นายกฯ และรมว.กห. เปิดงานสร้างสรรค์พลังพัฒนาสตรีสู่ปีที่ 3กับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โวเสริมรายได้ให้กว่า 5 แสนคน ยันน้อมนำพระราชดำริพระราชินี ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ก่อนไปเปิดงานศิลปาชีพ ประทีปไทยโอท็อปก้าวไกลด้วยพระบารมี เฉลิมพระชนมพระราชินี
วันนี้ (10 ส.ค.) ที่เมืองทองธานี จ.นนทบุรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เดินทางมาเป็นประธานเปิดงาน"สร้างสรรค์พลัง พัฒนาสตรี สู่ปีที่ 3 กับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี" เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์นโยบายและทิศทางการดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ในปี 2557 ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม เมืองทองธานี
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอบคุณคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีที่ร่วมใจกับขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีมากว่า 1 ปี ซึ่งขณะนี้กองทุนฯได้เข้าไปพัฒนาบทบาทสตรีแล้วในทุกๆจังหวัด และมีการบูรณการกับหน่วยงานทุกภาคส่วนอย่างบูรณาการ โดยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีได้มีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นทั้ง 4 ภาคของประเทศไทยในการพัฒนาบาทบาทสตรี และการเข้าไปพัฒนาอาชีพและสร้างเสริมรายได้ให้แก่สตรีแล้วกว่า 5 แสนคน ในกว่า 4 หมื่นโครงการ รวมถึงเข้าพัฒนากลุ่มสตรีที่ด้อยโอกาสให้เข้าถึงสิทธิของสตรีตามหลักสากลอีกด้วย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีระบุว่า กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นทุกฝ่ายเพื่อนำมาพัฒนากองทุนฯให้มีทำงานอย่างมีประสิธิภาพ
ทั้งนี้ กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีได้น้อมนำพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ว่า ให้โดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ในการสร้างสรรค์พลังสตรีให้เกิดขึ้นในผืนแผ่นดินไทยอันจะเป็น พลังสำคัญในการขับเคลื่อนกองทุนฯให้ก้าวย่างสู่ปีที่ 3 อย่างมีประสิทธิภาพ
จากนั้น น.ส. ยิ่งลักษณ์ เป็นประธานเปิดงาน"ศิลปาชีพ ประทีปไทยโอทอป ก้าวไกลด้วยพระบารมี ครั้งที่ 2 เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ 81 พรรษา" เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย ที่ทรงส่งเสริมอาชีพ เพิ่มพูนรายได้ภายใต้โครงการส่งเสริมศิลปาชีพ ทำให้เกิดการเผยแพร่มรดกทางภูมิปัญญาไทยสู่นักท่องเที่ยว ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ประกอบกับรัฐบาลให้ความสำคัญกับการสืบสานพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ด้วยการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีนโยบายสนับสนุนการดำเนินงานโครงการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ สนับสนุนให้ชุมชนมีโอกาสเข้าถึงองค์ความรู้สมัยใหม่ และส่งเสริมให้ใช้ทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่นมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ พร้อมพัฒนาจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมท้องถิ่นและวิถีชีวิตของตนเอง
ด้านนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ภายในงานมีกิจกรรมหลากหลาย เช่น นิทรรศเทิดพระเกียรติและการถวายพระพรผ่านระบบดิจิตอล นิทรรศการส่งเสริมศิลปาชีพ"พระเมตตาแผ่ไพศาล สร้างงาน สร้างคน " การแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มอาชีพสมาชิกศูนย์ศิลปาชีพ ซุ้มจำหน่ายสินค้ากว่า 2000 ร้านที่เน้นแสดงเฉพาะสินค้าที่มีศักยภาพการเผยแพร่องค์ความรู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นของขวัญ ของฝากในเทศกาลต่างๆ และงานครั้งนี้จัดขึ้นที่อาคารชาเลนเจอร์ 2 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่10-18 ส.ค.นี้
