นายกฯ เผย 2 เทพรายงานเวทีปาหี่ขาดแค่ พธม.-ปชป. ยังคงหวังกลับใจ ลั่นลุยต่อ เชื่อคุยรอบนี้พัฒนาทางที่ดีเป็นประโยชน์ มั่นใจไม่เสียเวลา ย้ำเป็นแค่จุดเริ่มต้น ไม่มีกรอบการคุย เน้นรับฟัง อ้างเป็น ผอ.ไม่ได้เป็น ปธ. แถบอกอยากเข้าร่วมทุกครั้ง ปัด ศก.ไม่ถดถอย อ้างไตรมาส 2 วันหยุดเยอะส่งผลกระทบ แจงรัฐฯ มีแผนเร่งการใช้จ่าย และการลงทุนภาคเอกชนให้มากขึ้น ยังไม่ทราบโผทหาร
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (23 ส.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการตอบรับคำเชิญเข้าร่วมเวทีปฏิรูปการเมืองในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ว่าจากที่ได้รับรายงานจากนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อยู่ที่ประมาณ 50 ท่านแล้ว ซึ่งผู้ที่ตอบรับมามีหลากหลายกลุ่ม แต่ก็ยังขาดกลุ่มที่สำคัญอย่างกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตนหวังว่าเวทีนี้วันหนึ่งจะได้มีโอกาสให้สองกลุ่มนี้เข้ามาร่วมพูดคุยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกผิดหวังหรือไม่ที่สองกลุ่มนี้ปฏิเสธรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า อย่างไรก็ต้องเดินหน้าต่อไปและหวังว่าสักวันหนึ่งจะมีโอกาสที่กลุ่ม พธม.และพรรคประชาธิปัตย์จะเข้ามา ซึ่งเราไม่ใช้คำว่าผิดหวัง แต่เราใช้คำว่าอยากเห็นการพูดคุยกัน อย่างเห็นการที่เราทำเพื่อประเทศ วันนี้ไม่ได้มาเพื่อรัฐบาลแต่มาเพื่อประเทศที่เราจะได้มีเวทีในการพูดคุยกันบนหลักความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ไว้วางใจ ที่สำคัญทางสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนจะเห็นว่าทิศทางต่างๆ นั้นเราก็ยังไม่เห็นหนทางของการเดินไปข้างหน้าร่วมกัน ถ้าเรามาคุยกันและตั้งโจทย์จากทิศทางที่เราอยากจะเห็น จากรูปแบบประชาธิปไตยที่ควรจะเป็นก็เชื่อว่าถ้าเรามาพูดคุยกันมาขึ้นบนความเข้าใจก็น่าจะพัฒนาไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น
เมื่อถามว่า มีความกังวลหรือไม่จะเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำเหมือนครั้งที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า คำว่าตำน้ำพริกละลายแม่น้ำแปลว่าต้องใช้งบประมาณ แต่สิ่งที่เราทำอย่างที่เรียนไว้ตั้งแต่วันแรกว่าแม้มีความหวังเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ ก็มีความจำเป็นที่จะต้องเริ่มดีกว่าที่จะปล่อยเวลาให้สูญเสียไป เราปล่อยเวลาเสียไปแล้ว 2 ปี เราก็เชื่อว่าเราก็จะทำอย่างดีที่สุด แต่จะเสียเวลาหรือไม่ ตนเชื่อว่าไม่เสียเวลา เพราะทุกความคิดเห็นมีค่า และทุกข้อคิดต่างๆ อะไรที่เราสามารถนำไปใช้ได้ อะไรที่สร้างความเข้าใจบนพี่น้องประชาชนตนถือว่าเป็นประโยชน์ทั้งสิ้น
เมื่อถามว่าจะถือว่าเป็นเวทีที่สมบูรณ์หรือไม่ เพราะมีส่วนสำคัญยังไม่เข้าร่วม นายกฯ กล่าวว่า สิ่งที่เราคาดหวังที่ดีที่สุดคือทุกกลุ่มร่วมกัน แต่เราก็เข้าใจ เพราะเรามาจากความคิดเห็นที่แตกต่างกัน เวทีนี้อาจจะต้องใช้เวลาในการพูดคุยกันหลายๆ ครั้ง ถ้าเห็นหลักการของเวทีนี้แล้วคิดว่าเป็นประโยชน์ ตนก็เชื่อว่าจะมีจำนวนผู้ที่มีความจำนงจะเข้าร่วมเวทีนี้ตลอดไป ก็ไม่ได้หมายความว่าเวทีที่จะเริ่มพูดคุยกันในวันที่ 25 ส.ค.นี้จะเป็นเวทีที่จะจบอยู่แค่ผู้ที่เข้าร่วมประชุมเท่านี้ แต่ตรงนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ซึ่งจุดนี้ก็จะมีการพูดคุยกันไปเรื่อยๆ จนกว่าวันหนึ่งที่มีความเหมาะสมและมีจำนวนมากขึ้น ก็จะทำให้เราได้โจทย์ตามที่ประเทศอยากเห็น
