“นิติธร” ยื่นข้อเสนอปฏิรูปประเทศ 2 ข้อ “ล้างหนี้ประชาชน-จัดสรรหุ้น ปตท.ให้ทุกคน คนละ 100 หุ้น” ลั่นจะเป็นคนร่างกฎหมายเอง ขอเชิญชวนคนที่เห็นด้วยออกมาร่วมชุมนุมที่อุรุพงษ์มากๆ ด้านรอง ปธ.สภานักศึกษารามฯ คนที่ 2 ยันสมาชิกไม่เคยมีมติค้าน คปท. การร่วมแถลงข่าวกับ สนนท.เป็นการกระทำส่วนตัว พร้อมประณามผู้บริหารมหาวิทยาลัยฯ อยู่เบื้องหลังเครือข่ายนักศึกษารามรุ่นใหม่ฯมอบดอกไม้ให้ ศอ.รส. ส่วนบรรยากาศที่ชุมนุมเมื่อเวลา 21.50 น. เกิดเสียงดังคล้ายระเบิด คาดแค่การจุดประทัดยักษ์เพื่อก่อกวน
วันนี้ (17 ต.ค.) นายนิติธร ล้ำเหลือ ผู้ประสานงานเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ได้ขึ้นเวทีปราศรัยโดยได้ยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลในการปฏิรูปประเทศ 2 ข้อ ได้แก่ การออกกฎหมายล้างหนี้แก่ประชาชน แทนที่จะออกกฎหมายล้างผิดให้กับพี่ชายนายกรัฐมนตรี และเสนอให้มีการจัดสรรหุ้น ปตท. ให้ประชาชนทุกคนถือหุ้นคนละ 100 หุ้น เพื่อให้ ปตท. เป็นของประชาชน โดยตนจะเป็นคนร่างกฎหมายเอง และเชิญชวนประชาชนที่เห็นด้วยต่อข้อเสนอนี้ให้มาชุมนุมกันที่แยกอุรุพงษ์ให้มากๆ
สำหรับบรรยากาศในการชุมนุมในช่วงค่ำของคืนวันนี้ยังคงมีประชาชนเข้าสมทบการชุมนุมในช่วงเย็นหลังเลิกงาน โดยมีการปราศรัยซึ่งมีเนื้อหาโจมตีการบริหารประเทศที่ล้มเหลวของรัฐบาล สลับกับการแสดงดนตรี ซึ่งผู้ชุมนุมยังคงมีจำนวนที่เบาบางเนื่องจากเป็นวันทำงานและเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีฝนตก แต่ยังมีจำนวนที่มากกว่าเมื่อวานนี้
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ได้มีชาวบ้านรายหนึ่งแจกใบปลิวมายังเวทีการชุมนุมและสื่อมวลชน ระบุหัวข้อ “ความต้องการที่แท้จริงของประชาชน” ระบุว่าเห็นด้วยกับการชุมนุมของ คปท. เนื่องจากรัฐบาลบริหารประเทศเสียหาย แต่ธุรกิจบางประเภท เช่น ขนส่ง และอู่แท็กซี่ในย่านถนนพระราม 6 และพระราม 6 ตัดใหม่ ได้ใช้ถนนหลวงทำการขนส่งและจอดรถเพื่อล้างรถ ซึ่งเป็นธุรกิจที่สร้างความเดือดร้อนถาวรแก่ประขาชนผู้สัญจรอย่างแท้จริง และเรียกร้องให้ตำรวจ สน.พญาไท และ สน.ปทุมวันดำเนินการกับผู้ที่ใช้ถนนหลวงทำการขนส่งและจอดรถล้างรถเหล่านี้
วันเดียวกัน นายวิทยุทธ ดวงแก้ว รองประธานสภานักศึกษาคนที่ 2 มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ออกจดหมายเปิดผนึกชี้แจงกรณีที่นายนันทพงศ์ ปานมาศ รองประธานสภานักศึกษาคนที่ 1 แถลงข่าวพร้อมกับเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) คัดค้านการเคลื่อนไหวเรียกร้องขององค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งนำโดยนายอุทัย ยอดมณี ซึ่งเป็นแกนนำ คปท.นั้น สภานักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งมีสมาชิก 64 คน ไม่เคยมีมติอย่างหนึ่งอย่างใดกับเรื่องดังกล่าว เพราะมีความเป็นอิสระต่อกัน และไม่เคยมีมติให้สมาชิกคนใดแถลงข่าวในนามสภานักศึกษา ดังนั้น การกระทำของนายนันทพงศ์จึงเป็นการกระทำส่วนตัว ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับสภานักศึกษา และสมาชิกสภานักศึกษาแต่อย่างใด
นอกจากนี้ จากกรณีที่เครือข่ายนักศึกษารามคำแหงคนรุ่นใหม่หัวใจประชาธิปไตย และเครือข่ายนักศึกษาเสรีประชาธิปไตย ออกมาเคลื่อนไหวมอบช่อดอกไม้แก่โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการสั่งการโดยผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหง ผ่านเจ้าหน้าที่ชื่อนายโยธิน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กองกิจการนักศึกษา จึงขอประณามพฤติกรรมดังกล่าว และขอฝากผู้บริหารมหาวิทยาลัยให้หยุดการกระทำดังกล่าวเพราะเท่ากับเป็นการเรียกแขกเข้ารามฯ โดยไม่รู้ตัว
นายวิทยุทธยังกล่าวย้ำว่า องค์การนักศึกษาและสภานักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงไม่ได้มีความแตกแยกกันแต่อย่างใด ยังคงพูดคุยหารือกันและทำงานร่วมกันตลอดเวลา และการเคลื่อนไหวในนาม คปท. ถือเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่สามารถกระทำได้
มีรายงานอีกว่า เมื่อเวลา 21.50 น. ได้เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดบริเวณโดยรอบที่ชุมนุม สร้างความตื่นตกใจให้แก่ผู้ชุมนุม จากการตรวจสอบของการ์ด คปท. ไม่พบว่ามีร่องรอยการเกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าเป็นเพียงแค่การจุดประทัดยักษ์เสียงดังเพื่อก่อกวนการชุมนุมเท่านั้น