“นายกฯ ยิ่งลักษณ์” จ้อผ่านเทปโทรทัศน์บันทึกการเยือนสวิส สร้างความเชื่อมั่น เพิ่มการค้าการลงทุนสินค้าภาคเกษตร พลังงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน” เช้าวันนี้ (14 ก.ย.) นำเสนอเทปการเดินทางเยือนสมาพันธรัฐสวิตเซอร์แลนด์ สาธารณรัฐอิตาลี นครวาติกัน และสาธารณรัฐมอนเตเนโกร อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 8-15 ก.ย. ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะมาออกอากาศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเยือนสมาพันธรัฐสวิสครั้งนี้ได้มีโอกาสกล่าวสุนทรพจน์ และแสดงเจตนารมณ์ของประเทศ ในการประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 24 (HRC 24X) ซึ่งคณะมนตรีฯ ให้ความสำคัญกับประเทศไทย เพราะจริงๆ แล้วเมื่อก่อนไทยก็เคยเป็นสมาชิกอยู่แล้ว ขณะนี้เราก็แสดงเจตจำนงในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกในปี 2017 และปี 2018 แสดงให้เห็นว่าเราให้ความสำคัญ และมีการหารือกับตัวแทนคณะมนตรีความมั่นคง และองค์กรระหว่างประเทศหลายองค์กร ที่ติดตามการทำงาน และติดตามข่าวคราวปัญหาต่างๆ ของไทย เช่น ปัญหาแรงงานต่างด้าว ทรัพย์สินทางปัญญา สิทธิมนุษยชน การค้ามนุษย์ เขาก็ได้ติดตาม เป็นโอกาสดีที่ได้มาแสดงเจตจำนงในการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เวทีโลกให้ความสำคัญ
ด้านปัญหาแรงงานต่างด้าว เราใช้เวทีนี้ชี้แจง และร่วมรับประทานอาหารกับองค์กรระหว่างประเทศว่า เราให้การดูแลผู้ใช้แรงงานต่างด้าว และดูแลผู้อาศัยในประเทศไทยตามหลักมนุษยธรรม และร่วมกับองค์กรสหประชาชาติ ในการอำนวยความสะดวกในการกลับสู่ถิ่นฐานเดิม ในส่วนของแรงงานต่างด้าวก็มีการหารือให้มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง ได้รับการดูแลด้านสถานธารณสุข เราก็ได้รับการชื่นชม ส่วนความร่วมมือในการแก้ปัญหาก็จะร่วมกับองค์กรสหประชาชาติ และองค์กรอื่นๆ
สำหรับแง่การค้าของเอกชนไทยกับสวิส ก็จะมีสภาหอฯ สภาอุตสาหกรรม เอสเอ็มอี ก็มีความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนกับภาคเอกชน จับกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องในสาขาที่เอกชนไทยสนใจ และด้านวิชาการ ก็มีโอกาสได้พูดคุยเพื่อให้เห็นว่ามุมมองที่เขามองประเทศไทยเป็นอย่างไร สำหรับการหารือก็ทั้งภาคเอกชนไทย และที่สวิส ก็ยังมีปัญหาเรื่องการค้าการลงทุนอยู่
“สวิสเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 1 ในกลุ่มยุโรป ภาคเอกชนก็อยากให้เร่งกรอบการเจรจาเอฟทีเอ ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มของเอฟทีเอของอียู เราก็ต้องเร่งเพื่อให้เอกชนได้สิทธิพิเศษอย่างเต็มที่ และก็ได้เห็นชอบกับประธานาธิบดีสวิสฯ ในการตั้งคณะทำงานเพื่อให้เป็นรูปธรรม และโอกาสนี้ก็ขอบคุณสวิสที่จัดหลักสูตรภาษาไทยให้ลูกหลานคนไทย เพราะมีคนไทยอยู่ที่นี่ประมาณ 3 หมื่นคนเขาก็จัดหลักสูตรภาษาไทยให้คนไทย ทำให้ลูกหลานยังได้รักษาเอกลักษณ์ของไทย”
สำหรับประเทศไทย สนใจเรื่องการลงทุนพลังงานทดแทน ทั้งที่อยากจะมาลงทุนที่สวิส และเชิญสวิสไปลงทุนด้วย ที่นี่เขาก็มีการใช้ขยะเป็นพลังงานทดแทน นอกจากนี้ สวิสฯก็นำเข้าสินค้าทางการเกษตรของเราหลายอย่าง ก็เชิญชวนให้มีการนำเข้าจากไทยมากขึ้น
ในส่วนของการท่องเที่ยวมีความร่วมมือกัน ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ลงตัวเพราะที่สวิสก็มีความชำนาญด้านโรงแรม ไทยเองก็มีเอกลักษณ์ด้านศิลปวัฒนธรรมไทย ก็ได้เชิญชวนนักธุรกิจภาคบริการของสวิสฯ ไปลงทุนในไทย และเชิญชวนเข้ามาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