“อนุสรณ์” ตอกวิปค้านยิ่งพูดยิ่งเข้าตัวอยู่เบื้องหน้าม็อบอุรุพงษ์ อำนวยความสะดวกออกนอกหน้า บี้ “ชวน” ปราม ผู้ว่าฯ กทม.อย่าลุอำนาจ ซัดยับอดีตผู้นำ นศ.14 ตุลา ประดิษฐ์ฉายาลบหลู่นายใหญ่-นายหญิง เลอะเทอะ เรี่ยราด โยงติดคำหยาบ “มาร์ค” เปรียบขี้เฮอะน่ารังเกียจไม่มีใครต้องการ มท.2 กระทืบต่อ ชี้นักวิชาการโคลนตม วิจารณ์ข้างเดียว สังคมมีปัญหาดันหายหัว “วรชัย” ฉะน่ารังเกียจวิจารณ์รัฐฯ จาก ปชช. ท้ามาสู้เลือกตั้ง
วันนี้ (15 ต.ค.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน ระบุว่ารัฐบาลให้ข่าวการชุมนุมบริเวณแยกอุรุพงษ์มีพรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลังเป็นการเล่นเกมการเมืองกับม็อบ พร้อมย้ำเป็นสิทธิของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่จะไปเยี่ยมม็อบได้ว่า นายจุรินทร์ยิ่งพูดก็ยิ่งเข้าเนื้อตัวเอง เพราะความจริงแล้วน่าจะปฏิเสธไปเลยว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้อยู่เบื้องหลังม็อบ แต่อยู่เบื้องหน้าม็อบเลย ยกโขยงกันไปเชียร์ออกนอกหน้านอกตา ลำพังกรุงเทพมหานครเอารถสุขา บริการ น้ำ ไฟ ไปสนับสนุนม็อบก็หนักแล้ว นี่ถึงขั้นบริการรถปั่นไฟ รถลากจูงของทางราชการไปช่วยเหลือกันทุกอย่างเต็มที่ ซึ่งนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ จะห้ามปราม เตือนสติ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครบ้าง อย่าให้ลุแก่อำนาจ ทำอะไรตามอำเภอใจ เพราะคนที่ไม่ได้เลือกคุณชายสุขุมพันธุ์ พวกเขาก็ยังมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของกรุงเทพฯ อยู่ด้วย
นายอนุสรณ์กล่าวถึงกรณีนายธีรยุทธ บุญมี ผู้อำนวยการสถาบันสัญญาธรรมศักดิ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกมาตั้งฉายาให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในงานครบรอบ 40 ปี 14 ตุลา ว่าน่าเสียดายช่วงเวลาที่หายไปของนายธีรยุทธ แสดงชัดเลยว่ากาลเวลาไม่ได้ช่วยอะไรนายธีรยุทธเลย ซ้ำร้ายยังทำร้ายให้เสื่อมถอยลงจนน่าใจหาย
“นานๆ ออกมาทีแทนที่จะมีข้อสังเกตที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมบ้าง แต่กลับใช้การวิเคราะห์ที่ไม่มีชุดข้อมูลเชิงวิชาการรองรับ เรียกร้องความสนใจโดยใช้การตั้งฉายา ประดิษฐ์วาทกรรมที่น่าเกลียด เลอะเทอะ เรี่ยราด ปากไม่มีหูรูด ย้ำคิด ย้ำทำ พายเรือในอ่าง และคงเป็นสาวกแฟนพันธุ์แท้เวทีเดินหน้าผ่าความจริงของพรรคประชาธิปัตย์ จึงเสพติดความรุนแรง ติดคำหยาบคายมาจากนายอภิสิทธิ์ ไม่มีใครยอมรับสังคมไม่ควรให้ราคา อย่าไปใส่ใจ เพราะชีวิตที่เหลือของนายธีรยุทธคงไม่คิดจะทำประโยชน์อะไรแล้ว คิดแต่จะสร้างมลภาวะและสิ่งปฏิกูลใส่สังคมการเมืองไปวันๆ คนพวกนี้ภาษาเหนือเขาเรียกขี้เฮอะ ซึ่งหมายถึงสิ่งปฏิกูล สกปรก น่ารังเกียจ ไม่มีใครต้องการ อย่าไปใส่ใจ” นายอนุสรณ์กล่าว
ด้านนายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า นายธีรยุทธออกมาอวดรู้ภูมิตน แต่แท้จริงแล้วติดหล่มอยู่ในวังวนของการใช้ทัศนคติตนเองเป็นใหญ่ คงเป็นได้แค่นักวิชาการโคลนตม ปลวกกิน เลือกที่จะวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลพรรคเพื่อไทยด้วยจิตใจที่คับแคบ ไม่เคยคิดเตือนสติอีกฝ่ายที่กำลังสร้างความวุ่นวายให้ประเทศ ทำไมไม่พูดถึงพวกผู้ชุมนุมที่ออกมาปิดถนนบ้าง พวกเสื้อเหลือง พรรคประชาธิปัตย์ พวกที่ก่อการรัฐประหาร เหตุใดนายธีรยุทธไม่วิจารณ์บ้าง หรือฝักใฝ่ เสพติดแบบนั้น
“ผมอยากถามนายธีรยุทธด้วยว่า ตอนที่สังคมเกิดกลียุค หรือแม้แต่ตอนที่เกิดอุทกภัย หายหัวไปไหน เคยออกมาลุยน้ำลุยทุ่งช่วยชาวบ้านบ้างหรือไม่ หรือมัวแต่ไปประดิดประดอยถ้อยคำเพื่อมาตั้งฉายากระแหนะกระแหน พ.ต.ท.ทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่” นายประชากล่าว
ส่วนนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าเหตุใดนายธีรยุทธจึงชอบวิจารณ์รัฐบาลที่มาจากประชาชนว่าเป็นสิ่งน่ารังเกียจ แสดงว่ารังเกียจอำนาจประชาชนใช่หรือไม่ แต่พอเป็นรัฐบาลที่ถูกอุ้มชูจากเผด็จการอย่างรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ นายธีรยุทธกลับสงบปาก หายหัว เหตุการณ์ ตนขอท้าให้นายธีรยุทธตั้งพรรคการเมือง หรือไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แล้วลงมาสู้กันในระบบเลือกตั้ง อย่าเอาแต่วิจารณ์ข้างเดียว อย่าเป็นคนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