xs
xsm
sm
md
lg

“นช.แม้ว” ไฟเขียวเก้าอี้ปลัดกลาโหม ตามใจ “ปูนิ่ม” ดึง “นิพัทธ์” ช่วยงาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โผทหารจบ “ยิ่งลักษณ์” ฟันธงเลือก “พล.อ.นิพัทธ์” นั่งปลัดกลาโหม อ้างความสามารถครบ แถมเคลียร์ “ทักษิณ” แล้ว ปลอบขวัญ “พล.อ.จิระเดช” เป็นประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก ด้าน “พล.อ.อุดมเดช” คว้าตำแหน่งรอง ผบ.ทบ. เตรียมขึ้นแท่น ผบ.ทบ.ต่อจาก “พล.อ.ประยุทธ์” ส่วนตำแหน่ง ผบ.ทร.ได้แก่ “พล.ร.อ.ณรงค์”



ผู้สื่อข่าวรายงายว่า วันที่ 30 ส.ค. ที่กระทรวงกลาโหม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะ รมว.กลาโหม ได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพล โดยมี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ และพล.อ.ชาญ โกมลหิรัญ เจ้ากรมเสมียนตรา เข้าร่วมประชุมภายในห้องรับรองสำนักงานรมว.กลาโหม เพื่อหารือการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี 2557 โดยใช้เวลาในการหารือ 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่า การหารือการจัดทำบัญชีรายชื่อปรับย้ายนายทหารเรียบร้อยหรือไม่ โดยนายกฯเพียงแค่ส่งยิ้มให้กับสื่อมวลชนเท่านั้น ก่อนที่ในเวลา 15.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเดินมาเป็นประธานในการประชุมสภากลาโหมประจำเดือน ส.ค.ร่วมกับ ผบ.เหล่าทัพต่อไป โดยเมื่อประชุมสภากลาโหมเสร็จ ในเวลา 17.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์จึงเดินทางออกจากกระทรวงกลาโหม ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นหนึ่งในแคนดิเดตที่จะมาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมลงมาต้อนรับ และเดินลงมาส่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับด้วยตนเอง โดย พล.อ.นิพัทธ์มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ปลัดกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เดินทางไปหารือกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อพูดคุยถึงปัญหาการพิจารณาบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมคนใหม่ เนื่องจากรัฐบาลสนับสนุน พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก (ตท.14) รองปลัดกระทรวงกลาโหม ที่สามารถตอบสนองนโยบายของรัฐบาลได้ ขณะที่ ฝ่ายการเมืองในพรรคเพื่อไทยผลักดัน พล.อ.จิระเดช โมกขะสมิต (ตท.13) ผู้ช่วย ผบ.ทบ. โดย พล.อ.ประยุทธ์พร้อมเสนอชื่อให้พิจารณาด้วย เนื่องจากจะทำให้โควต้า 5 เสือกองทัพบกว่างลงอีกหนึ่งตำแหน่ง เพื่อที่จะได้ขยับผู้ที่เหมาะสมในกองทัพบกขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน โดย พล.อ.ทนงศักดิ์เห็นว่า ทั้ง พล.อ.นิพัทธ์ และพล.อ.จิระเดช มีคุณสมบัติที่เหมาะสมที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่ง โดย พล.อ.จิระเดช (ตท.13) มีอายุราชการ 1 ปี (เกษียณ 57) ขณะที่ พล.อ.นิพัทธ์ (ตท.14) เกษียณในปี 59 หากให้ พล.อ.จิระเดช ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง 1 ปี จากนั้นให้ พล.อ.นิพัทธ์ขึ้นมาเป็นต่อ ก็ถือเป็นการให้โอกาสและหมุนเวียนตำแหน่ง ขณะที่ พล.อ.นิพัทธ์ มีความพร้อมในการสนองนโยบายของ รมว.กลาโหม และน่าจะสร้างบทบาทฝ่ายอำนวยการของกระทรวงกลาโหมเพื่อเข้าไปมีส่วนร่วมในอาเซียนได้อย่างดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องการบุคคลที่มีคุณสมบัติในการช่วยงานในตำแหน่ง รมว.กลาโหม และรับนโยบายสำคัญๆ ไปปฏิบัติได้อย่างรวดเร็ว แม้จะมีแรงผลักดัน พล.อ.จิระเดช จากสายการเมืองในพรรค และตระกูลชินวัตร แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องการคนทำงานมากกว่าจึงตัดสินใจเลือก พล.อ.นิพัทธ์ ขึ้นมาเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม โดยในการประชุมร่วมกับผบ.เหล่าทัพในวันที่ 30 ส.ค. ทาง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ชี้แจงเหตุผลต่อ ผบ.เหล่าทัพถึงสาเหตุที่เลือก พล.อ.นิพัทธ์ ขึ้นมาเป็น ปลัดกระทรวงกลาโหม เพราะเห็นว่า พล.อ.นิพัทธ์มีความสามารถทางการทหาร และมีบทบาทสำคัญเกี่ยวกับงานของกองทัพหลายด้าน อีกทั้งต้องการให้ พล.อ.นิพัทธ์มาช่วยเหลืองานตนเองภายในกระทรวงกลาโหมด้วย พร้อมระบุว่า ได้มีการพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในเรื่องดังกล่าวแล้วว่า ต้องการให้พล.อ.นิพัทธ์ มาเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อช่วยงานตนเอง ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่ได้ขัดความต้องการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์แต่อย่างใด ทั้งนี้ในที่ประชุมผบ.เหล่าก็เห็นด้วยกับนายกฯ และไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด ทำให้ พล.อ.จิระเดชที่ไม่ได้ไปดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม จะขึ้นไปดำรงตำแหน่งประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบกในอัตราจอมพล ส่วนบัญชีรายชื่อของเหล่าทัพในส่วนอื่นนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนบัญชีรายชื่อของแต่ละเหล่าทัพที่ส่งมาแต่อย่างใด พร้อมกับให้ยึดถือตามบัญชีรายชื่อที่แต่ละเหล่าทัพส่งมา สำหรับขั้นตอนต่อไป ทางเจ้ากรมเสมียนตราจะมีการตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีรายชื่อปรับย้ายนายทหาร เมื่อตรวจสอบความถูกต้องเสร็จจะนำรายชื่อส่งมอบให้กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป คาดว่าจะส่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ลงนาม เพื่อนำขึ้นทุลเกล้าฯ ต่อไปภายในสัปดาห์หน้า หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางกลับจากการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนระหว่างวันที่ 2-3 ก.ย.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารในตำแหน่งสำคัญอื่นๆเป็นไปตามที่เหล่าทัพเสนอมาทั้งหมด โดยในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวกลาโหม พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ (ตท.12) หัวหน้าสำนักงานผู้บัญชาการทหารบก เป็น รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.สนธิศักดิ์ วิทยาเอนกนันท์ (ตท.14) ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นรองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ร.อ.พลวัฒน์ สิโรดม (ตท.13 ) ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ (ผช.ผบ.ทร.) เป็น รองปลัดกระทรวงกลาโหม (เกษียณ 57) พล.อ.อ.ชนัท รัตนอุบล (ตท.14) ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผช.ผบ.ทอ.) เป็นรองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ม.ล.ประสบชัย เกษมสันต์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานคณะที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม (อัตราจอมพล)

