xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เดินสู่ทางตัน ศึกนอกสภาเริ่มเหนือการควบคุม !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

ในที่สุดรัฐบาลก็เก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่ จากเดิมที่พยายามสร้างภาพให้เห็นว่าการเคลื่อนไหวด้านหน้าทำเนียบรัฐบาลโดยเฉพาะการชุมนุมของกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นล้มระบอบทักษิณ ที่ปักหลักชุมนุมมานานเกิน 3 วันแล้ว จากเดิมที่บอกว่า "เอาอยู่" จะใช้กฎหมายปกติดูแลการชุมนุม ทางหนึ่งก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า "ม็อบกลุ่มนี้ไม่ระคายผิว" เหมือนดังที่คนในรัฐบาลบางคนหยามหยันไว้ล่วงหน้าว่า "ไม่มีน้ำยา" แต่ล่าสุด รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ในฐานะรักษาการนายกฯได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษแล้วประกาศใช้พระราชบัญญัติความมั่นคงฯในเขตกรุงเทพฯชั้นใน 3 เขต คือ ป้อมปราบ ดุสิต และพระนคร ตั้งแต่วันที่ 9-18 ตุลาคม

แน่นอนว่าการประการใช้กฎหมายพิเศษดังกล่าวก็เป็นคำตอบอยู่ในตัวแล้วว่า "สถานการณ์ไม่ปกติ" ไม่อาจใช้วิธีการปกติได้เหมือนเมื่อก่อน ขณะเดียวกันรัฐบาลอาจอ้างว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้องการควบคุมสถานการณ์ในช่วงที่ นายกรัฐมนตรีของจีน หลี่ เค่อเฉียง มาเยือนไทยในช่วงวันที่ 11-13 ตุลาคมนี้ ก็อาจฟังขึ้น แต่ก็นั่นแหละการประกาศใช้กฎหมายพิเศษในช่วงที่ผู้นำต่างประเทศมาเยือนแล้วมีม็อบมาประชิดติดหน้าทำเนียบรัฐบาลมันก็ดูกระไรอยู่เหมือนกัน

อย่างไรก็ดีการเกิดม็อบขึ้นมาทั้งประเภทที่ขับไล่ และเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องความเดือดร้อนที่กำลังผุดขึ้นมาสารพัดในเวลานี้ มันก็ส่งสัญญาณให้เห็นในทางอ้อมแล้วว่ารัฐบาลล้มเหลวในการตอบสนองความต้องการ หรือสร้างความอยู่ดีมีสุขให้กับชาวบ้าน เพราะยิ่งสร้างความเดือดร้อนมากเท่าใด ก็ยิ่งสร้างเงื่อนไขให้เกิดม็อบออกมามากขึ้น ซึ่งก็มีทั้งม็อบเก่าและม็อบใหม่ผุดขึ้นมาเป็นรายวัน

สำหรับรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อาจอยู่ในกรณีพิเศษที่อ้างว่ามาจากประชาธิปไตยและจากการเลือกตั้งเอาชนะฝ่ายตรงข้ามด้วยเสียงท่วมท้น จนนำคำว่า "ประชาธิปไตย"ไป "ทำมาหากิน"โดยไม่เกรงใจใครทั้งสิ้น ด้วยความเหิมเกริมดังกล่าวทำให้ย่ามใจ ทำอะไรตามอำเภอใจอยู่ตลอดเวลา แต่ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจากผลงานของรัฐบาลที่ผ่านมากว่าสองปี ซึ่งก็ย่อมจะพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มีฝีมือและสติปัญญาแค่ไหน ซึ่งก็ได้ห็นกันแล้วว่าเป็นอย่างไร เวลานี้หากไปถามชาวบ้านว่าได้รับกระทบเรื่อง "ของแพง"หรือไม่ถ้าไม่โกหกก็ย่อมได้รับคำตอบตรงกันว่า"แพง" และผลสำรวจทุกสำนักก็สะท้อนออกมาในทางเดียวกันเรียกร้องให้รัฐบาลรีบแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว

