โฆษก สตช.เผยนายกฯ ประชุม ก.ต.ช.ขอหน่วยคุมความสงบ เน้นเจรจาแก้ปัญหา ชมแก้ม็อบยางถูกต้อง ถอนกำลังหลังปะทะ โยน กอ.รมน.คุย ก.เกษตรฯ หากชุมนุมซ้ำ รับ “ปู” ห่วงเด็กช่างร่วมโค่นระบอบแม้ว อ้างสถานศึกษาไม่เหมาะ สั่ง ศธ.ดูแล ให้ ศอ.บต.ดูการข่าวผู้กระทบไฟใต้ หนุนงบฯ เพื่อความสะดวก จนท. โอนงานทะเบียนต่างด้าว ให้กรมการ ปค.หนุนนายเวร ผบ.ตร.เท่า สบ 6 พร้อมตั้ง 3 ผู้ทรงคุณวุฒิใหม่
วันนี้ (26 ส.ค.) ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ภายหลังการประชุม พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แถลงข่าวว่า นายกฯ ขอให้ดำเนินการ 3 เรื่อง คือ 1. การรักษาความสงบเรียบร้อย โดยให้ สตช.กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)พิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบ อดทน ละมุนละม่อม เนื่องจากขณะนี้มีความแตกต่างในเรื่องของความคิดเห็น ความขัดแย้งทางการด้านการเมือง ปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งก่อให้เกิดการชุมนุมและการกระทบกระทั่งระหว่างผู้ที่มีความเห็นต่างกัน ขอให้ สตช.ดำเนินการภายใต้กรอบของกฎหมาย เน้นการแก้ไขปัญหาด้วยการเจรจา
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า เรื่องของการชุมนุมเกษตรกรชาวสวนยาง นายกฯ ระบุว่า ทาง สตช.ดำเนินการแก้ไขปัญหาถูกต้องแล้วที่ทาง สตช.ถอนกำลังเมื่อเกิดการกระทบกระทั่งกัน เพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากัน และเน้นการเจรจา อีกทั้งการปฏิบัติงานช่วงนี้จะเกี่ยวข้องในส่วนของภูมิภาคจำนวนมาก กระทรวงมหาดไทยจึงเสนอว่าต่อไปจะต้องทำการฝึก การควบคุมฝูงชนร่วมกันระหว่างอาสาสมัครของกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้เกิดความใกล้ชิดในการปฏิบัติงานได้ง่ายขึ้น ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศจะเคลื่อนไหวในวันที่ 3 ก.ย.ที่ประชุม ก.ต.ช.ไม่ได้มีการหารือ ซึ่งเป็นเรื่องที่ฝ่ายปกครอง กองอำนวยการรักษาความมั่งคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พูดคุยกัน ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม ก.ต.ช. นายกฯ ได้ประชุมนอกรอบร่วมกับ รมว.มหาดไทย รมว.ยุติธรรม ผบ.ตร. และเลขาฯ สมช.ต่อเนื่อง
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า 2. การชุมนุมของกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ที่ปักหลักชุมนุมที่สวนลุมพินี ที่มีกลุ่มนักศึกษาอาชีวศึกษานับร้อยคนจาก 20 สถาบันการศึกษามาร่วมชุมนุมนั้น นายกฯ สั่งให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นทาง ทั้งในส่วนของ สตช. กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และสมช.ในการวางมาตรการต่างๆให้เกิดความเหมาะสม เพื่อให้การชุมนุมต่างๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ให้เกิดเป็นประเด็นที่จะนำสู่การขยายผลต่อไป โดยที่ประชุมแสดงความเป็นห่วงนำมาขยายผลที่จะทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันได้ ซึ่งข้อมูลบางส่วนที่ได้ นักเรียนอาชีวะบางคนก็จบแล้วและมาร่วมชุมนุม แต่อย่างไรก็ตาม การชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธสามารถทำได้ไม่มีปัญหา แต่การนำเอาสถาบันการศึกษาแต่ละแห่งเข้ามาจะเกิดความไม่เหมาะสม และจะต้องมีความละเอียดรอบคอบในการดูแล โดยทางกระทรวงศึกษาธิการ จะต้องหามาตรการในการดูแล
