“พล.อ.สนธิ” ยันไม่ได้นั่งปะธาน กมธ.นิรโทษกรรม อ้างโดดร่วมปาหี่ปฏิรูปฯ เพราะเป็นแนวคิดของคนทั้งประเทศ ที่ต้องการให้มาร่วมกันคิดในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง ยันไม่นำไปสู่การชำเรา รธน.แน่ เหตุบุคคลที่เข้าร่วมในสภาปฏิรูปฯ ล้วนเป็นนักประชาธิปไตย ใครจูงจมูกไม่ได้
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ อดีตผู้นำรัฐประหารรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปฏิเสธข่าวที่ว่ามีชื่อเป็นประธานกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ว่าคงเป็นไม่ได้ เพราะมันผิดหลักการ เพราะเรื่องนี้เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทยเขาคงไม่เอาคนอื่น และครั้งที่แล้วที่ตนเป็นประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ เพราะเป็นเรื่องที่ตนเป็นผู้เสนอ ครั้งนี้รัฐบาลเสนอจึงเป็นไปไม่ได้ และที่รัฐบาลเสนอชื่อตนเป็นกรรมาธิการในส่วนของรัฐบาลนั้นก็สอดคล้องกับที่ตนเคยเสนอ พ.ร.บ.ที่มีความใกล้เคียงกันจึงเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากเรามีความคิดที่ตรงกัน
พล.อ.สนธิยังกล่าวถึงสภาปฏิรูปการเมืองเพื่อหาทางออกประเทศ ที่คู่ขัดแย้งอย่างพรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ยังไม่ตอบรับข้อเสนอกลับมาว่า เรื่องนี้เป็นกระบวนความคิดของคนทั้งประเทศ ไม่ได้อยู่ที่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่ง เมื่อปัญหาของประเทศเกิดความรุนแรงของสังคม จึงมีความจำเป็นที่คนทั้งประเทศต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยกันคิด และสภาปฏิรูป ประเทศจะเป็นส่วนหนึ่งในการมองทางออกของประเทศ
ส่วนสุดท้ายแล้วสภาปฏิรูปจะเป็นมวยล้มต้มคนดูหรือไม่นั้น หัวหน้าพรรคมาตุภูมิกล่าวว่า ไม่อยากให้เรียกอย่างนั้น การเมืองต้องพูดเพราะประชาชนเขาฟังอยู่ จริงๆ แล้วความคิดเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว เมื่อถามต่อว่า ฝ่ายต้านตั้งข้อสังเกตว่าสุดท้ายแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ต้องการที่จะเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ พล.อ.สนธิกล่าวว่า มันเป็นไปไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของภาคประชาชนที่เข้ามามีส่วนร่วม และเมื่อดูจากรายชื่อหลายๆ ท่านที่เข้าร่วมล้วนเป็นนักประชาธิปไตยทั้งสิ้น ดังนั้นจะเปลี่ยนแนวความคิดของคนเหล่านี้ไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า สวนตัวคิดว่าสภาปฏิรูปจะสำเร็จได้หรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นแนวทางที่ดีที่สุด ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของภาคประชาชนที่มีส่วนร่วม ส่วนที่บางฝ่ายอาจจะไม่เข้าร่วมจะกลายเป็นการตั้งสภาปฏิรูปขึ้นมาฝ่ายเดียวหรือไม่นั้น พล.อ.สนธิกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของภาคประชาชน และรัฐบาลก็พูดชัดว่าเมื่อตั้งเสร็จแล้ว ก็เป็นเรื่องที่สภาปฏิรูป จะเป็นผู้ดำเนินการต่อไป และตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของภาคเอกชน นักธุรกิจ และ นักวิชาการ เข้ามามีส่วนร่วมก็ต้องยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ส่วนหนึ่งอยู่
