ตัดสิน“คดีรถดับเพลิงฯ”วันนี้ ลุ้นศาลฎีกาจับโกงนักการเมือง

รายงานการเมือง

วันนี้10 ก.ย. 2556 คือวันสุดท้ายที่จะรู้ผลกันเสียทีว่าบทสรุปสุดท้ายของ “คดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง กรุงเทพมหานคร” ที่ยืดเยื้อยาวนานมาหลายปี จากวันเปิดศาลไต่สวนคดีนัดแรกเมื่อ13 ธันวาคม 2555 จนถึงวันสุดท้ายของการพิจารณาคดีเมื่อ 30 พ.ค. 2556

จะได้รู้ผลกันเสียทีสุดท้าย ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะตัดสินคดีออกมาอย่างไร

หลังจากศาลฎีกาฯได้เลื่อนการอ่านคำพิพากษามาแล้วรอบหนึ่งเมื่อ 6 สิงหาคม 2556 ด้วยเหตุประชา มาลีนนท์ อดีตรมช.มหาดไทยไม่มาปรากฏตัวต่อศาลฯจนทำให้องค์คณะผู้พิจารณาไต่สวนคดีเลื่อนการอ่านคำพิพากษามาเป็นวันนี้พร้อมกับออกหมายจับนายประชา

ด้วยเหตุศาลเห็นว่ามีเจตนาจงใจหลีกเลี่ยงหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา ทำให้ศาลไม่สามารถอ่านคำพิพากษาได้จึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับจำเลยที่ 2 และให้ปรับนายประกันมูลค่า 2 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามในการนัดอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาวันนี้แม้ต่อให้จำเลยในคดีรายใดรายหนึ่งไม่มาปรากฏตัวต่อศาลฯก็จะไม่มีผลใดๆเพราะจะมีการอ่านคำพิพากษาแน่นอนไม่มีการเลื่อนออกไปอีกแล้ว

โดยคดีดังกล่าวมีจำเลยที่ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้ยื่นฟ้องประกอบด้วย นาย โภคิน พลกุล อดีต ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและอดีตรมว.มหาดไทย -ประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย -วัฒนา เมืองสุขส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยในฐานะอดีต รมว.พาณิชย์- พล.ต.ต. อธิลักษณ์ตันชูเกียรติ อดีต ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. -บริษัท สไตเออร์เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จำกัด หรือ STEYR-DAIMLER-PUCH Spezial fahrzeug AG&CO KG(ศาลสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราว) และอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะอดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นจำเลยที่ 1-6

ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ(ฮั้วประมูล) พ.ศ. 2542 จากกรณีการจัดซื้อรถ และเรือดับเพลิงพร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยตามโครงการพัฒนาระบบบริหารและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกทม.มูลค่า 6,687,489,000 บาท

โดยคดีนี้มีการเปิดห้องพิจารณาคดีกันวันแรกเมื่อ 13 ธ.ค.2555 มีพยานโจทก์เข้าเบิกความคือยุทธพงศ์ จรัสเสถียรส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทยและอดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์ฯที่เป็นหนึ่งในผู้เริ่มตรวจสอบโครงการดังกล่าวมาตั้งแต่ต้น กับพยานอีกคนคือ นาย เชิดชัยศรีคำ ข้าราชการบำนาญ อดีต นิติกรเชี่ยวชาญการจัดซื้อจัดจ้าง กรมบัญชีกลาง

ขณะที่วันสุดท้ายของการพิจารณาคดีคือ 30พ.ค. 2556มีพยานเข้าเบิกความ 2ปาก คือ นาย พงศ์โพยมวาศภูติ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย และ น.ส.วารี แว่นแก้ว นิติกรชำนาญการสำนักงานมาตรฐานการจัดซื้อจัดจ้าง กรมบัญชีกลาง ที่เข้าเบิกความเกี่ยวกับขั้นตอนปฏิบัติการจัดซื้อตามระเบียบราชการ

ความน่าสนใจของคดีทุจริตจัดซื้อรถดับเพลิงฯเพราะเป็นคดีที่มีจำเลยเป็นนักการเมืองขาใหญ่หลายคนที่ก็ยังมีบทบาทสำคัญทางการเมืองอยู่

