“ประชา” รอ ศอ.รส.ประเมินสถานการณ์ก่อนพิจารณาขยายเวลาประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เรียกร้อง คปท.ย้ายไปชุมนุมสวนลุมฯ หวั่นมือที่ 3 ป่วน รับห่วงม็อบยึดทำเนียบฯ
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงการชุมนุมของเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่บริเวณแยกอุรุพงษ์ว่า ที่น่าห่วงคือเป็นการชุมนุมในสถานที่ที่เปิดโล่ง จึงเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยของผู้ร่วมผู้ชุมนุม ด้วยความจริงใจเรามีความกังวลจริงๆ เพราะจริงๆ แล้วมีสถานที่ที่เหมาะสมกว่าตรงแยกอุรุพงษ์ น่าจะขยับขยายไปได้ เราเองได้เปิดสถานที่ที่สวนลุมพินีให้แล้ว เป็นไปได้หรือไม่ที่จะขอร้องให้ไปชุมนุมที่สวนลุมพินีเพียงจุดเดียว เพื่อที่เราจะได้ดูแลเรื่องความปลอดภัยให้ได้ แต่หากผู้ชุมนุมยังยืนยันว่าจะชุมนุมอยู่ที่แยกอุรุพงษ์ต่อคงเป็นสิทธิที่ทำได้ เราก็จะดูแลความปลอดภัยให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่อย่างไรเรายังเป็นห่วงเรื่องมือที่ 3 ทั้งนี้ เรื่องการย้ายสถานที่ชุมนุมเราจะมีการพูดคุยกับแกนนำอย่างต่อเนื่อง ตนได้ฝากเป็นข้อสังเกตไปว่าควรจะมีการพูดคุยกันอีก เพราะการพูดคุยเป็นเรื่องที่ดี่ที่สุด ขอให้มีการพบปะกันและขอร้องกันว่าเป็นไปได้หรือไม่ถ้าจะเคลื่อนออกจากตรงนั้น เพราะชาวบ้านเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวถามถึงการปิดถนนเพิ่มเป็น 14 จุด พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า การปิดถนนทำในพื้นที่ที่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เป็นอำนาจการตัดสินของผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) อย่างไรก็ตาม ในส่วนของปัญหาการจราจร เราพยายามทำให้ดีที่สุดอยู่แล้ว เนื่องจากผู้ชุมนุมมีการประกาศว่าจะมีการเข้ายึดทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นพื้นที่ตาม พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ ที่ประกาศไว้ จึงเป็นพื้นที่ที่เราจะต้องรักษาไว้
ส่วนที่ คปท.ยืนยันที่จะชุมนุมต่อ เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีขยายระยะเวลาใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ ออกไปอีก รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คาดว่า ภายในวันที่ 1-2 วันนี้คงมีการประเมินอีกครั้ง แต่เรื่องนี้อยู่ที่การข่าวและการประเมินของ ศอ.รส. เราให้อำนาจ ศอ.รส.ไปแล้ว คงต้องฟังการประเมินของเขาว่าจะรักษาเขตพื้นที่ที่เรากำหนดเป็นเขตแห่งความมั่นคงให้เกิดเป็นปกติให้ได้หรือไม่อย่างไร ถือเป็นดุลยพินิจของศอ.รส.
ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ เพราะการชุมนุมของ คปท.เป็นกลุ่มของนักศึกษาที่มีปฏิกิริยารุนแรงต่อเรื่องทางการเมือง รองนายกฯ กล่าวว่า เท่าที่รับรายงานมีหลายกลุ่มผสมผสานกัน รวมถึงกลุ่มการเมืองด้วย ที่สำคัญเป็นกลุ่มเดิมที่เคยยึดทำเนียบรัฐบาลมาแล้ว เขามีแผนอยู่แล้ว เขาจะทำอะไรอย่างไรประสบการณ์ในอดีตสอนเราอยู่แล้ว ฉะนั้น รัฐบาลจะต้องดูแลตรงนี้ เพราะทำเนียบรัฐบาลเป็นศูนย์บริหารราชการแผ่นดินที่จะต้องดูแล