เลขาฯ ปคอป.แถลงสรุปทางออกประเทศ 108 เวที บอกแนวทางสอดคล้อง คอป.ชง ปคอป.ต่อ คณบดีรัฐศาสตร์ มสธ.อ้างความเหลื่อมล้ำแบ่งชนชั้นต้องเร่งแก้ พบนักการเมืองปมขัดแย้งเฉพาะหน้า ต้องเจรจาหาทางออก ใช้กฎหมายเป็นธรรม แก้ รธน. “สุขุม” แนะเพิ่มโทษพวกอิงสถาบัน ชี้โกงตัวถ่วงชาติ ชูคำ “ปู” ตั้งสภาปฏิรูปการเมือง
วันนี้ (5 ส.ค.) ที่อาคารอเนกนิทัศน์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เมื่อเวลา 10.30 น. นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักปลัดนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) พร้อมด้วยนายยุทธพร อิสรชัย คณบดีรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ประธานกรรมการประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ และนายสุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานที่ปรึกษาอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ร่วมแถลงสรุปภาพรวมการพูดจาหาทางออกประเทศไทย 108 เวที ที่จัดให้มีขึ้นทุกจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.-28 ก.ค.56 มีประชาชนเข้าร่วม 101,683 คน
โดยนายยุทธพรกล่าวว่า ภาพรวมจากการประมวลปัญหาเชิงโครงสร้างระยะยาว ที่มีความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจน ความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่เกิดจากการแบ่งชนชั้น การมีระบบอุปถัมภ์ ความไม่เท่าเทียมทางการศึกษา และปัญหายาเสพติด ซึ่งทางออกรัฐบาลต้องเร่งสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้น สร้างการมีส่วนร่วม จัดกิจกรรมเรียนรู้ประชาธิปไตย
นายยุทธพรกล่าวว่า ปัญหาความเคลือบแคลงในหลักนิติธรรม ที่ขาดองค์ความรู้ในการจัดการความขัดแย้งอย่างสันติ ความขัดแย้งแบบเดิมพันสูง ตุลาการภิวัฒน์แทรกแซงองค์กรอิสระ การกล่าวอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อประโยชน์ทางการเมือง การรัฐประหาร บทบาทของทหารในการจัดการความขัดแย้ง การขยายตัวของสื่อที่เลือกข้าง โดยเฉพาะสาเหตุเฉพาะหน้าที่พบว่าความขัดแย้งเกิดจากนักการเมือง ใช้อำนาจรัฐไม่เป็นธรรม แตกแยกทางความคิด การใช้ความรุนแรง ความไม่เป็นธรรมทางกฎหมาย ปล่อยให้ความขัดแย้งบานปลาย การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การแทรกแซงองค์กรอิสระ การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของสื่อ และการทำหน้าที่ของศาล ซึ่งต้องแก้ไขโดยการไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ใช้กำลัง งดการชุมนุม หยุดการปลุกระดม นักการเมืองร่วมเจรจาหาทางออก จัดเวทีเปิดช่องประชาชนแสดงความคิดเห็น แก้รัฐธรรมนูญสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน สื่อรับผิดชอบต่อการเสนอข่าว บังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม และเพิ่มโทษพวกกล่าวอ้างสถาบัน
ด้านนายสุขุมกล่าวว่า ลักษณะปัญหาเฉพาะหน้าพื้นฐานการทุจริตคอร์รัปชัน เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว และพวกพ้อง การเอารัดเอาเปรียบ ที่ต้นเหตุเกิดจากการขาดจิตสำนึก ถือเป็นตัวถ่วงประเทศมากที่สุด ภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีกระบวนการตรวจสอบอย่างเคร่งครัด ปลูกฝังภาคประชาชนร่วมตรวจสอบ เพิ่มบทลงโทษที่เด็ดขาด ปราบปรามอย่างจริงจังและต่อเนื่องเพื่อขจัดการโกงกิน ขณะที่ทางออกประเทศไทยกับการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า คนไทยจะต้องมีความรักและสามัคคีให้มากขึ้น เห็นประโยชน์ส่วนร่วมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว เคารพกฎหมาย หยุดใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา อย่างที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมเสนอให้มีสภาปฏิรูปการเมือง ทางออกประเทศไทย ซึ่งจะเป็นข้อมูลประกอบที่สำคัญ
นายธงทองกล่าวว่า แนวทางทั้งหมดสอดคล้องคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติและการศึกษาวิจัยของสถาบันพระปกเกล้า ที่ไม่ใช่สอดคล้องกับเวทีสภาปฏิรูปการเมืองของนายกฯ เท่านั้น เพราะความขัดแย้งเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องช่วยกันด้วยวิธีสันติ โดยเฉพาะนักการเมือง ทั้งนี้จะนำข้อสรุปทั้งหมดรายงานคณะกรรมการ ปคอป.ต่อไป