ขณะเดียวกันเมื่อไปถามเกษตรกรในต่างจังหวัดในเรื่องราคาสินค้าการเกษตรก็ต้องบอกตรงกันว่า "ราคาตกต่ำ" ขาดทุนกันทั่วหน้า ซึ่งก็กำลังเกิดเป็นสารพัดม็อบออกมาชุมนุมกดดันเป็นระยะ ส่วนนโยบายประชานิยมที่ใช้ในการหาเสียงจนชนะเลือกตั้ง ก็กำลังส่งผลลบหนักขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการจำนำข้าว รถคันแรก ค่าแรงวันละ 300 บาท เป็นต้น ล้วนแล้วแต่สร้างภาระด้านงบประมาณ ทำให้รัฐบาลกัง "ถังแตก" หมุนเงินไม่ทันแล้ว ขณะที่ด้านการหารายได้อย่างเรื่องการส่งออกก็หดตัว ไม่เป็นไปตามเป้าหมายจนต้องมีการปรับลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจมาหลายรอบล่าสุดมีการประเมินว่าน่าโตต่ำกว่าร้อยละ 4 นี่ยังไม่นับวิกฤติในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะลุกลามไปถึงขั้นผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ ซึ่งหากเป็นแบบนั้นไทยก็จะป่วนตามไปด้วยจากเงินทุนไหลออก เป็นปัญหาซ้ำเติมวิกฤติ ซึ่งได้แต่ภาวนาว่าอย่าได้เกิดขึ้นเลย

สิ่งสำคัญก็คือหากสังเกตให้ดีจะพบว่าในระยะหลังรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มักโดนสื่อต่างชาติวิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงๆมากขึ้น ความหมายก็คือพวกเขา "รู้ทัน"มากขึ้น และชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวมากขึ้น อย่างล่าสุดก็มีการวิจารณ์ว่า "ยิ่งลักษณ์ทำหน้าที่ไม่ต่างจากเป็นคนแจกใบปลิวให้พี่ชาย" คือ หรือทำหน้าที่รักษาการนายกฯให้กับ ทักษิณ ชินวัตรเท่านั้น รวมทั้งวิจารณ์ว่านโยบายประชานิยมกำลังส่งผลลบทางด้านเศรษฐกิจกับประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะคอลัมนิสต์ของสำนีกข่าวบลูมเบิร์ก ที่เพิ่งเขียนบทความชี้ให้เห็นถึงความอ่อนแอของผู้นำในภูมิภาคเอเซียเป็นรายคน และสำหรับยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้นสื่อฝรั่งมองว่ามีความล้มเหลวในเรื่องการแก้ปัญหาเรื่อง ข้าวและยางพารา แต่สิ่งที่รัฐบาลชุดนี้กำลังสนใจแบบเอาเป็นเอาตายก็คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญและเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทเท่านั้น

อย่างไรก็ดีสำหรับรัฐบาลยังคงมีความเชื่อมั่นกับเสียงในสภา เพราะควบคุมได้อย่างเบ็ดเสร็จ ฝ่ายต่อต้านแม้ว่าจะทำหน้าที่ค้านได้เข้มแข็งเพียงใดก็ตาม แต่ด้วยเสียงที่มีเพียงหยิบมือเดียวก็ไม่อาจขัดขวางอะไรได้เลย เหมือนอย่างที่ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญกำลังเดินหน้า รวมไปถึงร่างพระราชบัญญัติกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของวุฒิสภา ก็คงไม่มีปัญหาผ่านฉลุยอยู่แล้ว แต่ปัญหาหนักอกที่เข้าขั้นวิกฤติลงไปเรื่อยๆของรัฐบาลก็คือ ปัญหา "นอกสภา"ที่ควบคุมไม่ได้ ซึ่งปัญหาทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นจากฝีมือของรัฐบาลเองทั้งสิ้น และเป็นปัญหาสะสมมานานจนถึงเวลาปะทุเอาในช่วงเวลานี้ และในเดือนตุลาคมต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี

แน่นอนว่านาทีนี้ยังไม่อาจสรุปฟันธงได้ว่าการชุมนุมของกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ที่ปักหลักอยู่หน้าทำเนียบรัฐบาลจะสามารถล้มรัฐบาลได้สำเร็จหรือไม่ แต่นับจากนี้จะมีอีกสารพัดกลุ่มที่กำลังเคลื่อนไหวถล่มรัฐบาล ทั้งม็อบชาวสวนยางที่กำลังจะปะทุขึ้นมาอีกรอบ รวมไปถึงม็อบเกษตรกรอื่นๆที่กำลังเดือดร้อน แม้แต่ม็อบชาวนาที่กำลังฮึ่มๆในเรื่องการได้รับเงินสดล่าช้า ทุกอย่างล้วนประดังเข้ามา ราวกับว่ากำลังเดินไปสู่ทางตัน ยิ่งอยู่ก็ยิ่งเดี้ยงลงไปเรื่อยๆ !!
กำลังโหลดความคิดเห็น