เมื่อถามว่า มีการวางกรอบในการประชุมครั้งแรกอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ครั้งแรกไม่ได้มีการวางกรอบ ต้องเรียนว่าเราไม่สามารถวางกรอบได้ เราคิดว่าการประชุมครั้งแรกจะเป็นการรับฟังความคิดเห็นมากกว่าว่า ถ้าเราอยากเห็นประเทศไทยสงบ ประเทศไทยพัฒนาไปข้างหน้า อยากเห็นการปฏิรูปการเมืองอย่างไร และประเทศไทยเรายึดหลักระบอบประชาธิปไตยที่พระมหากษัตริย์เป็นประมุข คำว่าประชาธิปไตยคือเพื่อให้เกิดความเสมอภาคและเท่าเทียมกันให้ประเทศเดินไปข้างหน้า อยากเห็นหน้าตาอย่างไร การปฏิบัติร่วมกันอย่างไร
เมื่อถามว่า นายกฯ จะเป็นผู้ที่นั่งหัวโต๊ะเองทุกครั้งหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ไม่ค่ะ ตนไม่ได้เป็นประธาน แต่เป็นผู้อำนวยความสะดวกในการที่จะพูดคุยกัน ซึ่งก็ต้องดูบรรยากาศ และตนก็อยากให้เวลากับที่ประชุมในการพูดคุยกันอย่างเต็มที่ ซึ่งในการประชุมวันที่ 25 ส.ค.ตนจะนั่งเป็นประธานประชุมเอง
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจไทยและมาตรการของรัฐบาลในการดูแลเพื่อไม่ให้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยว่า จากที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการะทรวงการคลังได้เรียนว่า ยังไม่ใช่ภาวะเศรษฐกิจถอดถอย แต่ว่าจำนวนการเติบโตจะขึ้นกับลงแล้วแต่ไตรมาส อย่างไตรมาส 2 ที่มีเรื่องของวันหยุดจะส่งผลกระทบต่าง ๆ มากมาย แต่อย่างก็ตามรัฐบาลก็ไม่นิ่งนอนใจ ซึ่งช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมามีแผนการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในช่วงของครึ่งปีหลังแล้ว เช่นเรื่องการเร่งการใช้จ่ายของภาครัฐ ขณะเดียวกันจะพูดคุยกับภาคเอกชนในการที่จะทำอย่างไรในเรื่องของการลงทุน ซึ่งวันนี้มีผู้ที่สนใจที่จะร่วมลงทุนมากขึ้น แต่จะทำอย่างไรให้กระบวนการภาครัฐเร็วขึ้น และการขอความร่วมมือเพื่อสร้างความเชื่อมั่นของประชาชน เพราะประชาชนเองต้องการความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยหรือการลงทุนต่างๆ ในอนาคต ซึ่งรัฐบาลต้องทำหน้าที่นี้ ทั้งนี้เศรษฐกิจที่ชะลอตัวไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยแต่ประเทศในภูมิภาคนี้ก็เป็นเหมือนกัน
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องปัญหาการส่งออกได้ให้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงายที่เกี่ยวข้องไปพุดคุยกับภาคอุตสาหกรรมเอกชน เพื่อที่จะดูว่าการส่งออกระยะยาวจะมีตลาดใหม่เพิ่มขึ้นอย่างไร เมื่อถามว่าส่วนสำคัญที่เศรษฐกิจทรุดตัวตอนนี้เพราะการเมืองไม่แน่นอน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า อย่างที่เรียนว่า เราต้องช่วยกัน เพราะเราต้องทำให้บรรยากาศไปได้ การเติบโตทางเศรษฐกิจก็คือว่ามั่นคงทางการเมืองที่ต้องขอความร่วมมือ
นายกรัฐมนตรียังกล่าวปฏิเสธว่า ยังไม่ได้รับบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปี 2557 ซึ่งต้องเป็นไปตามระเบียบขั้นตอน อย่างไรจะแจ้งให้ทราบ
