“ยิ่งลักษณ์” เปิดทัวร์สมาร์ทเลดี้ รับสมัครถึงถิ่นหอการค้า นักศึกษาสาวสวยแห่สมัคร เชื่อหญิงไทยมีศักยภาพ ดึงต่อยอดเป็นผู้นำ ปลูกค่านิคมสวยด้วยความคิด อ้างทำเรียลลิตี้หวังสอดแทรกความรู้ เมินคนด่าอีโง่ หยันพวกดูใครฉลาดหรือไม่มองแค่ภายนอก ลั่นอดทนเพื่อบรรยากาศทางการเมือง ขอให้เกียรติกัน
วันนี้ (16 ก.ย.) ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาร่วมงานรับสมัครโครงการคัดเลือกผู้นำสตรีรุ่นใหม่ กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี smart lady โดยมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และนางศันสนีย์ นาคพงศ์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วม พร้อมทั้งน.ส.เขมนิจ จามิกรณ์ นักแสดงเป็นพรีเซ็นเตอร์โครงการ
โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้พบปะพูดคุยกับนักศึกษาที่สนใจร่วมสมัครในโครงการดังกล่าว พร้อมกล่าวว่า สำหรับที่มาของโครงการ เพราะเราเชื่อว่าผู้หญิงไทยทุกคนมีศักยภาพ และจะดึงศักยภาพนั้นมาต่อยอดความคิดดีๆ ให้มีความเป็นผู้นำมากขึ้น ซึ่งความหมายของโครงการนี้ไม่ใช่ว่าจะคัดเลือกผู้หญิงอย่างเดียว แต่เราเชื่อว่าทุกคนที่สมัครมีดีอยู่ในตัว และจะเอาศักยภาพความเก่งออกมาใช้ในทางที่ถูกต้อง ฉะนั้นสมาร์ทเลดี้จึงไม่ได้หมายความว่าผู้หญิงที่หน้าตาสวย ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นคนที่เรียนเก่ง พูดเก่ง แต่เราอยากให้โอกาสสตรีไทยทุกคน มีความคิดที่ดี มีน้ำใจไมตรี และมีความพยายามมานะบากบั่น เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศ มากกว่าการมองจากรูปลักษณ์ภายนอก เราจึงอยากปลูกค่านิยมหญิงไทยให้เป็นผู้หญิงที่สวยด้วยความคิด ซึ่งตนเชื่อว่าข้างในของทุกคนมีความดี ความใสสะอาด มีความน่ารัก จึงเลือกจัดเป็นรายการเรียลิตี้ เพราะเราอยากสอดแทรกความรู้และประสบการณ์ ขณะที่คนทางบ้านก็ได้ดูรายการเรียนรู้ไปด้วย
“เราอยากเห็นเพชรนี้มากขึ้น และเราอยากเห็นเพชรนี้ไม่ได้ตีราคาที่มูลค่าเพชร เราอยากให้มองลึกข้างในว่าเพชรนี้กว่าจะได้มามีความยากยังไง และเพชรนี้จะอยู่ได้อย่างยั่งยืนยังไง อันนี้ต่างหากที่เราอยากจะบอกว่า สุดท้ายเราต้องรักษาเพชรที่มีค่านี้ไว้ให้เป็นสมบัติชั่วลูกชั่วหลานของเรา และเป็นรากฐานของประเทศต่อไป” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านนำไปโจมตีโดยใช้คำพูดที่รุนแรงว่า ความจริงในสังคมไทยเราอยากเห็นการให้เกียรติซึ่งกันและกัน ส่วนตัวมองว่าผู้หญิงไทยมีจุดดีทุกคน อยากให้มองที่จุดดี จุดที่เราจะต่อยอดในการเสริมสร้างศักยภาพ เพราะการมองว่าใครฉลาดหรือไม่ฉลาด เป็นการมองจากมุมภายนอก ว่าจะต้องเป็นคนที่เรียนเก่ง ต้องพูดจาดี แต่จริงๆแล้วสิ่งที่เราอยากได้ตามโครงการนี้ก็คือความคิดของผู้หญิงที่มีความคิดที่ดี มีความพยายามมุมานะ ซึ่งบางคนอาจจะไม่มีโอกาสได้เรียน ไม่มีโอกาสได้รับความรู้หรือการศึกษา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่มีความสามารถ ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลพยายามเปิดโอกาสตรงนี้คือ การเปิดโอกาสให้สตรีทุกคน ช่วงอายุ 18-35 ปี และที่เน้นเฉพาะช่วงนี้ เพราะต้องการที่จะเสริมสร้างศักยภาพของเยาวชนอย่างเท่าเทียมกัน และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงออก ถึงศักยภาพของตนเอง ที่สำคัญคือ ความคิด ความรู้ คุณงามความดี ทางด้านจิตใจ ซึ่งสำคัญกว่าภายนอก หรือสำคัญมากกว่าที่ไปวัดว่า ใครจะเรียนเก่งหรือไม่เก่งอย่างไร
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านพยายามมุ่งเป้ามาที่นายกฯโดยเฉพาะจะมีอะไรชี้แจงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ส่วนตัวคงไม่ชี้แจงอะไรทั้งสิ้น แต่ตนเองจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะรักษาความรู้สึก และรักษาความเข้าอกเข้าใจ รวมถึง รักษาความอดทนและรักษาบรรยากาศอย่างเต็มที่ และเชื่อว่าการมองแต่ภายนอก การวัดต้องอยู่ที่คนวัด ว่าจะวัดอย่างไร แต่ถ้าถามตนเอง คือตนมีความทุ่มเทและความตั้งใจ อยากเห็นประเทศดี เราคือกลไกอย่างหนึ่งที่จะให้เกิดการสนับสนุน การสร้างบุคคลากรที่มีศักยภาพ เราไม่ได้บอกว่า เราจะต้องเก่งและคนอื่นไม่เก่ง แต่สิ่งที่เราอยากได้คือ การให้เกียรติซึ่งกันและกัน