตรีรับทราบทันที