รอง ผบช.น.บุกม็อบอุรุพงษ์ จี้ย้ายไปสวนลุมฯ อ้างการจราจรมีปัญหา ชักแม่น้ำทั้งห้ายกมุกพื้นที่เสด็จฯ ลอกแม่นางโพยเข้าสู่อาเซียน อ้างนายกฯ จีนยังต้องไปที่อื่น แกนนำ คปท.ยืนยันชุมนุมที่เดิมโดยสงบ ไม่เผาบ้านเผาเมือง “ทนายนกเขา” อัดกลับ นายกฯ เปิดโอกาสชุมนุมโชว์ ปชต.ดีกว่าออก พ.ร.บ.จำกัดสิทธิ ใบ้ให้ถ้าม็อบเลือดตกยางออก ย้ายไปที่ตำรวจเยอะแน่ ท้าไม่ต้องประกาศ พ.ร.บ.ทุบม็อบ มาจับพวกตนได้ พร้อมสู่วิถีทางตามกฎหมาย
วันนี้ (11 ต.ค.) เมื่อเวลา 18.20 น. พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะดูแลงานด้านจราจร เข้าเจรจากับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่แยกอุรุพงษ์ ถนนพระราม 6 โดยมี นายอุทัย ยอดมณี นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง (อศ.มร.) และนายนิติธร ล้ำเหลือ ในฐานะผู้ประสานงานกลุ่ม คปท.ร่วมเจรจา โดยการเจรจาดังกล่าวได้มีการใช้เครื่องขยายเสียงให้ผู้ชุมนุมได้รับทราบอย่างเปิดเผย
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า ตนไม่ได้มาขอคืนพื้นที่ แต่ขอมาพูดคุยกัน แต่ถ้าจะทำอะไรต้องดูประเทศชาติและประชาชน ซึ่งการพูดคุยกับแกนนำกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวานนี้ มาวันนี้ด้วยความเป็นห่วง ประการแรกสิทธิตามรัฐธรรมนูญก็เห็นด้วยในการกำหนดไว้ในการให้สิทธิประชาชน ซึ่งการชุมนุมตามประชาธิปไตยเป็นสิ่งสวยงาม แต่อยากให้เข้าใจว่าการจราจรมีปัญหา จึงคิดว่าเพื่อไม่ให้มีปัญหาจราจรภาพรวมก็ขอร้องให้ไปชุมนุมจุดที่ไม่มีปัญหาจราจรโดยจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล จึงอยากขอร้องและความกรุณาด้วย ที่ผ่านมาตนก็ถูกด่าว่าดูจราจรอย่างไร ถ้าตนไม่มาตนก็ไม่ได้แก้ปัญหา
ทั้งนี้ ถ้าอยู่ตรงนี้อาจมีเหตุซ้ำซ้อนขึ้นอีก อาจมีพวกไม่พอใจ มาครั้งนี้จึงอยากมาปรึกษาหารือ แต่ถ้าจะปักหลักที่นี่ก็ไม่เป็นไร ตำรวจจะคอยดูแล ถ้าจะย้ายไปสวนลุมฯ ก็จะจัดรถมาให้เรียบร้อย อยู่ตรงนี้กับตรงนู้นไม่ต่างถ้ามีอุดมการณ์แน่วแน่ ถ้าจะปฏิรูปเราต้องแข่งขัน ปี 2558 จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ที่สำคัญเส้นทางนี้เป็นเส้นทางเสด็จฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็จะเป็นเส้นเดินทางของนายกรัฐมนตรีจีน ก็ต้องย้ายไปเส้นอื่น จึงอยากขอร้องด้วย
ด้านนายอุทัย กล่าวว่า ถ้าจะย้ายสถานที่ตรงนี้ หยุดชุมนุมไม่ดีกว่าเลยหรือ เพราะท้ายที่สุดจะมีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง อีก ก็ต้องย้ายที่ชุมนุมไปเรื่อยๆ ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าแถวนี้ก็บอกว่าขายของได้ดีกว่าเดิม แต่การกีดขวางการจราจรไม่ใช่ปัญหาที่สำคัญที่สุด เพราะมีการแบ่งพื้นที่จราจรแล้ว ดังนั้นการชุมนุมจุดนี้ดีกว่าชุมนุมที่ทำเทียบรัฐบาล ขอให้ไปดูว่าชุมนุมสงบ ไม่มีการเผาบ้านเผาเมือง จึงขอยืนยันว่าจะปักหลักตรงนี้ ไม่เคลื่อนไปไหน ขออยู่ตรงนี้ เราไม่สร้างความปั่นป่วน วุ่นวาย จะชุมนุมอหิงสา ปราศจากอาวุธ ถ้าจะสร้างสถานการณ์ก็เข้าใจ เพราะมีคนชอบและไม่ชอบ แต่ขอให้ตำรวจมาดูแลความปลอดภัยด้วย
