นายกฯ ไม่ตอบปฏิรูปปาหี่ แนะรอดู ปัดสร้างภาพ ขอเวลาเชิญผู้ร่วมวงสักพัก ก่อนเปิดลิเกโรงใหญ่ ฝัน “พี่มาร์ค” ร่วมแจม หวังล้างภาพรัฐฯ ทำเพื่อตัวเอง ยกเป็นเวทีจุดเริ่มพูดคุย พร้อมนำข้อสรุปดำเนินการตามขั้นตอน ยันไม่ใช่ปูทางแก้ รธน. ชมแนวคิดสภาอาวุโส “อุกฤษ” พร้อมถกสานต่อ หวังทุกกลุ่มกลับลำร่วม โยน กต.แจงผู้นำโลกที่ร่วมปาหี่ ยันเล่นไลน์เป็นสิทธิฯ
วันนี้ (13 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงที่ฝ่ายค้านออกมาระบุว่าเวทีปฏิรูปการเมืองทางออกประเทศไทยเป็นการสร้างภาพไม่มีความจริงใจว่า คงไม่ขอตอบ แต่อยากให้ดู เพราะรัฐบาลได้พยายามอย่างเต็มที่ ไม่ได้สร้างภาพแน่นอน เพราะการสร้างภาพก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร ที่สำคัญเราอยากเห็นความจริงใจในการช่วยกันทำเพื่อประเทศ และสิ่งที่รัฐบาลทำ เราพยายามอย่างเต็มที่ เปิดรับให้กับคนทุกกลุ่มทุกฝ่ายมาพูดคุยกัน คงไม่มีเวทีไหนอีกแล้ว เราอยากเห็นสักเวทีหนึ่ง ซึ่งเวทีปฏิรูปนี้เราอยากเห็นเป็นเวทีของการพูดคุย ส่วนจะพัฒนาไปทางไหนก็สุดแล้วแต่ ที่จะพูดคุยกัน และที่สำคัญคือการหาทางออกร่วมกัน นี่คือวัตถุประสงค์ใหญ่
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้คนที่ตอบรัฐบาลถือว่ามีความครอบคลุมพอที่จะสามารถเปิดเวทีหารือกันได้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ขอเวลาให้คณะทำงานได้ทำงานอีกสักพัก เราอยากให้ครอบคลุมมากกว่านี้ ถึงแม้ว่าขณะนี้จะได้รับการตอบรับมาหลายท่านแล้วก็ตาม แต่เราอยากจะรออีกสักพัก เพื่อว่าสังคมจะได้มีเวลาพิจารณาที่จะเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้ามา
เมื่อถามว่ามีบุคคลใดที่ตั้งใจจะเชิญมาเป็นพิเศษหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า อยากเชิญผู้นำฝ่ายค้าน เพราะความคิดเราคิดว่าอย่างน้อยเราจะได้มีเวทีสักเวทีหนึ่งที่จะมาพูดพร้อมกัน เพราะการพูดคุยกันโดยที่ไม่ครบทุกฝ่ายนั้นจะทำให้ไม่ได้ภาพรวมเท่าที่ควร อย่างที่เรียนว่าเวทีนี้ไม่ได้ทำเพื่อรัฐบาล แต่อยากขอให้ทุกท่านให้ความกรุณามาร่วมพูดคุยกันเพื่อส่วนรวม มาเพื่อที่จะได้มีเวทีพูดคุยกัน และตนคงเป็นเพียงผู้ประสานงานให้กับเวทีนี้เท่านั้น เพื่อให้เวทีนี้มีอิสระในการพูดคุยกันอย่างเต็มที่
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าเวทีปฏิรูปการเมืองจะมีความชอบธรรมลดน้อยลงไปหรือไม่ เมื่อฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล หรือผู้เห็นต่างไม่มาเข้าร่วม น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า อย่างที่เรียนว่าเวทีนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการพูดคุย เราไม่ได้ถือว่าเวทีนี้จะปิดรับใคร ถ้าเราได้มาคุยกัน และมีความเข้าใจกัน ตลกผลึกมากขึ้น ก็หวังว่าจะมีผู้ที่เข้ามาร่วมด้วย และสุดท้ายแล้วเวทีนี้ อาจจะพัฒนาไปจนถึงเวทีปฏิรูปการเมืองอย่างเป็นทางการก็ได้ หรือจะเชิญผู้อื่นเข้ามาร่วมก็ได้ มีรูปแบบใดก็ได้ จึงไม่ได้มีการกำหนด แต่อยากกำหนดว่าให้เป็นเวทีเริ่มต้นที่เราจะพูดคุยกันมากกว่า
