นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางเข้ากระทรวงกลาโหม เป็นประธานประชุมฝ่ายความมั่นคง เพื่อหารือเตรียมพร้อมรับมือศาลโลกตัดสินคดีพระวิหารในวันที่ 11 พ.ย. 56 โดยมีบรรดาเหล่าทัพพร้อม รมว.ต่างประเทศ เข้าร่วมหารืออย่างพร้อมเพรียง ด้าน “ปึ้ง” ยันไม่ให้ผลคดีกระเทือนความสัมพันธ์กัมพูชา แย้ม “ปู” ส่อเลื่อนเดินทางเยือนเอธิโอเปีย รอฟังคำคัดสินคดี
วันนี้ (21 ต.ค. ) เวลา 09.00 น. ที่กระทรวงกลาโหม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานประชุมฝ่ายความมั่นคง โดยมี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม, นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.การต่างประเทศ, พล.อ.ธนะศักดิ์ ประฏิมาประกร ผบ.สส., พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ., พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร., พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ., พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร., พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ, นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก, นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เลขาฯ กฤษฎีกา และอธิบดีกรมสนธิสัญญา เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยกระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าภาพในการชี้แจงแนวทางการต่อสู้ คดีปราสาทพระวิหารที่ทางกัมพูชาร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศให้พิจารณาคำพิพากษาปี 2505 โดยจะมีการตัดสินในวันที่ 11 พ.ย.นี้ พร้อมกันนี้ที่ประชุมยังมีการหารือกับ ผบ.เหล่าทัพเพื่อรับรายงานสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
ขณะที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศได้เตรียมขั้นตอนดำเนินการเพื่อรองรับคำตัดสินของศาลโลกไว้ทุกทางแล้วเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันนี้ ซึ่งผลการประชุมดังกล่าวจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อขอความเห็นชอบ และประสานไปยังกัมพูชาเพื่อหารือแนวปฏิบัติร่วมกัน โดยเบื้องต้นทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าการดำเนินการหลังคำตัดสินจะต้องไม่ให้กระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
ขณะเดียวกัน กรณีที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางเยือนประเทศเอธิโอเปีย ระหว่างวันที่ 8-10 พฤศจิกายน มีแนวโน้มว่าอาจจะต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะต้องอยู่ติดตามผลการตัดสินของศาลโลก
ทั้งนี้ นายสุรพงษ์ยังเรียกร้องให้กลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่พยายามจะนำเรื่องนี้ไปเป็นประเด็นทางการเมืองให้ยุติการกระทำดังกล่าวเพราะจะถูกสังคมตำหนิ