“องอาจ” เผย ปชป.พร้อมรับฟังจุดยืน เคารพการตัดสินใจของแกนนำพันธมิตรฯ อ้างที่ไม่ลาออกจาก ส.ส.ตามข้อเสนอเพราะยังมีภารกิจที่ต้องทำในสภา เชื่อจะไม่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างกัน จวก “ค้อนปลอม” ต้นเหตุทำสภาฯป่วน เพราะถูกชี้นำจากบิ๊กในรัฐบาล ไล่ให้ไปปรับปรุงตัวเอง พร้อมจี้ “ปู” ถ่ายทอดสดประชุมสภาป่าหี่ เหน็บแค่ละครเบนความสนใจแก้ รธน.
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ประกาศยุติการเคลื่อนไหวทางการเมืองว่า พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมรับฟังจุดยืนของกลุ่มต่างๆ และเคารพการตัดสินใจ ของกลุ่มพันธมิตรฯ ความคิดเห็นที่เป็นส่วนดีพร้อมนำไปปฏิบัติ
ทั้งนี้ เชื่อว่า เรื่องดังกล่าว จะไม่มีผลกระทบ เพราะพรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนที่ชัดเจนในการทำงานในสภาฯ ที่ยังมีภารกิจจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ก็พร้อมดำเนินการนอกสภาฯ ที่เป็นไปตามกรอบกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ แต่ที่ผ่านมา เรากลับได้รับความรุนแรง จากกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาล จึงอยากฝากรัฐบาลว่า หากเกิดเหตุความรุนแรงอะไรจากการเคลื่อนไหวกลุ่มดังกล่าว รัฐบาลต้องรับผิดชอบ
“พรรคมั่นใจว่า การที่พรรคไม่ทำตามข้อเสนอกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ให้ ส.ส.ลาออก เพื่อมาต่อสู้นอกสภาฯ จะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างกัน มั่นใจว่า ความสัมพันธ์จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ กลุ่มพันธมิตรฯ และบุคคลในพรรค เรารับฟังความเห็นมิตรสหาย แต่ที่เรายังไม่ตัดสินใจไปไกล ถึงขั้นลาออกจาก ส.ส. เพราะเรายังมีภารกิจต้องทำในสภาฯ”
นายองอาจ แถลงข้อเรียกร้องให้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลาง เพราะในเหตุการณ์ความปั่นป่วนในการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มา ส.ว. ที่ผ่านมา เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของนายสมศักดิ์ ที่ได้รับการชี้นำจากผู้ใหญ่ในพรรครัฐบาลให้รวบรัด ตัดตอน การประชุม เพราะก่อนหน้านั้นเพียง 1 วัน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุชัดเจนว่า ควรกำหนดเวลาการอภิปรายคนละ 5-10 นาที อีกทั้งนายสมศักดิ์ ยืนยันว่าจะไม่ให้ผู้แปรญัตติ 57 คน อภิปราย และนายสมศักดิ์ ยังพยายามรวบรัดให้ลงมติในมาตรา 1 จึงถือเป็นสาเหตุที่นำไปสู่ความปั่นป่วน โดยที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่ต้นตอของปัญหา แต่ต้นตอของเหตุการณ์คือการทำหน้าที่ของประธานรัฐสภา
“ขอเรียกร้องให้ประธานรัฐสภาเป็นตัวของตัวเอง อย่ารับการชี้นำจากใครมาทำสิ่งไม่ถูกต้อง และต้องดำเนินการประชุมให้เสียงข้างน้อยได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ ขอให้ควบคุมสติอารมณ์ ทำหน้าที่เป็นกลางด้วย ทั้งนี้แม้นายสมศักดิ์เคยได้รับฉายา “ขุนค้อน” แต่ถูกเปลี่ยนเป็น “ค้อนปลอมตราดูไบ” หากทำหน้าที่เที่ยงตรง ไม่รับอาณัติจากใคร ในการควบคุมประชุมสภา โดยเฉพาะการประชุมร่วมรัฐสภา ที่จะมีขึ้นอีกในสัปดาห์หน้า ก็จะมีฉายากลับไปตามเดิมได้”
นายองอาจ ยังกล่าวถึงการพูดคุยในเวทีหาทางออกให้ประเทศ ว่า พรรคประชาธิปัตย์มีความชัดเจนแล้วว่าจะไม่เข้าร่วมพูดคุยดังกล่าว แม้จะเห็นด้วยว่าประเทศไทยต้องมีทางออกและต้องปฏิรูปหลายด้าน แต่ความพยายามตั้งเวทีของรัฐบาลไม่มีความจริงใจ เชื่อว่าจะหาทางออกให้ประเทศไม่ได้ เพราะเป็นการสร้างละครฉากใหม่ เบี่ยงเบนความสนใจการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการออกฎหมายนิรโทษกรรม
ทั้งนี้พรรคฯขอเรียกร้องให้รัฐบาลถ่ายทอดสดในเวทีดังกล่าวที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 ส.ค. เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบถึงแนวคิดของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และผู้เข้าร่วมแสดงความเห็น เพื่อให้เกิดความโปร่งใส อย่างไรก็ตามที่ผ่านมานายกฯ เรียกร้องให้ใช้เวทีรัฐสภาในการพูดคุย แต่นายกฯ กลับไม่เข้าร่วมประชุมสภาฯ ทำเหมือนสภาฯ เป็นเครื่องมือในการเข้าสู่อำนาจ เมื่อได้อำนาจก็ไม่สนใจแก้ไขปัญหาประเทศ