ขณะที่ นายนิติธร กล่าวว่า ตนขอโทษผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการจราจร และขอบคุณที่ได้เปิดโอกาสให้ใช้พื้นที่นี้เปิดโอกาสแสดงสิทธิ์แก้ไขปัญหาบ้านเมือง ขอบคุณตำรวจทุกคนที่อำนวยการด้านการจราจร เชื่อว่าจะดูแลด้านความปลอดภัยอย่างเต็มที่ และเหตุการณ์เมื่อคืนจะไม่เกิดขึ้นอีก ความงดงามของประชาธิปไตยที่จะหวนให้กับพี่น้องต่างชาติ ต่างประเทศที่มาเยี่ยมเยือนและสัมพันธไมตรี ตนเห็นว่าเมืองไทยมีประชาธิปไตยแต่รูปแบบมานานแล้ว วันนี้ถ้าผู้นำจีนจะมาได้เห็นประชาธิปไตยแต่เนื้อหา ได้เห็นประชาชนได้มาแสดงสิทธิเสรีภาพ แสดงข้อเรียกร้องอย่างเปิดเผยโดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เขาจะชื่นชมประเทศไทยมากกว่าออก พ.ร.บ.ความมั่นคง มาจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ทั้งนี้ ตนคิดว่าถ้านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทำสักครั้งหนึ่งในการดำรงตำแหน่งนายกฯ ที่ผ่านมา เปิดโอกาสให้ประชาชนใช้สิทธิเสรีภาพ ตนเชื่อว่านายกฯ คณะรัฐมนตรี และตำรวจจะได้รับการกล่าวขวัญไปทั่วโลกที่เคารพสิทธิมนุษยชน ในส่วนประชาธิปไตยในเนื้อหานั้น เรายึดถือหลักสำคัญคือหลักการแบ่งแยกอำนาจ หลักสิทธิเสรีภาพ หลักการตรวจสอบ ถ้าหลักสิทธิเสรีภาพ หลักการตรวจสอบยังอยู่ได้ นั่นหมายความว่าประชาธิปไตยในประเทศนี้ยังมีอยู่ได้ ฉะนั้นถ้าหลักสิทธิเสรีภาพนั้นหายไปแม้แต่นิดเดียว นั่นหมายถึงการสั่นคลอนของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
นายนิติธร กล่าวต่อว่า ในส่วนเสรีภาพในการชุมนุมนั้น ตนคิดว่าตำรวจก็ดูกฎหมายเหมือนกัน ในมาตรานี้เขาไม่ได้กำหนดสถานที่ชุมนุมไว้ กำหนดไว้ว่าโดยสงบ เพื่อให้สื่อสารถึงความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชนที่จะเสนอตรงต่อผู้ปกครอง ผู้บริหารประเทศ วันนี้ประชาชนกำลังทำตรงนี้ ตนยืนยันว่าการชุมนุมตรงนี้จะเป็นการชุมนุมโดยสงบ ไม่เคลื่อนย้ายไปไหน และตนเชื่อมั่นว่า ตำรวจจะเปิดทางให้ประชาชนทุกคนที่เห็นด้วยกับแนวทางของเครือข่ายฯ ได้มีโอกาสเข้าร่วมชุมนุมอย่างเต็มที่ เหตุการณ์เมื่อคืนนั้นตนถือว่าเป็นช่วงของการเริ่มต้น การดูแลอาจยังไม่ครบถ้วน แต่หลังจากนี้ ตนคิดว่าเราต้องปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์
“ถ้าพี่น้องประชาชนตรงนี้ไม่ปลอดภัย ผมจะหารือกันว่าเราจะหาที่ปลอดภัยที่ไหน และที่ปลอดภัยที่ดีที่สุดสำหรับผม สำหรับพี่น้องประชาชน คือที่ที่มีตำรวจเยอะที่สุด ฉะนั้นผมก็ฝากเรียนไปยังนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ผบ.ตร.และ ผบช.น.ถ้าคืนนี้พี่น้องผมเจ็บแม้แต่นิดเดียว มีการถูกทำร้าย ผมจะเคลื่อนย้ายไปหาที่ปลอดภัยทันที แล้วถ้าท่านเห็นว่าผมทำผิดกฎหมาย ผมอยู่ตรงนี้ ผมจะบอกพี่น้องประชาชนทุกคนว่า ไม่ต้องต่อต้านตำรวจ พี่น้องประชาชนที่เห็นต่างจะเข้ามาทำร้าย ไม่ต้องตอบโต้ เพราะพวกเราทำร้ายประชาชนด้วยกันไม่ได้ สุดท้ายขอขอบคุณและเข้าใจในความหวังดี สบายใจได้ว่า ผมจะอยู่ในที่นี้ไม่เคลื่อนย้ายไปไหน ขอเพียงรับรองความปลอดภัยให้กับผม แล้วถ้าหากว่าจะใช้มาตรการทางกฎหมาย ไม่ต้องประกาศ พ.ร.บ.ไปเชิญ ผบ.ตร. ผบช.น.มา แล้วมาจับพวกผมไป ผมจะไปดีๆ ไม่ต้องเอากำลังมา ไม่ต้องเอาโล่ ไม่ต้องเอากระบองมา โทร.มาผมไปรอที่หน้าชุมนุม ไปกับท่านทันที ผมพร้อมจะสู้ในวิถีทางที่ชอบด้วยกฎหมาย ถ้าทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎหมาย เราอยู่กันได้อย่างสงบ” นายนิติธร กล่าว
บรรยากาศการชุมนุมที่แยกอุรุพงษ์ เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. (ภาพจากเฟซบุ๊ก Kittinun Nakthong)