ที่ปรึกษา กมธ.ปราบทุจริต สภา เผย เลขาฯ สภา บ่ายเบี่ยงไม่แจงนาฬิกาแพงเวอร์ แถมดึงชงเอกสาร แย้มใช้คำสั่งเรียก ถ้าไม่มาต้องดำเนินตามกฎหมาย หวั่นงบซ่อมโผล่มาอีก ยันคำอธิบายใช้ดาวเทียมไม่เกี่ยวพิสูจน์ความโปร่งใส แฉมีอีก เครื่องกดน้ำเกาหลี 7 หมื่น สั่งมาเกือบ 100 เครื่อง พร้อมจับผิด กก.เบิกเบี้ยเลี้่ยงกันเปรมปรีดิ์
วันนี้ (9 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า จากการติดตามตรวจสอบการทุจริตจัดซื้อจัดจ้างของสภาผู้แทนราษฎร โดยเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง และขอเอกสารกรณีการจัดซื้อนาฬิกาดิจิตอล จำนวน 10 ล้านบาท แต่ปรากฏว่า นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กลับหลีกเลี่ยงการเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ และยังหน่วงเหนี่ยวไม่มอบเอกสารการจัดซื้อ โดยอ้างถึง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ทั้งที่คณะกรรมาธิการมีอำนาจในการเรียกเอกสาร จึงถือว่ามีเจตนาการหลีกเลี่ยงทำให้สงสัยว่าส่อทุจริตหรือไม่
นายวิลาศ กล่าวว่า ดังนั้น คณะกรรมาธิการจึงมีมติใช้ พ.ร.บ.คำสั่งเรียก หากไม่เข้าชี้แจงหรือไม่มอบเอกสารให้คณะกรรมาธิการจะดำเนินตามกฎหมายต่อไป เนื่องจากกังวลว่าในอนาคตจะมีการตั้งงบผูกพันในการซ่อมนาฬิกาอีก เพราะมีข่าวว่าหากเครื่องตัวแม่เสียจะพาเครื่องอื่นเสียทั้งหมด ทั้งนี้จำเป็นต้องขอเอกสารจัดซื้อจัดจ้างโครงการอื่นด้วย ส่วนที่ นายนุกูล สัญฐิติเสรี รองเลขาธิการสภา ชี้แจงว่าการจัดซื้อนาฬิกาแพง เพราะมีระบบดาวเทียมและระบบอื่นๆ ที่ทันสมัยนั้น คำอธิบายดังกล่าวไม่ใช่เป็นสิ่งที่พิสูจน์ความโปร่งใสของการจัดซื้อจัดจ้างได้
“ที่สำคัญผมจะตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องกดน้ำดื่มร้อนเย็น ทรงทันสมัย สีดำจากเกาหลี มูลค่าเครื่องละ 7 หมื่นบาท ซึ่งมีข่าวว่าสั่งซื้อมาเกือบ 100 เครื่อง และเริ่มติดตั้งที่ตึกกษาปณ์ ถนนประดิพัทธ์ ทุกมุมห้อง จนข้าราชการบ่นว่าเกะกะ และยังเริ่มติดตั้งที่อาคารรัฐสภา 1 ชั้น 3 แล้ว ทั้งนี้ ผมจะได้ติดตามชุดคณะกรรมการอีก 5-6 ชุดที่มีความน่าสงสัย โดยมีการประชุมเบิกเบี้ยเลี้ยงกันอย่างเอิกเกริกจนผิดปกติ เรื่องเหล่านี้ นายสุวิจักขณ์ จะต้องรับผิดชอบ ถ้าไม่มาชี้แจงและแสดงเอกสาร ก็สมควรลาออกได้” นายวิลาศ กล่าว