เมื่อถามว่า มีแนวทางอย่างไร ที่จะทำให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าเวทีนี้จะนำข้อสรุปที่ตกผลึกจากการหารือนำมาใช้ได้จริง น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ต้องบอกว่าทุกเวทีมีหลายท่านที่พยายามที่จะทำ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดีและมีความคืบหน้าเป็นระยะ แต่สำหรับเวทีนี้ความคาดหวังคือเรามาพูดคุยกันก่อน จากนั้นเมื่อเห็นว่าจะดำเนินการอย่างไร เราก็จะส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ดังนั้นก็เหมือนกับการที่เวทีเราจะทำอะไรที่เป็นเรื่องใหญ่ เราก็จะต้องระดมสมอง ส่วนอะไรที่ตกผลึกและสามารถดำเนินการได้ ก็สามารถนำไปดำเนินการต่อได้ แต่จะดำเนินการอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบนั้น เช่น หากเป็นเรื่องของกฎหมายก็อยู่ในส่วนของกฎหมาย หรือบางสิ่งหากมีการพูดคุยกันต่อ หรือจะตั้งสภาปฏิรูปอย่างที่เสนอได้ ก็จะต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอน ทุกอย่างไม่มีอะไรที่ได้เตรียมไว้ล่วงหน้า และไม่มีอะไรที่เป็นรูปแบบที่ชัดเจน
เมื่อถามต่อว่า ยืนยันใช่หรือไม่ว่าจะไม่ใช้เวทีนี้เป็นการปูทางแก้รัฐธรรมนูญ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า “โห...ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ยืนยันว่าเวทีนี้เป็นเวทีที่จะมองในมิติที่กว้างกว่านั้น เช่น มิติว่าประเทศเราจะเดินไปอย่างไร ในแง่ของการเมือง การปฏิรูปการเมือง ให้เดินแบบไหนในเรื่องของภาพรวม และการที่เราจะอยู่ร่วมกันในอนาคตข้างหน้าอย่างไร นี่จะเป็นขอบข่ายที่กว้างขวาง อยากให้มองไปข้างหน้ามากกว่า”
เมื่อถามถึงข้อเสนอของนายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่ง ชาติ (คอ.นธ.) ที่เสนอให้มีการตั้งสภาที่ปรึกษาอาวุโส โดยให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มีความเห็นอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า จริงๆ แล้วถือว่าดี อย่างที่เรียนว่าตนไม่ใช่คนที่กำหนดทั้งหมด แต่อยากให้หลายท่านมาพูดคุยกัน เพราะถ้าตนเป็นคนกำหนด หลายท่านอาจจะบอกว่าไม่รับกับประเด็นที่รัฐบาลเสนอ เราจึงขอให้เป็นประเด็นที่ประเทศมองในภาพรวมจะดีกว่า ซึ่งแนวคิดของนายอุกฤษก็ถือว่าเป็นแนวคิดที่ดีและน่าจะนำมาพิจารณาในเวทีสภาปฏิรูปนี้ด้วย เพราะถ้ามีผู้ใหญ่มาร่วมในเวทีนี้ก็จะเป็นสิ่งที่ดี
เมื่อถามว่า ความตั้งใจของนายกฯที่อยากจะเชิญทุกสีเสื้อ ทั้งเหลืองและแดงมาร่วมในเวทีปฏิรูปนี้ เป็นอย่างไรบ้าง น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า คงต้องใช้ความพยายามต่อไป คงขอใช้คำเดิม เราขอร้องให้เห็นแกประเทศ มาร่วมกันเถอะ หลายท่านอาจจะไม่ได้มองในมุมอื่นๆ ขอให้มองเพื่อประเทศ สำหรับความคืบหน้าในการเชิญผู้นำระดับโลก เข้ามาแสดงความคิดเห็นนั้น บางท่านก็ได้ให้การตอบรับแล้ว โดยกระทรวงการต่างประเทศจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง เพราะบางท่านอาจจะติดภารกิจ ซึ่งกำหนดการก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้นำแต่ละท่าน ขอยืนยันว่าเวทีนี้เป็นเวทีที่มาเล่าประสบการณ์ของต่างประเทศเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวกับประเทศไทย เพราะประเทศไทยเองก็ว่าไปในส่วนของเรา แต่เราจะได้ฟังประสบการณ์ของคนอื่นที่เขามีส่วนในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง หรือแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดการปรองดอง ตรงนี้มากกว่าที่เราขะได้นำไปใช้
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังกล่าวถึงกรณีที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เตรียมตรวจสอบการสนทนาผ่านโปรแกรมแชตไลน์ เนื่องจากเป็นภัยต่อความมั่นคงว่า ตนเพิ่งได้รับทราบเรื่องนี้ แต่ยังไม่ทราบถึงรายละเอียดที่ชัดเจน แต่ขอเรียนว่าเจตนารมณ์เรายังยืนยันในเรื่องของสิทธิเสรีภาพ ก็คงจะทำได้ และเราเองคงไม่มองในเรื่องของความมั่นคงในด้านของแอปพลิเคชัน แต่คงจะดูในเรื่องของบุคคลมากกว่า