ส.ส.บัญชีรายชื่อประชาธิปัตย์ จวกเพื่อไทยสภาทาสน่าอดสูใช้เสียงข้างมากเพื่อพวกพ้อง เป็นตราบาปสังคม ลั่นทำทุกทางหยุดนิรโทษกรรม โต้ “อำนวย” ยันถูกหักดิบตั้งแต่ต้น แฉอดีตนายกฯ นั่งบัญชาเกมหลังบัลลังก์สภา เตือนนายกฯ อย่าซื่อบื้อประณามคนตี เลขาฯ “กรณ์” ซัดสุดอุกอาจทุบกบาลกลางร้านก๋วยจั๊บ
วันนี้ (2 พ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเวลา 10.45 น. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการลงมติเห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ วาระ 2 และ3 เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ว่า เรื่องนี้เร่งรีบมาตั้งแต่วาระแรกเพื่อให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านไปเร็วที่สุด ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และขัดหลักนิติรัฐ นิติธรรม ที่ผ่านมาไม่เคยมีการนิรโทษกรรมให้ผู้กระทำการทุจริตจึงมองว่าการทำหน้าที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นสภาทาสน่าอดสู เพราะไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามข้อบังคับและรัฐธรรมนูญ เสียงข้างมากสกัดการตรวจสอบกฎหมายฉบับนี้ตลอดเวลาและใช้เสียงข้างมากเพื่อประโยชน์ตนเองกับพวกพ้อง จะเป็นตราบาปให้สังคมไทยในอนาคต ซึ่งสังคมยังไม่หมดหวัง เพราะยังมีขั้นตอนกลั่นกรองกฎหมายของวุฒิสภา เชื่อว่า ส.ว.ส่วนมากจะมีจิตสำนึกว่ากฎหมายนี้ขัดหลักนิติรัฐ นิติธรรม และศีลธรรมของบ้านเมือง แต่หากผ่านชั้นวุฒิสภา ก็จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ ขณะนี้ทีมกฎหมายกำลังรวมรายชื่อ ส.ส.ของพรรค ยืนยันว่าประชาธิปัตย์จะทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดกฎหมายฉบับนี้
นายองอาจกล่าวว่า การที่นายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ระบุว่าต้องประชุมให้เสร็จและลงมติทันที เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าจะมีการนำผู้ชุมนุมมาปิดล้อมรัฐสภานั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง แต่กระบวนการพิจารณาหักดิบมาตั้งแต่ต้น โดยการประชุมสภาฯ วันที่ 31 ต.ค. ระหว่างอภิปรายชื่อร่างและคำปรารภ มีส.ส. พรรคเพื่อไทย ที่สนิทสนมกับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มากระซิบบอกว่าให้อภิปรายในส่วนชื่อร่างและคำปรารภ ให้ครอบคลุมมาตรา 3 ไปด้วยเลย เพราะรัฐบาลจะเร่งให้จบภายในคืนวันที่ 31 ต.ค.จะทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้อภิปรายแน่นอน อีกทั้งยังมีอดีตนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ไม่ได้เป็น ส.ส. มานั่งบัญชาการอยู่หลังบัลลังก์ การที่ประธานสั่งพักการประชุมบ่อยๆ จึงเป็นการไปรับใบสั่งให้ปิดการประชุมใช่หรือไม่ ดังนั้นสิ่งที่นายอำนวย ระบุว่าไม่ได้วางแผนล่วงหน้าจึงเป็นการโกหกต่อสาธารณชน
ส่วนกรณีที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยออกให้แต่ละอำเภอขึ้นป้ายสนับสนุนกฎหมายนิรโทษกรรม แต่สุดท้ายออกคำสั่งระงับคำสั่งดังกล่าว นายองอาจกล่าวว่า แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีส่วนร่วมกับกฎหมายฉบับนี้ การที่นายกฯ ออกมาปฏิเสธก็ไม่เป็นความจริง เพราะการประชุมคณะรัฐมนตรี นายกฯ นั่งร่วมกับ รมว.มหาดไทยอยู่แล้ว จะไม่ทราบการกระทำได้อย่างไร กฎหมายฉบับนี้ ต้องใช้เสียงข้างมาก เป็นเสียงของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ที่พรรคเพื่อไทยมีมติกำชับออกมาว่าให้ ส.ส.ลงมติเห็นด้วย ดังนั้นรัฐบาลมีส่วนสำคัญผลักดันกฎหมายฉบับนี้ จึงขอความกรุณา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ว่าอย่าซื่อบื้ออีกต่อไป
นายองอาจยังแถลงถึงกรณีที่นายพัสณช เหาตะวานิช เลขานุการส่วนตัวของนายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป. ถูกทำร้ายระหว่างนั่งรับประทานอาหารหลังกลับจากการชุมนุมคัดค้านนิรโทษกรรมที่สามเสน โดยระบุว่า ปชป.ขอประณามการกระทำ และผู้ใดก็ตามที่สั่งการให้คนร้ายมากระทำการในครั้งนี้ เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีการใช้มาตรการข่มขู่คุกคาม ทำร้ายร่างกาย บุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน เปิดโปง ความเลวร้ายของรัฐบาลมากยิ่งขึ้น
“จากการสอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์พบว่าเป็นพฤติกรรมอุกอาจมาก เพราะเกิดขณะที่นั่งอยู่ในร้านก๋วยจั๊บ ผมถือว่าเป็นการกระทำที่ลุแก่อำนาจ ก่อนหน้านี้เลขาฯ คุณกรณ์ถูกอาฆาตในโซเชียลมีเดียตลอดมา เพราะเชื่อว่าเลขาฯ คุณกรณ์ คือผู้อยู่เบื้องหลังในการต่อต้านรัฐบาลในโซเชียลมีเดียมาตลอด” นายองอาจกล่าว