“ชินภัทร” ยอมรับจัดซื้อแท็บเล็ตปีนี้มีปัญหา ชี้หลายประเด็นเกินกว่าจะควบคุมได้และต้องใช้เวลาแก้ไข เตรียมสรุปเป็นบทเรียนเพื่อวางแนวทางแก้ปัญหาปีถัดไป
วันนี้ (27 ส.ค.) นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่มีการทักท้วงและข้อสงสัยจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เกี่ยวกับการจัดประมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-ออกชัน จัดซื้อแท็บเล็ต ในโครงการคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตพกพาต่อ 1 นักเรียน ปีการศึกษา 2556 เพื่อแจกนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 ทั้ง 4 โซน ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ ของกรมบัญชีกลางนั้น ได้ตอบข้อสังเกตการพิจารณาจัดซื้อแท็บเล็ตเฉพาะโซน 1 ระดับ ป.1 (ภาคกลางและภาคใต้) โซน 2 ระดับป.1 (ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) และโซน 4 ระดับ ม.1 (ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ไปยัง สตง.เป็นที่เรียบร้อย โดยขั้นตอนต่อจากนี้ไปคณะกรรมการบริหารนโยบาย 1 แท็บเล็ตต่อ 1 นักเรียน ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของการจัดซื้อในโซน 1, 2 และ 4 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนประเด็นการประมูลแท็บเล็ตโซน 3 ม.(ภาคกลางและภาคใต้) ที่บอร์ดแท็บเล็ตมีมติให้ดำเนินการยกเลิกผลอี-ออกชันนั้นตนยังไม่อยากให้รายละเอียดอะไรมาก ซึ่งขอให้เป็นเรื่องของการ ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องก่อน
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า ต้องยอมรับว่ากระบวนการจัดซื้อแท็บเล็ตในปีนี้ค่อนข้างมีปัญหา ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ก็จะรวบรวมข้อมูลสรุปเป็นบทเรียนสำหรับการแก้ปัญหาจัดซื้อแท็บเล็ตในปีต่อไป อย่างไรก็ตามตนเข้าใจว่าประเด็นที่เกิดปัญหานั้นหลายเรื่องเหนือการควบคุมและเมื่อเกิดปัญหาขึ้นจำเป็นต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาอย่างมีขั้นตอนและคงจะไปเร่งรัดให้การแก้ปัญหาเสร็จสิ้นโดยเร็วคงทำไม่ได้ แต่ต้องมาดูบทสรุปถึงข้อดีข้อเสียที่เกิดขึ้นว่าควรจะดำเนินการอย่างไร ทั้งนี้จากการติดตามผลการวิจัยติดตามการใช้งานคอมพิวเตอร์พกพาของนักเรียนชั้น ป.1 สังกัด สพฐ.ในปีการศึกษา 2555 ที่ผ่านมาพบว่า นักเรียนมีความกระตือรือร้น สนุกกับการเรียนรู้และมีพัฒนาการทางด้านภาษาอย่างรวดเร็ว โดยสังเกตได้จากผลสัมฤทธิ์ของคะแนนที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามการใช้งานแท็บเล็ตแต่ละปีจะมีสเปกที่สูงขึ้น ซึ่งส่วนนี้ก็จะพัฒนากันต่อไป เพราะเข้าใจดีว่าเทคโนโลยีมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการใช้งานแท็บเล็ตของเด็กของปีก่อนจะใช้การไม่ได้
วันนี้ (27 ส.ค.) นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่มีการทักท้วงและข้อสงสัยจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เกี่ยวกับการจัดประมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-ออกชัน จัดซื้อแท็บเล็ต ในโครงการคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตพกพาต่อ 1 นักเรียน ปีการศึกษา 2556 เพื่อแจกนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 ทั้ง 4 โซน ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ ของกรมบัญชีกลางนั้น ได้ตอบข้อสังเกตการพิจารณาจัดซื้อแท็บเล็ตเฉพาะโซน 1 ระดับ ป.1 (ภาคกลางและภาคใต้) โซน 2 ระดับป.1 (ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) และโซน 4 ระดับ ม.1 (ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ไปยัง สตง.เป็นที่เรียบร้อย โดยขั้นตอนต่อจากนี้ไปคณะกรรมการบริหารนโยบาย 1 แท็บเล็ตต่อ 1 นักเรียน ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของการจัดซื้อในโซน 1, 2 และ 4 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนประเด็นการประมูลแท็บเล็ตโซน 3 ม.(ภาคกลางและภาคใต้) ที่บอร์ดแท็บเล็ตมีมติให้ดำเนินการยกเลิกผลอี-ออกชันนั้นตนยังไม่อยากให้รายละเอียดอะไรมาก ซึ่งขอให้เป็นเรื่องของการ ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องก่อน
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า ต้องยอมรับว่ากระบวนการจัดซื้อแท็บเล็ตในปีนี้ค่อนข้างมีปัญหา ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ก็จะรวบรวมข้อมูลสรุปเป็นบทเรียนสำหรับการแก้ปัญหาจัดซื้อแท็บเล็ตในปีต่อไป อย่างไรก็ตามตนเข้าใจว่าประเด็นที่เกิดปัญหานั้นหลายเรื่องเหนือการควบคุมและเมื่อเกิดปัญหาขึ้นจำเป็นต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาอย่างมีขั้นตอนและคงจะไปเร่งรัดให้การแก้ปัญหาเสร็จสิ้นโดยเร็วคงทำไม่ได้ แต่ต้องมาดูบทสรุปถึงข้อดีข้อเสียที่เกิดขึ้นว่าควรจะดำเนินการอย่างไร ทั้งนี้จากการติดตามผลการวิจัยติดตามการใช้งานคอมพิวเตอร์พกพาของนักเรียนชั้น ป.1 สังกัด สพฐ.ในปีการศึกษา 2555 ที่ผ่านมาพบว่า นักเรียนมีความกระตือรือร้น สนุกกับการเรียนรู้และมีพัฒนาการทางด้านภาษาอย่างรวดเร็ว โดยสังเกตได้จากผลสัมฤทธิ์ของคะแนนที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามการใช้งานแท็บเล็ตแต่ละปีจะมีสเปกที่สูงขึ้น ซึ่งส่วนนี้ก็จะพัฒนากันต่อไป เพราะเข้าใจดีว่าเทคโนโลยีมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการใช้งานแท็บเล็ตของเด็กของปีก่อนจะใช้การไม่ได้