ส่วนกองทัพบก พล.อ.จิระเดช โมกขะสมิต ผู้ช่วยผบ.ทบ.จะขึ้นไปดำรงตำแหน่งประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก ในส่วนของ 5 เสือ ทบ. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร (ตท.14 ) เสนาธิการทหารบก เป็น รอง ผบ.ทบ. เพื่อเตรียมขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ.หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ เกษียณในปี 57 พล.ท.ไพบูลย์ คุ้มฉายา (ตท.15) แม่ทัพภาคที่ 1 ขยับขึ้นเป็น ผช.ผบ.ทบ. พล.ท.ฉัตรชัย สาริกัลยะ (ตท.12) ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก เป็น ผช.ผบ.ทบ. และพล.ท.อักษรา เกิดผล (ตท.14) รองเสธ.ทบ.ขึ้นเป็น เสธ.ทบ.

ส่วนของกองทัพเรือ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย (ตท.13) รอง ผบ.ทร.ขึ้นเป็น ผบ.ทร. พล.ร.อ.ชัยวัฒน์ เอี่ยมสมุทร (ตท.12) ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพเรือ จะขึ้นเป็น รอง ผบ.ทร. พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ (ตท.13) ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพเรือ ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ทร. พล.ร.ท.ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์ (ตท.15) ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพเรือ เป็นเสนาธิการทหารเรือ พล.ร.ท.พิจารณ์ ธีรเนตร (ตท.14) รอง ผบ.กองเรือยุทธการ ขึ้นเป็น ผบ.กองเรือยุทธการ


กำลังโหลดความคิดเห็น