“วัชระ” นำ รองโฆษก ปชป.แถลงโต้ รองโฆษก พท.แขวะแค่คนรับใช้ทรราช “ราเมศ” ฉะ รับไม่ได้พาดพิง “ชวน” ยันแก้ที่มา ส.ว.ใช้เสียงข้างมากขัด รธน. ยันยื่นศาลตีความ ชี้วาระ 2 ปธ.รู้เห็นปิดอภิปราย ไม่ให้ความสำคัญแปรญัตติ ยันอดีตหน.ปชป.พูดถูก ปธ.เป็นปัญหา อัด “โอปอ” ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ไล่ดูประวัติ “ชวน” เย้ยคงรู้จักแต่หลักความชั่ว ย้อนหลักโกงเหมาะรัฐ เผยถกวิปค้านพรุ่งนี้ จี้ นายกฯอย่าปากว่าตาขยิบ ปรามกุ๊ยแดง ป่วนอดีต ปธ.ศาล รธน.
วันนี้ (12 ก.ย.) นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้พานายราเมศ รัตนชเวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ มาแถลงที่สภาเพื่อตอบโต้นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ซึ่งตนเห็นว่าเป็นแค่คนรับใช้ทรราชเท่านั้น
นายราเมศ กล่าวว่า นายอนุสรณ์ ได้พาดพิงถึง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ที่ให้สัมภาษณ์ว่าความวุ่นวายในสภา เกิดจากการทำหน้าที่ของประธานสภา โดยกล่าวหาว่า นายชวน เป็นไม้หลักปักขี้เลน และหลักเสื่อม ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เพราะภาพการประชุมรัฐสภาใช้เสียงข้างมากในทางที่ผิดต่อหลักเกณฑ์ความถูกต้อง ขัดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ ตนในฐานะคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรค กล้ายืนยันได้ว่ามีการใช้เสียงข้างมากขัดรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับ ตั้งแต่วาระ 1 มีการกำหนดวันแปรญัตติในระหว่างที่องค์ประชุมล่ม แต่ให้ใช้กรอบเวลา 15 วัน ก่อนที่จะมีการเรียกประชุมเพื่อลงมติใหม่อีกครั้ง ซึ่งจะต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอย่างแน่นอน
นอกจากนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่สอง ประเด็นที่ ส.ว.นั้น ก็พบว่าการทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมดำเนินการร่วมกับเสียงข้างมากปิดอภิปรายในแต่ละมาตรา ไม่ถูกต้องตามกระบวนการตรากฎหมาย เพราะวาระสองต้องให้ความสำคัญกับการแปรญัตติ เมื่อมีการสงวนคำแปรญัตติต้องได้รับสิทธิในการโน้มน้าวสภาแต่เสียงข้างมากร่วมกับประธานรัฐสภา และรองประธานรัฐสภา กลับเร่งรีบปิดอภิปรายและลงมติ ซึ่งจะตรวจสอบไปยังศาลรัฐธรรมนูญว่า กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปตามวิถีทางตามรัฐธรรมนูญหรือไม่
นายราเมศ กล่าวต่อว่า ดังนั้นสิ่งที่ นายชวน พูดถึงการทำหน้าที่ของประธานในที่ประชุมว่าเป็นปัญหาจึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพราะประธานรัฐสภาทำตามคำสั่งของคนบางคน โดยนายชวนไม่เคยทำตัวเป็นไม้หลักปักขี้เลน อยากให้นายอนุสรณ์ที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมให้ไปศึกษาข้อมูล เพราะนายชวนเป็นแบบอย่างที่ดี ไม่โกงกินบ้านเมือง แต่คงสอนนายอนุสรณ์ และพรรคเพื่อไทยยาก เพราะรับรู้แต่หลักความชั่ว ไม่เคยรู้จักหลักความดี และที่ตั้งฉายาว่าท่านชวนหลักเสื่อม นายอนุสรณ์ต้องไปทำความเข้าใจกับภาษาไทยให้ดีด้วยว่า หลักโกงบ้านโกงเมืองเหมาะสมกับนายอนุสรณ์ และรัฐบาลสมควรไปศึกษามากกว่า ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ย.56) จะประชุมวิปฝ่ายค้านเวลา 10 นาฬิกา เพื่อเตรียมคำร้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วนกรณีเสื้อแดงกลุ่ม กวป.บุกบ้าน นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญนั้น ขอให้นายกฯห้ามปรามกลุ่มคนเหล่านี้ เพราะเป็นคนของรัฐบาล นายกฯเรียกร้องเรื่องปรองดอง และการปฏิรูปการเมือง แต่คนที่สร้างความแตกแยก วุ่นวายในบ้านเมือง ล้วนแต่เป็นคนในรัฐบาลที่ข่มขู่คุกคามคนเห็นต่าง นายกฯจะปากว่าตาขยิบไม่ได้ เพราะไม่เช่นนั้นเท่ากับว่านายกฯเป็นผู้ให้ท้ายบุคคลเหล่านี้ ทั้งนี้เชื่อว่าจะยังมีการกดดันศาลรัฐธรรมนูญอีก เนื่องจากจะมีการส่งกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย