สภาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย เริ่มถกวันระดมพลโค่นระบอบทักษิณ หลังส่อนิรโทษกรรมเหมาเข่งชัด ประกาศดีเดย์เมื่อร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสภาฯ วาระ 3 เมื่อไหร่ดีเดย์ทันที และเมื่อคำตัดสินศาลโลกไทยเสียอธิปไตยและดินแดน
วันนี้ (27 ต.ค.) ที่หอประชุมศรีบูรพา ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ สภาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย นำโดยนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วยนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน และเครือข่ายภาคประชาชน 77 จังหวัด ได้จัดประชุมเพื่อกำหนดท่าทีในการเคลื่อนไหวใหญ่ โดยมีนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เป็นประธานในที่ประชุม และได้มีการให้ตัวแทนประชาชนที่มาเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น ซึ่งส่วนใหญ่มีท่าทีเร่งรัดให้แกนนำเครือข่ายภาคประชาชน 77 จังหวัด เป่านกหวีดจัดชุมนุมใหญ่โดยทันที
นายสมเกียรติ ได้บอกให้ผู้เข้าร่วมประชุมใจเย็นๆ การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะใช้ความรุนแรงไม่ได้ และที่สำคัญต้องรอดูท่าทีจากสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากหากเราผลีผลาม ภาคประชาชนอาจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ไม่สามารถปฏิรูปประเทศได้เจตนารมณ์ และทางรัฐบาลเองก็อาจชะลอการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมได้ หรือไม่ศาลโลกอาจจะมีคำตัดสินที่เป็นผลดีกับประเทศไทย หากเราเร่งดำเนินการอาจจะเหนื่อยเปล่า
จากนั้น เวลา 14.30 น. นายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำเครือข่าย แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้มีมติ สนับสนุนการเคลื่อนไหวของประชาชนกลุ่มต่างๆ ที่มีการชุมนุมคัดการบริหารงานของรัฐบาลอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็น เกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้เครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) และกลุ่มที่เคลื่อนไหวกรณีปราสาทพระวิหาร ส่วนการกำหนดการ เป่านกหวีดชุมนุมใหญ่นั้น จะจัดขึ้นในวันถัดไปหลังจากสภาผู้แทนราษฎร มีมติผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วาระ 3 เสร็จสิ้น โดยไม่รอการพิจารณาของวุฒิสภา หรือ หลังจากมีคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเกี่ยวกับกรณีพิพาทไทยกัมพูชา แล้วไทยเสียดินแดน และระหว่างนี้ก็ให้มวลชนในแต่ละจังหวัด จัดกิจกรรมให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับประเด็นที่กล่าวมา เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดชุมนุมใหญ่ ทั้งนี้มติที่ประชุมยังได้มอบหมายให้ นายสมเกียรติ เป็นผู้ประสานงานกำหนดท่าทีในการเคลื่อนไหวต่อไป
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า หากมีการเป่านกหวีดใหญ่ครั้งนี้ จะมีประชาชนออกมาเข้าร่วมมากกว่าสมัยกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ชุมนุมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และจากที่พูดคุยกับแกนนำ พันธมิตรฯ ที่มีคดีความติดตัวจากการชุมนุมทางการเมืองอยู่นั้น มีประมาณ 60-70 คน ที่จะเข้าร่วมในการชุมนุมครั้งนี้ และก่อนที่จะมีการชุมนุมใหญ่แกนนำที่มีคดีความติดตัวก็จะได้แจ้งต่อศาลว่าจะจัดการชุมนุมอย่างสงบปราศจากอาวุธ ไม่มีการปลุกระดม พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่า เหตุที่พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มีการขยายไป ตั้งแต่ปี47- 56 เนื่องจากต้องการนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เกี่ยวกับกรณีคดีตากใบ รวมถึง กรณีจำนำข้าว ที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ระหว่างการพิจารณาด้วย
มีรายงานบรรยากาศในการประชุมว่า มีประชาชนที่เดินทางมาร่วมประชุมจนเต็มหอประชุมเล็ก จนมีบางส่วนล้นออกมา และในที่ประชุมก็ได้มีตัวแทนประชาชนกล่าวโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะได้ประโยชน์ จาก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม อย่างต่อเนื่อง และในวันนี้ก็ได้มีบุคคลสำคัญเข้าร่วม อาทิ พล.ร.อ.พระจุลย์ ตามประทีป อดีตทหารคนสนิท พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ, พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร แกนนำกลุ่มไทยสปริง, พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตประธานที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย, นายนิติธร ล้ำเหลือ นายอุทัย ยอดมณี แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และนายอุเทน ชาติภิญโญ ว่าที่หัวหน้าพรรคคนไทย เข้าร่วม