โฆษก สตช.กล่าวว่า 3. ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ความไม่สงบชายแดนภาคใต้ขอให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ติดตามสถานการณ์และวางมาตรการด้านการข่าว และดูแลผู้ที่สูญเสียชีวิตและทายาทอย่างเต็มที่ ดูแลสวัสดิการและเครื่องมือให้พร้อมสำหรับข้าราชการตำรวจและข้าราชการอื่นๆ ที่ไปปฏิบัติในพื้นที่ และเร่งรัดการดำเนินการจัดซื้อกล้องซีซีทีวี และที่ทางรัฐบาลจะสนับสนุนงบประมาณต่อไป ให้เร่งดำเนินการ ส่วนในเรื่องของการติดตั้งไฟฟ้า แสงสว่าง ทางกระทรวงมหาดไทยจะเร่งประสานงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคให้ช่วยเหลืออำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน ขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มีการเพิ่มเติมกำลังพล ทั้งชุดครูฝึกหน่วยรบพิเศษ ชุดครูกำลังพล ชุดพนักงสอบสวน ซึ่งกำลังพลกว่า 3,900 นายได้ลงพื้นที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และการติดตั้งกล้องซีซีทีวีอีก 14 จุดใน จ.ยะลา คาดว่าจะแล้วเสร็จเร็วๆ นี้ และขอให้ไปดูแนวชายแดนเป็นพิเศษ เกี่ยวกับเรื่องของการขนส่งสินค้าเถื่อน เช่น ข้าว น้ำมัน รวมถึงแรงงานเถื่อน
โฆษก สตช.กล่าวว่า จากการประชุม กตช.ครั้งที่ 7/2554 เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 54 เป็นกรณีการโอนถ่ายงานทะเบียนต่างด้าว ของสำนักงาตรวจคนเข้าเมืองไปให้กับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบ ซึ่งการดำเนินการมีการต่อเนื่องมาแล้ว 2 ปี และที่ประชุม ก.ต.ช.ได้มีมติเห็นชอบให้โอนงานทะเบียนต่างด้าวที่อยู่ในความรับผิดชอบสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ไปให้กรมการปกครอง และเพิ่มเติมให้โอนงานทะเบียนต่างด้าวทั้งหมดที่อยู่ทุกสถานีตำรวจ ไปให้กรมการปกครองดูแล คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จต้นปี 57 โดยขณะนี้ทางกรมการปกครองและ สตช.ที่มีคณะกรรมการอยู่แล้วจะทำการกำหนดรายละเอียดในการถ่ายโอน และที่ประชุม กตช.ยังเห็นชอบการกำหนดตำแหน่งนายเวรผบ.ตร.ซึ่งเดิมเป็นตำแหน่งเทียบเท่า พ.ต.อ.พิเศษ ให้เป็นตำแหน่งเทียบเท่าผู้บังคับการ หรือ สบ 6 โดยเป็นการเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ (กตร.)เสนอ ซึ่งเป็นการปรับในรอบ 16 ปี
โฆษก สตช.กล่าวว่า นอกจากนี้ได้เห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการ ก.ต.ช.ผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน โดยแต่งตั้งนายอรรถพล ใหญ่สว่าง รองอัยการสูงสุด เป็น ก.ต.ช.ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายแทนนาย แทนนายชัยเกษม นิติศิริ รมว.ยุติธรรม แต่งตั้งนายสมศักดิ์ โชติรัตนศิริ รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เป็น ก.ต.ช.ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการงบประมาณ แทนนางเบญจา หลุยเจริญ รมช.คลัง และแต่งตั้ง พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ เป็น ก.ต.ช.ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการวางแผนและจัดการแทน พล.ต.ท.เหมราช ธารีไทย อดีตรองผู้บังคับการตำรวจนครบาล ที่มีอายุครบ 70 ปี จากนั้นจะนำความกราบบังคมทูลโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมฯ แต่งตั้งต่อไป ขณะที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.รายงานผลการปฏิบัติราชการในรอบ 10 เดือน ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 55 - 31 ก.ค. 56 ว่าในเรื่องของการควบคุมและลดความรุนแรงของปัญหาอาชญกรรม มีสถิติลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่ผ่านมา การแก้ไขปัญหายาเสพติดได้มีการจับกุมเพิ่ม ปัญหาอาชญกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวยังสามารถควบคุมได้ตามเกณฑ์