“ไพร่เทียม” อ้างยึดหลักการเดิมไม่ขอล้างผิด หวังบันทึกประวัติศาสตร์การเมืองนำคนฆ่า ปชช.ลงโทษ โยนแก้ถ้อยคำนิรโทษฯ แกนนำเรื่องของ กมธ. แนะฟังรอบๆ ด้าน สะกิด พท.เสี่ยงเจอยื่นขัด รธน. ไม่สำเร็จส่อมีปัญหา ชี้ช่องอย่าล้างผิดตัวบุคคล ให้เหมาลบการกระทำขององค์กร มั่นใจแดงไม่ร่วม ปชป.ล้มรัฐ ย้ำจ่าฝูงแดงจุดยืนเดียวกัน ไม่รับปากหยุดนำกุ๊ยป่วน แขวะ พธม.ยุติบทบาทไม่จริง
วันนี้ (22 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ปรับแก้ถ้อยคำให้มีการนิรโทษกรรมให้กับแกนนำและผู้มีอำนาจสั่งการว่า ส่วนตัวยังยืนยันหลักการเดิมที่ไม่ประสงค์จะได้รับอานิสงส์จากร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในครั้งนี้ และยังยืนยันว่าผู้ที่กระทำต่อชีวิตของประชาชนจะต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีตามกฎหมาย เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องความอาฆาตแค้นหรือโทสะส่วนบุคคล แต่เป็นเรื่องหลักการที่จะต้องบันทึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ทางการเมืองไทยว่าไม่มีอีกแล้วที่ผู้มีอำนาจจะใช้กำลังกับชีวิตของประชาชนแล้วจะลอยนวลโดยไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงพวกตนที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังความรุนแรงทั้งหมด จะต้องมีการพิสูจน์ทราบในกระบวนการยุติธรรม ส่วนที่คณะกรรมาธิการมีการปรับแก้ถ้อยคำถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมาธิการ เมื่อมีมติออกมาอย่างนั้นจึงเป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการที่จะต้องปฏิบัติออกมา แต่ตนคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงจุดยืน
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ตนได้สื่อสารไปยังสมาชิกพรรคเพื่อไทยเพื่อให้พิจารณาถึงกฎหมายและสถานการณ์จริงที่จะเกิดขึ้นจากกระบวนการผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ เพราะยังมีข้อโต้แย้งในประเด็นที่มีการแปรญัตติออกมาว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือกระบวนการตรา พ.ร.บ.หรือไม่ แน่นอนว่าฝ่ายตรงข้ามจะยื่นเรื่องนี้ต่อศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระใดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากถูกลากเข้าไปเราไม่อาจมั่นใจชะตากรรมของร่างกฎหมายฉบับนี้ได้เลยว่าจะเดินหน้าสู่ผลบังคับใช้ และหากเดินไปแล้วไม่เกิดผลบังคับใช้ สิ่งที่เกิดขึ้นอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ ทั้งนี้ ตนไม่ได้ห่วงการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม เพียงแต่ต้องรับฟังเสียงจากคนฝ่ายเดียวกันและพี่น้องที่เคยร่วมต่อสู้กันมา นอกจากนี้ สำหรับการลบล้างผลพวงจากองค์กรที่มาจากคำสั่งของคณะรัฐประหารนั้น หากเป็นร่างกฎหมายโดยระบุที่ตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือใครก็ตามเป็นรายบุคคลตนเห็นว่าขัดต่อหลักการของการบัญญัติกฎหมาย แต่หากระบุถึงการลบล้างหรือยกเลิกการการกระทำขององค์กรต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากคณะรัฐประหาร ถือเป็นหลักการที่ถูกต้องและฝ่ายประชาธิปไตยยอมรับได้ ดังนั้น การประกาศว่ากฎหมายฉบับนี้จะออกเพื่อใครคนใดคนหนึ่งในความเป็นจริงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
นายณัฐวุฒิกล่าวด้วยว่า ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ปลุกระดมคนเสื้อแดงให้คัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแสดงให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์เอาทุกหน้าเพื่อจะล้มรัฐบาล แต่ยืนยันว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้น แม้คนเสื้อแดงจะเห็นต่างกับคนที่เป็นมิตร แต่ไม่มีทางจะวิ่งไปซบอกฆาตกรเด็ดขาด ไม่มีทางจะเดินทางไปจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ที่มีจุดยืนแจ่มชัดว่าแสวงประโยชน์จากอำนาจเผด็จการมาโดยตลอด พี่น้องคนเสื้อแดงไม่มีความคิดจะไปร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์มาโค่นล้มรัฐบาล ตนยืนยันแทนพี่น้องคนเสื้อแดงได้ ส่วนที่นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตในวัดปทุมวนารามออกมาคัดค้านถือเป็นความเห็นจากอีกมุมหนึ่ง แต่ตนคิดว่าคณะกรรมาธิการควรสดับตรับฟังท่าทีจากหลายๆ ฝ่ายรอบด้านประกอบกับการพิจารณา ขอย้ำว่าตนต้องการนิรโทษกรรมให้กับประชาชนและล้มเลิกกระบวนการจากคณะรัฐประหาร แต่สำหรับแกนนำหรือผู้สั่งการตนว่า เราชวนกันเดินเข้ากระบวนการยุติธรรมแล้วเอาให้สุดซอยในกระบวนการยุติธรรมเสียทีเรื่องนี้ จะได้เป็นบรรทัดฐานต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะยกมือขอไม่รับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่คณะกรรมาธิการมีการปรับแก้ถ้อยคำหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เราไม่ต้องพูดจาให้ยาวไกลไปกว่านั้น แต่จุดยืนตนพร้อมให้พี่น้องประชาชนและสังคมพิสูจน์ว่าเมื่อแสดงจุดยืนเช่นนี้เราก็จะบอกกล่าวกับเพื่อนสมาชิก เรายังมีเวลาก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป ระหว่างนี้การพูดคุยกันจึงเป็นเรื่องจำเป็น และเท่าที่ตนรับฟังแกนนำเสื้อแดงคนอื่นๆ ก็มีจุดยืนแบบนี้
ถามว่า ในเมื่อรัฐบาลกำลังจะทำเรื่องความปรองดอง ทางแกนนำ นปช.จะยุติบทบาทเพื่อให้สอดคล้องกับการออกกฎหมายหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ยังไม่เห็นเหตุผลที่จะประกาศอะไรขนาดนั้น เพราะขณะนี้ก็ไม่มีสัญญาณว่าคนเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวใหญ่อะไร และไม่อยากให้เป็นเหมือนแกนนำ พธม.ที่ประกาศยุติบทบาทไม่เต็มเดือนดี ปัจจุบันก็ขึ้นไปเต็มเวทีอุรุพงษ์ ยังขาดแต่นายสนธิ ลิ้มทองกุลคนเดียว ส่วนคนอื่นไปหมดแล้ว