แกนนำ คปท. ยันคัดค้านกฎหมายล้างผิด “ทักษิณ” ทุกรูปแบบ แต่ยังไม่มีทีท่ายกระดับการชุมนุม ประณามมือมืดเผารถเครื่องเสียง “เฮียเปี๊ยก” เตรียมนำเงินบริจาคช่วยเหลือ ส่งนักศึกษารณรงค์ที่อนุสาวรีย์ชัย ด้านภรรยา พล.อ.ร่มเกล้า ให้กำลังใจการชุมนุม บอกไม่แปลกใจนิรโทษกรรมมาแนวทางนี้ ยันต้องค้นหาความจริงเอาคนผิดลงโทษก่อน ลังเลยื่นข้อเรียกร้องนายกฯ เพราะที่ผ่านมา ไร้ความคืบหน้า
วันนี้ (19 ต.ค.) ที่สี่แยกอุรุพงษ์ บรรยากาศการชุมนุมของเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่จัดการชุมนุมต่อเนื่องเป็นวันที่ 10 ยังคงมีผู้ชุมนุมเข้าร่วมสมทบอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยการเปิดเวทีปราศรัยตั้งแต่เวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา ยังคงมีการปราศรัยโจมตีการบริหารประเทสที่ล้มเหลวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สลับกับการแสดงดนตรีบนเวทีปราศรัย
นายอุทัย ยอดมณี นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง (อศ.มร.) ในฐานะแกนนำ คปท. แถลงข่าวระบุว่า นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง และนักศึกษาอาชีวะที่เข้าร่วมการชุมนุมของ คปท. จะออกรณรงค์เพื่อแจกใบปลิวคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และการทุจริตทุกรูปแบบ และเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมชุมนุมที่แยกอุรุพงษ์ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ขณะเดียวกัน คปท.ขอคัดค้านการออกกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อล้างผิดให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้ต้องหาหนีคดีอาญาแผ่นดินทุกรูปแบบ และขอคัดค้านการนำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับที่กรรมาธิการวิสามัญฯ เข้าสู่การพิจารณาของสภาในวาระ 2 นอกจากนี้ ขอประณามกรณีคนร้ายลอบเผารถบรรทุก 6 ล้อติดเครื่องขยายเสียง ของนายจำรัส พานทอง หรือเฮียเปี๊ยก เจ้าของเดียวกับรถที่ให้ คปท. เช่า ซึ่งไม่ว่าจะเป็นฝีมือใคร ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งนำตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม นายอุทัย กล่าวว่า ขณะนี้ คปท. ยังไม่มีการยกระดับการชุมนุมใดๆ ถึงแม้จะมีเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็ไม่เกี่ยวกัน แต่ต่อไปก็ไม่แน่ ถ้ามีสถานการณ์เกี่ยวกับรัฐบาลมาเกี่ยวข้องก็อาจจะมีการยกระดับได้ ซึ่งจุดยืน คปท. ยังมีอยู่ 3 เรื่อง ได้แก่ ต่อสู้การทุจริต คัดค้านการนิรโทษกรรมให้ทักษิณ และปฎิรูป ปตท.
ต่อมา เวลา 15.00 น. นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง และนักศึกษาอาชีวะที่เข้าร่วมการชุมนุมของ คปท. ได้แจกสติกเกอร์ “ตำรวจไทยไม่ดูแล แต่รังแกประชาชน” พร้อมกับรณรงค์ค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และการทุจริตทุกรูปแบบของรัฐบาล ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พร้อมเชิญชวนเข้าร่วมชุมนุมของ คปท. ที่สี่แยกอุรุพงษ์
อีกด้านหนึ่งเมื่อเวลา 15.40 น. นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ภรรยาของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม อดีตรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.21 รอ.) ซึ่งเสียชีวิตจากการปะทะกันของกลุ่มคนเสื้อแดงที่สี่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553 ได้เดินทางมาให้กำลังใจแกนนำ คปท. ที่ด้านหลังเวทีปราศรัย และเดินทางมาสังเกตการณ์พร้อมให้กำลังใจผู้ชุมนุม
โดยนางนิชา ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน ระบุว่า ตนไม่ประหลาดใจกับท่าทีของคณะกรรมมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มีมติปรับแก้ถ้อยคำในมาตรา 3 ของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้ผู้ที่ถูกกล่าวหามีความผิดจากองค์กรที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐประหารพ้นผิด เพราะคิดว่าต้องออกมาแนวทางนี้อยู่แล้ว จึงเป็นจุดยืนที่ทำให้ตนไม่เสนอร่าง และไม่ร่วมลงชื่อในร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับญาติวีรชนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 53 แต่เห็นควรให้ต้องมีการดำเนินการค้นหาข้อหาความจริงเพื่อหาคนผิดมาลงโทษก่อน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตนได้พบกับกลุ่มญาติวีรชนฯ จำนวน 2 ครั้ง จากการพูดคุยเห็นตรงกันว่า รัฐบาลไม่ได้รับฟังญาติผู้เสียชีวิตเลย ตรงกันข้ามกับที่บอกต่างชาติว่าจะรับฟังความคิดเห็น ญาติผู้เสียชีวิตยังไม่เคยเข้าร่วมการสานเสวนาเลย จึงไม่ตรงกับเจตนารมณ์เรื่องการปรองดอง ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะพ้นจากความผิดนั้น เป็นเรื่องที่สังคมทราบอยู่แล้ว
แต่ในส่วนของญาติผู้เสียชีวิตก็ต้องสู้ หากรัฐบาลจะนิรโทษกรรมจะต้องไปถามญาติผู้เสียชีวิตก่อน อย่างไรก็ตาม นางนิชา เห็นว่าขั้นตอนการออกกฎหมายควรจะต้องโปร่งใส และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ซึ่งทุกคนอยากจะได้ความจริงก่อนจะข้ามเรื่องพวกนี้ ที่สำคัญสังคมต้องรู้ความจริงก่อนเพื่อให้รู้ว่าจะสามารถนิรโทษกรรมหรือไม่
เมื่อถามว่าจะยื่นข้อเรียกร้องต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้เคยยื่นให้นายกรัฐมนตรี เร่งรัดคดี พล.อ.ร่มเกล้า แต่วันนี้จะมีการนิรโทษกรรมทั้งหมด นางนิชา กล่าวว่า ตนกำลังคิดอยู่ว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องดังกล่าวดี เพราะการยื่นให้นายกรัฐมนตรีครั้งที่แล้วก็ยังไม่มีปฏิกิริยา หรือความคืบหน้าใดๆ เลย หากจะไปยื่นอีกก็ไม่รู้จะเป็นเหมือนเดิมอีกหรือไม่
ต่อมา เวลา 18.30 น. นายอุทัย ได้ขึ้นเวทีปราศรัย โดยกล่าวว่าตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไปจนถึงปิดเวที เงินบริจาคที่ผู้ชุมนุมนำมามอบให้สนับสนุนการชุมนุม จะนำไปให้ นายจำรัส พานทอง หรือเฮียเปี๊ยก เจ้าของรถเครื่องเสียงที่ให้เช่าแก่กลุ่ม คปท. เพื่อช่วยเหลือกรณีที่ถูกเผารถเครื่องเสียงซึ่งจอดอยู่ที่วัดกำแพง ซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 เมื่อคืนที่ผ่านมา