โฆษกเพื่อไทยยันโหวตวาระ 3 แก้ที่มา ส.ว.แน่ แม้ศาล รธน.รับคำร้องแล้ว โวยตุลาการไม่ควรจุ้น ลั่นเป็นอำนาจจองรัฐสภา อ้างคำวินิจฉัยรายมาตราแก้ได้ จวก ปชป.ปกป้องเผด็จการ จ่อสอบ “วิรัตน์” ขัดขวาง เมินรับคำท้า “สาธิต” ให้ลาออกหากพบคลิปเสียบบัตรตัดต่อ โยงยื่นศาลหวังสกัดแก้ รธน.เฉย โบ้ยถ้าเสียบจริงก็เรื่องรายตัว สื่อรุมซักเปิดชื่อคนพูดตัดต่อ ทำอึกอักก่อนลุกหนี
วันนี้ (26 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยจะโหวตวาระ 3 ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว. แม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องว่ากระบวนการร่างรัฐธรรมนูญขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 เนื่องจากเห็นว่าเป็นอำนาจของรัฐสภาที่ฝ่ายตุลาการไม่ควรเข้ามาก้าวล่วง ดังนั้น เมื่อประธานรัฐสภาได้บรรจุวาระดังกล่าวในการประชุมรัฐสภาวันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2556 แล้ว พรรคก็เห็นว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ เมื่อครบ 15 วัน ก็ต้องลงมติ ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจในการก้าวล่วงฝ่ายนิติบัญญัติ เพราะเป็นการแก้ไขเป็นรายมาตรา ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้เคยวินิจฉัยแล้วว่าไม่เป็นการล้มล้างการปกครองตามมาตรา 68 และระบุว่าสามารถแก้ไขได้
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ให้ข่าวขู่สมาชิกรัฐสภาจะเอาผิดต่อ ส.ส.และ ส.ว.312 คน ที่ลงมติ โดยยื่น ป.ป.ช.และยื่นถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หากมีการนำร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯ นั้น ตนเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์กำลังพยายามปกป้องอำนาจเผด็จการ ขู่นายกฯ ผิดกฎหมายผิดจริยธรรมทางการเมือง เพราะพรรคประชาธิปัตย์ก็เคยแก้ไขรัฐธรรมนูญเหมือนกัน กลับขัดขวางการคืนอำนาจให้ประชาชนที่ให้ที่มา ส.ว.มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งตนจะโหวตโดยใช้เอกสิทธิ์ไม่มีใครบังคับหรือปิดกั้นได้ อีกทั้งจะตรวจสอบนายวิรัตน์กลับว่าคำสัมภาษณ์ข่มขู่ดังกล่าวถือเป็นการขัดขวางการทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาหรือไม่ เพื่อจะได้ดำเนินการต่อไป
นายพร้อมพงศ์ยังปฏิเสธที่จะรับคำท้าของนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ที่ให้ลาออกจากตำแหน่งหากตรวจสอบแล้วพบว่าคลิปเสียบัตรแทนกันเป็นเรื่องจริงไม่ใช่การตัดต่อตามที่นายพร้อมพงศ์กล่าวอ้าง โดยเบี่ยงเบนประเด็นไปว่าคำท้าของนายสาธิตเป็นเพียงการกระทำแก้เกี้ยวเท่านั้น และอ้างว่าการนำคลิปไปยืนต่อศาลรัฐธรรมนูญสะท้อนให้เห็นพิรุธเพื่อที่จะขัดขวางไม่ให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว.ผ่าน เพราะผู้เแถลงเรื่องนี้คือนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้านซึ่งถือว่ามีส่วนได้ส่วนเสีย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการเสียบบัตรแทนกันจริงก็ถือเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลที่จะไม่ส่งผลให้กระบวนการพิจารณากฎหมายมีปัญหา เนื่องจากคะแนนเสียงระหว่างเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยแตกต่างกันมาก อีกทั้งจากมุมกล้องที่เห็นน่าจะเป็นที่นั่งในส่วนของ 40 ส.ว. ถ้ามีการเสียบบัตรแทนกันจริงก็คงโวยวายตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องแล้ว
โฆษกพรรคเพื่อไทยยังพยายามหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญที่นายพร้อมพงศ์ อ้างว่าอยู่ในแวดวงบันเทิงมา 28 ปี ยืนยันแล้วว่าเป็นคลิปตัดต่อ เพียงแต่ย้ำว่าได้ไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจริงแต่ไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ และเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ส่งคลิปดังกล่าวให้คณะกรรมการจริยธรรมของสภาแทนที่จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่าเป็นการกระทำที่ผิดขั้นตอน แม้ว่าจะไม่มีระเบียบกำหนดว่าต้องยื่นคณะกรรมการจริยธรรมก่อนและเป็นสิทธิที่พรรคประชาธิปัตย์จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ก็ตาม แต่ก็เป็นเรื่องของสำนึกที่ควรจะดำเนินการขั้นแรกคือตรวจสอบความจริงก่อน ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยเคยนำคลิปตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมาเปิดเผยโดยที่ยังไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและมีการข่มขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนั้น ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับกรณีนี้ได้
มีรายงานว่า นายพร้อมพงศ์มีท่าทีอึกอักตลอดเวลาที่ถูกนักข่าวไล่ซักถึงประเด็นกระบวนการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีหากมีการนำร่างดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯ ทั้งที่ยังมีปัญหาข้อกฎหมายที่ค้างการพิจารณาอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงคำถามที่ว่าไม่กล้ารับคำท้าลาออกของนายสาธิตใช่หรือไม่ โดยเฉพาะกรณีที่ให้เปิดเผยรายชื่อผู้เชี่ยวชาญที่นายพร้อมพงศ์อ้างว่าเป็นการตัดต่อ ซึ่งถูกถามซ้ำหลายครั้ง จนนายพร้อมพงศ์ใช้วิธีเดินหนีนักข่าวออกจากห้องแถลงข่าวรัฐสภาแทนที่จะตอบคำถาม