โฆษก “อภิสิทธิ์” โต้ป้ายสีประชาธิปัตย์-ศาล เบรกแผนจัดการน้ำต้นเหตุท่วม ยันเบิกจ่ายแล้ว 1.2 หมื่นล้าน 9 โครงการ แต่กลับไม่มีความเปลี่ยนแปลง ชี้ไร้บทเรียนหลังมหาอุทกภัยปี 54 หยันนายกฯ ทำได้เพียงแค่แจกถุงยังชีพ
วันนี้ (4 ต.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายธีมะ กาญจนไพริน โฆษกส่วนตัวผู้นำฝ่ายค้าน แถลงว่า ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับภัยพิบัติตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย. - 4 ต.ค.56 รวมพื้นที่ 33 จังหวัด 2,500 อำเภอ 1,554 ตำบล 12,677 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเสียหาย 898,383 ครัวเรือน มีผู้เดือดร้อนถึงกว่า 2 ล้าน 9 แสนคน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย โดยยังมีน้ำท่วมอยู่อีก 24 จังหวัด ซึ่งรัฐบาลอ้างว่าไม่มีเงินเพราะศาลปกครองและพรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวการทำให้แผนป้องกันอุทกภัยเดินต่อไม่ได้นั้นไม่เป็นความจริง เพราะข้อมูลจากสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะมีการเบิกจ่ายเงินไปแล้วบางส่วน คือ 12,750 ล้านบาท โดย กบอ.ที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ดูแลและได้จัดสรรงบให้กับหลายหน่วยงานลงทุนเพื่อบริหารจัดการปัญหาน้ำท่วมรวม 9 โครงการ วงเงิน 11,735 ล้านบาทโครงการตามแผนป้องกันน้ำท่วมตะวันตกตะวันออกเบิกจ่าย 7,857 ล้านบาท แสดงว่ามีการจัดสรรงบประมาณเพื่อบริหารจัดการน้ำท่วมแล้วแต่กลับไม่มีความเปลี่ยนแปลงของสภาพปัญหา
นายธีมะกล่าวว่า อีกทั้งยังมีการเบิกเงินอีก 1 หมื่นล้านบาทให้กับ กบอ.ไปแล้วด้วย ดังนั้น รัฐบาลจะอ้างว่าไม่มีเงินไปป้องกันน้ำท่วมไม่ได้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ยังมีเงินฟื้นฟูน้ำท่วมอีก 1.2 แสนล้านบาทที่นำไปใช้ทั้งฟื้นฟูและป้องกันเป็นก้อนแรกไปแล้ว หลังเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในปี 2554 รัฐบาลจึงควรจะมีบทเรียนในการเตือนภัยและการบริหารจัดการน้ำท่วมได้ดีกว่านี้ ส่วนที่รัฐบาลกล่าวหาว่าฝ่ายค้านเอาแต่พูดไม่ช่วยแก้ปัญหานั้นไม่เป็นความจริงเพราะนายอภิสิทธิ์ลงพื้นที่ก่อนรัฐบาลด้วยซ้ำ และยังมีเสื้อแดงตามป่วนทั้งที่ไปเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยนายอภิสิทธิ์บอกว่า เสื้อแดงที่มาถามตนว่ามาทำไม ควรจะย้อนกลับไปถามว่า ทำไมนายกฯ ไม่มามากกว่า และที่ผ่านมานายอภิสิทธิ์ ได้ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมเยียนและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่องโดยใช้เงินบริจาคจากมูลนิธิเสนีย์ ปราโมช ในขณะที่รัฐบาลมีทั้งอำนาจและเงิน นายกรัฐมนตรีกลับทำได้เพียงแค่การแจกถุงยังชีพ ทั้งๆ ที่ความจริงต้องแก้ปัญหาได้ดีกว่านี้