รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยันรัฐบาลมีโรดแมปเจรจาสันติภาพ อีกด้านยันนายกฯ จริงจังเรื่องปราบคอร์รัปชั่นในวงการสีกากี เหน็บพรรคประชาธิปัตย์วิ่งเต้นโยกย้ายข้าราชการไม่สำเร็จเลยออกมาโวยวาย ท้ามีหลักฐานรีบแจ้งรัฐบาล
วันนี้ (6 ต.ค.) ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกระบวนการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นว่าไม่มีโรดแมป นั้น รัฐบาลขอยืนยันว่าฝ่ายไทยมีโรดแมปที่ชัดเจน คือ ไม่ยอมให้มีการแบ่งแยกดินแดนและจะใช้แนวทางพูดคุยเจรจาเพื่อสร้างสันติภาพในภาคใต้ ควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นผู้มอบนโยบาย และจะคอยติดตามความคืบหน้าอยู่ตลอด ทั้งในเรื่องการพัฒนาและการสร้างความสงบในพื้นที่ ซึ่งนับตั้งแต่มีกระบวนการพูดคุยเกิดขึ้น พบว่าเหตุรุนแรงมีจำนวนลดน้อยลงกว่าในรัฐบาลก่อน
โดยสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปี 2552 มีเหตุร้ายเกิดขึ้น 1,348 ครั้ง แต่ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ปี 2556 มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น 600 ครั้ง ซึ่งสะท้อนว่าสถานการณ์พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การสร้างสันติภาพเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา ไม่ใช่ว่าปัญหาจะยุติลงได้ในชั่วข้ามคืน ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ มองว่า ไทยและบีอาร์เอ็น ยังไม่มีความไว้วางใจต่อกันนั้น ก็ต้องฝากให้นายอภิสิทธิ์กลับไปพิจารณาตัวเองด้วยว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นส่วนหนึ่งที่ทำลายบรรยากาศของการพูดคุยด้วยหรือไม่ เพราะมักจะออกมาโจมตีทั้งรัฐบาลและกลุ่มบีอาร์เอ็น ผ่านทางสื่อมวลชนตลอด โดยหลายครั้งก็เป็นการให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับสถานการณ์ ซึ่งอาจส่งกระทบต่อความรู้สึกของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จึงขอให้พรรคประชาธิปัตย์ระมัดระวังคำพูดด้วย ในการพูดเรื่องความไม่สงบภาคใต้ เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน
ส่วนกรณีที่กลุ่มบีอาร์เอ็นมักจะใช้สื่อออนไลน์หรือยูทิวบ์เป็นเครื่องมือในการสื่อสารนั้น ทีมพูดคุยของไทยได้แจ้งให้กลุ่มบีอาร์เอ็นทราบไปแล้ว ผ่านทางผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุย คือ มาเลเซีย ว่าไทยจะรับพิจารณาเฉพาะข้อเสนอที่ผ่านกระบวนการพูดคุยที่เป็นทางการเท่านั้น ไม่ใช่ข้อความที่ส่งผ่านยูทิวบ์ หรือช่องทางออนไลน์อื่นๆ ซึ่งตรวจสอบที่มาที่ไปไม่ได้
นอกจากนี้ รัฐบาลขอยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีมีความจริงจังเรื่องการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น โดยเฉพาะในวงการตำรวจ ไม่ได้ปล่อยปละละเลย อย่างที่ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหา ทั้งนี้ หากพรรคประชาธิปัตย์มีข้อมูลเรื่องจากทุจริตคอร์รัปชัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการวิ่งเต้นตำแหน่งของตำรวจ หรือการทุจริตเรื่องอื่นๆ ขอให้รีบแจ้งให้รัฐบาลทราบเพื่อจะได้จัดการลงโทษผู้กระทำผิด แต่อย่ามากล่าวหารัฐบาล หรือข้าราชการเสียหายโดยไม่มีหลักฐาน ไม่อย่างนั้นพรรคประชาธิปัตย์จะถูกมองว่า ที่ออกมาพูดเพราะต้องการวิ่งเต้นโยกย้ายข้าราชการแต่ทำไม่สำเร็จ จึงออกมาพูดข่มขู่รัฐบาล เพื่อส่งสัญญาณให้ทำตามออเดอร์ของพรรคประชาธิปัตย์ใช่หรือไม่ ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นจริง ก็จะกระทบความสง่างามของพรรคประชาธิปัตย์เอง และต้องแสดงความเสียใจด้วยที่รัฐบาลไม่สามารถช่วยเหลือใครในทางที่ผิดได้ เนื่องจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยึดระบบคุณธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย