หน.ปชป.ขอตำรวจอย่าเลือกปฏิบัติดูแลผู้ชุมนุม หลังเกิดเหตุระเบิดเพลิงผู้ชุมนุมแยกอุรุพงษ์ สุดงงอัยการสั่งไม่ฟ้อง นช.ทักษิณ คดีก่อการร้าย ชี้ต่างจากที่ส่งฟ้องคนอื่น หวั่งแก๊งแดงเผาเมืองได้อานิสงส์นิรโทษกรรม ห่วง “รัฐตำรวจ-อัยการ” ตัดกระบวนการยุติธรรม
วันนี้ (11 ต.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุการณ์โยนระเบิดเพลิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่แยกอุรุพงษ์ว่า ขอให้เจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุมนั้นเคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน และหวังว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงกว่านี้ ขอให้ระมัดระวัง เพราะพูดมานานแล้วว่า เป็นตัวบ่งบอกว่า ความรุนแรงมาจากทางไหน ที่ค่อนข้างชัดเพราะเกิดขึ้นกับคนที่เห็นต่าง ถ้ารัฐบาลโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่จริงจัง เข้มงวดกวดขันกันกว่านี้ แต่กรณีของกลุ่มคนเสื้อแดงที่อื่น หรือที่ศาลก็ควรดูแลเช่นเดียวกัน หรือหากเทียบสปิริตกับผู้ชุมุนม เมื่อปี 52 ที่ไปทำลายการประชุมอาเซียนซัมมิตที่พัทยา จ.ชลบุรี ก็ชัดเจนมากว่า ครั้งนั้นได้สร้างความเสียหายอย่างไร ซึ่งครั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมตกลงกับเจ้าหน้าที่ แต่เวลากลุ่มคนเสื้อแดงมาตั้งเวทีอยู่หน้าสภา ก็ไม่เห็นทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการอะไรอย่างนี้เลย ก็ขอให้เป็นมาตรฐานเดียว เพราะสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกต้องเสมอภาคกัน เลือกปฏิบัติไม่ได้
ส่วนกรณีที่อดีตอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องคดีก่อการร้ายกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คดีนี้มีผู้ต้องหากว่า 20 คน ซึ่งต่างก็ขึ้นศาลสืบพยานกันแล้ว แต่เมื่อมีการเปิดเผยชี้แจงว่าที่ต้องแยกทำคดี เพราะว่าเป็นเรื่องของคนที่อยู่ต่างประเทศ แล้วให้เหตุผลว่าที่ไม่ฟ้องนั้นเพราะอะไร ก็รู้สึกแปลกใจว่า ไม่ค่อยเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันกับที่ส่งฟ้องคนอื่นๆ จึงต้องมาดูว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะยืนยันความเห็นแล้วก็ข้อมูลการสอบสวนของตัวเองหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ คือ เวลานี้พอบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่คนสั่งการ ถ้ามีความผิดอะไรเกี่ยวกับการชุมนุม ถ้ากฎหมายนิรโทษกรรมผ่าน ก็จะได้รับอานิสงส์จากการนิรโทษกรรม จึงกลายเป็นว่า ทั้งนายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พวกนี้ใหญ่กว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งความจริงแล้วตนก็ไม่แน่ใจว่าในสำนวนการสอบสวนนั้นมีรายละเอียดมากน้อยแค่ไหน แต่ส่วนตัวคิดว่าการแสดงออกหลายครั้งก็ค่อนข้างชัดว่า อยู่ในฐานะที่เป็นผู้ควบคุม หรือกำหนดทิศทางการชุมนุมหรือไม่ ล่าสุดยิ่งมีการพูดถึงเรื่องของเงินๆ ทองๆ ที่เข้ามา เส้นทางการเงินอะไรนี้ได้ตรวจสอบหรือไม่ อย่างไร เพื่อจะยืนยันว่า ที่บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ไม่เกี่ยวข้องเพราะคนอื่นส่งฟ้อง สืบพยานกันแล้ว เว้น พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตนเป็นห่วงที่กระบวนการยุติธรรมมีการวิจารณ์ว่าขั้นต้นคือตำรวจถูกกล่าวหาว่าเป็นรัฐตำรวจ ขึ้นกลางคืออัยการสูงสุดก็มาเกิดเครื่องหมายคำถามว่าตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำเหมือนกันอย่างที่ว่า คดีนี้ถ้าอัยการไม่ฟ้อง และดีเอสไอไม่ยืนยันว่าจะฟ้องต่อ เท่ากับเป็นการตัดกระบวนการยุติธรรม ก็ต้องมาดูว่าประชาชนจะอยู่ในข่ายที่เป็นผู้เสียหายหรือไม่ แต่การกระทำที่เข้าองค์ประกอบก่อการร้ายนั้นส่วนใหญ่มักจะมีความผิดฐานอื่นอยู่ด้วย