อาทิโภคิน พลกุล ที่เวลานี้มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษายิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและถือเป็นมือกฎหมายคนสำคัญที่ทักษิณชินวัตรไว้วางใจและให้ความเชื่อถืออย่างมาก ที่ผ่านมานับแต่โภคินพ้นจากโทษแบนคดียุบพรรคไทยรักไทยเมื่อพ.ค.2555ชื่อของโภคินก็มีข่าวว่าติดโผรัฐมนตรีมาตลอด โดยเฉพาะตำแหน่ง มท.1 -รมว.มหาดไทย แต่ก็มีแค่ข่าวด้วยเหตุสำคัญว่าตัวทักษิณและยิ่งลักษณ์ต่างก็ต้องการรอผลคำตัดสินคดีนี้ให้เสร็จสิ้นไปก่อน ถึงค่อยมาว่ากันบทบาทการเมืองที่ผ่านมาของโภคินจึงเป็นที่ปรึกษาเรื่องกฎหมายให้กับพรรคเพื่อไทยและ

ยิ่งลักษณ์โดยเฉพาะบทบาทในเรื่องการเดินหน้าแก้ไขรธน.ของพรรคเพื่อไทยรวมถึงเป็นกุนซือสำคัญของรัฐบาลในการสู้คดีในชั้นศาลรธน.ในคดีแก้ไขรธน.มาตรา291 เมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา เชื่อว่าหลังจากนี้ เมื่อทุกอย่างมีความชัดเจนตำแหน่งรัฐมนตรีของโภคิน คงไม่พลาดแน่นอน

เช่นเดียวกับวัฒนา เมืองสุข ก็เป็นหนึ่งในคนที่ทำงานการเมืองให้กับยิ่งลักษณ์และทักษิณในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะเรื่องเวทีปฏิรูปและการออกร่างพ.ร.บ.ปรองดอง ที่เจ้าตัวก็คงรอลุ้นเก้าอี้รมต.หลังจากนี้เช่นเดียวกับโภคินเช่นกัน

จุดน่าสนใจของคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง อีกประเด็นก็คือเป็นคดีที่ทางป.ป.ช.ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาฯ เอง หลังจากป.ป.ช.มีปัญหาขัดแย้งในเรื่องสำนวนคดีกับทางอัยการเพราะคณะทำงานพิจารณาสำนวนคดีดังกล่าวของสำนักงานอัยการสูงสุดในยุค จุลสิงห์วสันต์สิงห์อัยการสูงสุดที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่ง30 ก.ย.เห็นว่าสำนวนไม่สมบูรณ์

จนทำให้ป.ป.ช.ดึงสำนวนกลับมายื่นฟ้องเองโดยมอบหมายให้ สิทธิโชค ศรีเจริญ จากสภาทนายความที่เคยรับผิดชอบสำนวนคดีของป.ป.ช.มาแล้วหลายคดีเช่นคดีหวยบนดิน 2 ตัว 3 ตัว เป็นทนายผู้ว่าคดีให้กับป.ป.ช.

หากผลแห่งคดีออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง แน่นอนว่า แรงเหวี่ยงของคดีจะกลับไปที่สององค์กรสำคัญคือสำนักงานป.ป.ช.และสำนักงานอัยการสูงสุดที่จะต้องมีการพูดถึงเรื่องนี้แน่นอน

เนื่องจากเวลานี้รวมถึงในอนาคตก็เห็นได้ชัดว่าจะมีอีกหลายต่อหลายคดีที่เป็นคดีเชิงการเมืองซึ่งทางป.ป.ช.และอัยการ จะต้องทำงานร่วมกันในการพิจารณาสั่งฟ้อง-ไม่ฟ้องซึ่งที่ผ่านมาป.ป.ช.กับอัยการมักมีปัญหากันมาตลอด

จึงน่าสนใจอย่างมากว่าแล้วผลแห่งคดีทุจริตรถดับเพลิงจะมีผลอย่างไรต่อการประสานงานระหว่างป..ป.ช.กับอัยการต่อไปอีกหรือไม่

สำหรับคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงยังพบว่าองค์คณะผู้พิพากษาในคดีนี้ มีชื่อของ ดิเรก อิงคนินันท์ว่าที่ประธานศาลฏีกาคนใหม่ที่จะมาแทนไพโรจน์วายุภาพในวันที่ 1 ตุลาคม เป็นหนึ่งในองค์คณะฯด้วย

ส่วนผลของคดีจะออกมาแบบไหนต้องติดตาม