“อลงกรณ์” ชิงแถลงข่าว บอกไม่ประมาท “คำรณวิทย์” จ่อลง ส.ส.โอดเห็นใจ “เกียรติศักดิ์” โดนรุมสกรัม ด้าน ส.ส.หนึ่งเดียว ปชป.ในปทุมฯ บอกไปงัดตระกูลหาญสวัสดิ์ไม่ง่าย เตรียมใจเต็มที่
วันนี้ (7 ต.ค.) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาคกลาง กล่าวถึงกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ทาบทาม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ลงสมัครรับเลือกตั้ง หลังเกษียณอายุราชการปีหน้า ในนาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือ ส.ส.เขตใน จ.ปทุมธานี เนื่องจากเป็นคนในพื้นที่ว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ถือเป็นคนปทุมธานีก็มีสิทธิ์ที่จะลงสมัคร หากประสงค์ที่จะลงจริง สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ส่งผู้สมัครลง จ.ปทุมธานี ก็จะเป็นฝ่ายแพ้มาตลอด แต่ครั้งนี้เพิ่งจะมีโอกาสได้เป็น ส.ส.ปทุมธานีเมื่อไม่นานมานี้ แต่พรรคก็มีสาขาพรรคที่เข้มแข็ง ดังนั้นจะสู้กับใครก็ต้องสู้ทั้งนั้น ไม่ได้ดูที่ตัวบุคคลแต่เราดูนโยบาย มีแนวทางการทำงานที่ดีกว่า เพื่อที่จะเอาชนะใจประชาชน
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าข่าวที่ออกมาจริงหรือไม่ เพราะยังไม่มีใครออกมายืนยัน แต่พรรคก็ไม่ประมาทคงต้องปรับตัวเองจัดทัพใหม่ วันนี้ก็ได้หารือเบื้องต้นกับ ส.ส.และสาขาพรรค โดยที่ต้องให้พรรคพิจารณาอนุมัติผู้สมัครในเขตอื่นๆ ที่เหลือในจังหวัดปทุมธานีโดยเร็วเพราะเป็นเรื่องสำคัญ แม้ว่าเราจะทำพื้นที่นี้มาตลอดทั้งจัดตั้งสาขา ขยายศูนย์ประสานงาน ขยายสมาชิก จัดฝึกอบรมแกนนำติดอาวุธทางความคิด ปลูกฝังอุดมการณ์ เสริมสร้างภาวะผู้นำในการทำงาน ซึ่งเป็นการทำงานพื้นฐานเชิงรุก ในจังหวัด แต่เท่าที่ทราบพรรคเพื่อไทยก็ต้องจัดทัพใหม่เหมือนกัน เพราะบ้านใหญ่เดิมประสบความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งซ่อม ขณะที่คะแนนนิยมของพรรคเพิ่มมากขึ้น เห็นได้จากการลงพื้นที่ อย่างไรก็ตาม รู้สึกเห็นใจนายเกียรติศักดิ์ เพราะเหมือนโดนรุมสกรัม เป็น ส.ส.ฝ่ายค้านคนเดียวในจังหวัดนี้ แต่เราก็ทำงานต่อเนื่อง
ด้านนายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง ส.ส.ปทุมธานี กล่าวถึงความกังวลในเรื่องของอำนาจรัฐหรือไม่ หาก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ลงสมัครจริงว่า ตนไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงชัดเจนหรือไม่ แต่ข่าวใหญ่ลงหลายฉบับก็น่าจะชัดเจนในระดับหนึ่ง แต่ตนไม่ได้วิตกกังวล เพราะวิกฤตอาจจะเป็นโอกาสก็ได้ แต่ส่วนตัวเชื่อว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะไปล้มตระกูลหาญสวัสดิ์ เพื่อเป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทยลงสมัครพื้นที่นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตระกูลหาญสวัสดิ์กินพื้นที่มานาน อย่างไรก็ตามตนห่วงอำนาจประชาชนมากกว่าอำนาจรัฐ ที่แม้ว่าอำนาจรัฐจะเข้ามามีส่วนก็ตาม แต่ประชาชนก็มีเหตุผลในการตัดสินใจ แน่นอนว่าการเมืองต้องมีคู่แข่ง ไม่ใครก็ใครซึ่งตนก็เตรียมตัวเตรียมใจกับเรื่องนี้เต็มที่ แต่จะเหนืออำนาจประชาชนไม่ได้
ส่วนที่มีการมองว่าที่ชนะการเลือกตั้งขณะนั้น เพราะมีปัญหาอุทกภัยมาช่วย นายเกียรติศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เฉพาะน้ำท่วมอย่างเดียว แต่มีปัญหาอื่นมาตลอด ซึ่งตนก็นำเรื่องนี้ไปสะท้อนในสภาฯแทนชาวบ้าน อย่างไรก็ตาม ตนตรงไปตรงมา ไม่มีแผนลึกทางการเมืองทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชน
