xs
xsm
sm
md
lg

โพลชี้ ปชช.ส่วนใหญ่ยี้ “โอ๊ค” ลง ส.ส.เหตุเป็นลูกนักโทษหนีคดี เชื่อทำงานไม่โปร่งใส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พานทองแท้ ชินวัตร (แฟ้มภาพ)
“นิด้าโพล” สำรวจพบประชาชน 41% ระบุ “โอ๊ค-พานทองแท้” ไม่เหมาะสมลงสมัคร ส.ส.เพราะเป็นลูกชายนักโทษหนีคดี หากมีโอกาสเข้ามาจะเกิดความไม่โปร่งใสในการทำงาน เอื้อประโยชน์ธุรกิจในครอบครัว ช่วยเหลือ “นช.แม้ว”

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “ที่มาของ ส.ส.” จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,248 หน่วยตัวอย่าง กระจายทุกระดับการศึกษาและอาชีพ เกี่ยวกับคุณสมบัติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และการสืบทอดอำนาจและตำแหน่งทางการเมืองแบบระบบเครือญาติ โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน (Standard Error: S.E.) ไม่เกิน 1.4

จากผลการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการพิจารณาคัดเลือกคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคการเมืองในความเป็นจริงทุกวันนี้ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 30.93 ระบุว่า พิจารณาจากคุณวุฒิ/วัยวุฒิ ความรู้ ความสามารถ รองลงมา ร้อยละ 28.61 ระบุว่า เป็นคะแนนความนิยมในพื้นที่ ร้อยละ 11.06 ระบุว่า ขึ้นอยู่กับความพอใจของกลุ่มทุนในพรรค ร้อยละ 9.13 ระบุว่า เป็นระบบเครือญาติ ร้อยละ 8.25 ระบุว่า จากการสนับสนุนเงินทุนให้กับพรรคจากผู้สมัคร ร้อยละ 7.45 ระบุว่า สถานะทางเศรษฐกิจของตัวผู้สมัคร และร้อยละ 0.40 ระบุว่า อื่นๆ เช่น คุณธรรมจริยธรรม ความตั้งใจในการทำงาน เอาใจใส่และเข้าถึงประชาชน

ส่วนผู้สมัคร ส.ส.ควรมาจากอาชีพใด พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 20.59 ระบุว่า ควรมาจากอาชีพนักการเมืองท้องถิ่น รองลงมา ร้อยละ 18.59 ระบุว่า เป็นอาชีพใดก็ได้ ขอให้เป็นคนดีมีคุณธรรมจริยธรรม ซื่อสัตย์สุจริต ร้อยละ 14.26 ระบุว่า เป็นเจ้าของกิจการ เจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่/นักธุรกิจ ร้อยละ 13.54 ระบุว่า เป็นนักวิชาการ ร้อยละ 10.74 ระบุว่า เป็นข้าราชการประจำ (ครู อาจารย์ ทหาร เจ้าหน้าที่ของรัฐ) ร้อยละ 6.01 ระบุว่า เป็นเกษตรกร/ ประมง ร้อยละ 3.29 ระบุว่า เป็นเจ้าของกิจการ เจ้าของธุรกิจขนาดกลาง/เล็ก/ธุรกิจส่วนตัว/อาชีพอิสระ ร้อยละ 3.04 ระบุว่า เป็นองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) ร้อยละ 4.97 ระบุว่า เป็นอาชีพอื่นๆ เช่น ข้าราชการบำนาญ แพทย์ หมอ พยาบาลนักกฎหมาย/ทนายความ ดารา นักแสดง พนักงานบริษัทเอกชน ลูกจ้าง/ผู้ใช้แรงงาน

สำหรับความคิดเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสมในการสืบทอดอำนาจทางการเมืองแบบระบบเครือญาติ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 73.32 ระบุว่า ไม่เหมาะสม เพราะ เป็นการกีดกันความสามารถของคนอื่นๆ ทำให้ได้คนที่ไม่มีประสิทธิเข้ามาบริหารงาน และยังเป็นการเอื้อผลประโยชน์ให้แก่กัน ควรดูที่ความรู้ ความสามารถมากกว่า รองลงมา ร้อยละ 17.95 ระบุว่า เหมาะสม เพราะทำให้การทำงานและการประสานง่าย มีความคล่องตัวมากขึ้น และบริหารงานได้อย่างต่อเนื่อง และร้อยละ 8.73 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

ท้ายสุด เมื่อถามถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสมหากนายพานทองแท้ ชินวัตร ลงสมัครเป็น ส.ส.พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 41.51 ระบุว่า ไม่เหมาะสม เพราะเป็นบุตรของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ยังหลบหนีคดี และมีความผิดอยู่ หากมีโอกาสเข้ามาเล่นการเมือง อาจทำให้เกิดความไม่โปร่งใสในการทำงาน เช่น การเอื้อผลประโยชน์ให้กับธุรกิจครอบครัว หรือการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รองลงมา ร้อยละ 31.41 ระบุว่า เหมาะสม เพราะถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่สามารถทำได้ และยังเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง มีประสบการณ์การบริหารงานอยู่แล้ว น่าจะสามารถทำงานได้ดี และร้อยละ 27.08 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ


กำลังโหลดความคิดเห็น