วานนี้ ( 11 ก.ย.) นายโชคชัย ฤทธิ์บุญรอด เครือข่ายสภายุติธรรม เข้ายื่นหนังสือต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้พิจารณาสั่งให้ นายบุญส่ง กุลบุปผา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เอาผิดทางแพ่งกับนายบุญส่ง กรณีที่อนุญาตให้บุตรชายของตนเอง ซึ่งเป็นเลขานุการตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ลาไปศึกษาต่อต่างประเทศ โดยได้รับเงินเดือน และเงินประจำตำแหน่ง เป็นจำนวนเงินกว่า 8 แสนบาทนั้น เครือข่ายสภายุติธรรมเห็นว่า เป็นการกระทำที่ผิดวินัยข้าราชการฝ่ายตุลาการ และสมควรร้องทุกข์ดำเนินคดี ต่อนายบุญส่ง ว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมาย มาตรา 157 พร้อมให้ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย นายบุญส่ง ภายใน 30 วัน และระหว่างการสอบสวนทางวินัย ให้นายบุญส่ง หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน
ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป) นำโดย นายศรรักษ์ มาลัยทอง โฆษกกลุ่มกวป. ก็ได้ยื่นหนังสือขอทราบกรอบการพิจารณาคำร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 และ มาตรา 237 เข้าข่ายเป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ ว่าศาลจะแล้วเสร็จเมื่อใด โดยนายศรรักษ์ กล่าวว่า ทราบว่า การพิจารณาเรื่องดังกล่าวศาลกำลังดูว่า ศาลรัฐธรรมนูญ มีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ จึงอยากให้กำหนดกรอบเวลาวินิจฉัยให้ชัดเจน และขอให้วินิจฉัยคำร้องนี้ด้วยความเป็นธรรม ซึ่งหลังจากนั้นทางกลุ่มก็ได้เดินทางไปยังบ้านพัก นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ บริเวณ ถ.สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี เพื่อมอบอาหารสุนัขจำนวน 3 ถุง ให้แก่ นายวสันต์ ผ่าน พ.ต.ท.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ คัดค้านกรณีที่ นายวสันต์ ออกมาระบุว่า รัฐบาลได้กระทำผิดรัฐธรรมนูญ ในกรณีที่ไม่แถลงผลงานประจำปี และส่อผิดกฎหมาย กรณียังไม่ได้กู้เงินในโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท จากธนาคารตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากเห็นว่า สิ่งที่นายวสันต์พูด เป็นการแสดงเจตนาช่วยพรรคประชาธิปัตย์ อีกทั้งวาทกรรมดังกล่าว ยังถือว่า ขาดหลักจริยธรรม คุณธรรม เหมือนคนแก่ที่ขาดอาหาร อดอยาก หิวโซ อย่างหนัก มั่วกินไม่เลือก ไม่เคยสำนึกบุญคุณของประชาชน ทั้งๆที่ใช้เงินกินภาษีประชาชนคนไทยมาเกือบชั่วชีวิตของตัวเอง ทางกวป. จึงต้องนำอาหารมาบอบให้
ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป) นำโดย นายศรรักษ์ มาลัยทอง โฆษกกลุ่มกวป. ก็ได้ยื่นหนังสือขอทราบกรอบการพิจารณาคำร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 และ มาตรา 237 เข้าข่ายเป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ ว่าศาลจะแล้วเสร็จเมื่อใด โดยนายศรรักษ์ กล่าวว่า ทราบว่า การพิจารณาเรื่องดังกล่าวศาลกำลังดูว่า ศาลรัฐธรรมนูญ มีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ จึงอยากให้กำหนดกรอบเวลาวินิจฉัยให้ชัดเจน และขอให้วินิจฉัยคำร้องนี้ด้วยความเป็นธรรม ซึ่งหลังจากนั้นทางกลุ่มก็ได้เดินทางไปยังบ้านพัก นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ บริเวณ ถ.สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี เพื่อมอบอาหารสุนัขจำนวน 3 ถุง ให้แก่ นายวสันต์ ผ่าน พ.ต.ท.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ คัดค้านกรณีที่ นายวสันต์ ออกมาระบุว่า รัฐบาลได้กระทำผิดรัฐธรรมนูญ ในกรณีที่ไม่แถลงผลงานประจำปี และส่อผิดกฎหมาย กรณียังไม่ได้กู้เงินในโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท จากธนาคารตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากเห็นว่า สิ่งที่นายวสันต์พูด เป็นการแสดงเจตนาช่วยพรรคประชาธิปัตย์ อีกทั้งวาทกรรมดังกล่าว ยังถือว่า ขาดหลักจริยธรรม คุณธรรม เหมือนคนแก่ที่ขาดอาหาร อดอยาก หิวโซ อย่างหนัก มั่วกินไม่เลือก ไม่เคยสำนึกบุญคุณของประชาชน ทั้งๆที่ใช้เงินกินภาษีประชาชนคนไทยมาเกือบชั่วชีวิตของตัวเอง ทางกวป. จึงต้องนำอาหารมาบอบให้
