"ไทกร" ยันกองทัพปชช.ไร้แผนจับตัว นายกฯ ปธ.สภาฯ เพิ่มล้มนิรโทษฯ ปัด สร้างเหตุป่วนพ.ร.บ.มั่นคงฯ ฝากแก๊งแดงอย่าก่อกวนเป็นมือที่ 3 แย้มวันนี้มีทีเด็ด ก่อนชุมนุมใหญ่ 7 ส.ค. บ่าย 3 เริ่มชุมนุมเป็นทางการ "อดุลย์" ตรวจเยี่ยมจนท.ที่ทำเนียบ ให้โอวาท ทำหน้าที่เต็มที่ รับมือกลุ่มฮาร์ดคอร์ อดทนการยั่วยุ ยึด กม. ใช้กำลังเบาไปหาหนัก อย่าปล่อยยึดทำเนียบฯ
วันนี้ ( 4 ส.ค.) นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ย้ำ ไม่มีแผนจับตัว นายกรัฐมนตรี รวมถึง ประธานสภาและรองประธานสภาคนที่ 1 และ 2 เพื่อล้มถกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่จะมีขึ้นในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ ขณะเดียวกัน ปฏิเสธไม่มีแผนรุกสร้างความโกลาหลใน 3 เขต ที่ประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง เพราะถูกสกัดกั้นจากอำนาจเถื่อนอยู่แล้ว ยืนยัน การชุมนุมของกองทัพประชาชนฯ จะไม่ทำให้เกิดความวุ่นวาย พร้อมฝากบอกไปยังกลุ่มเสื้อแดง อย่าสร้างความปั่นป่วนและก่อกวนการชุมนุม ด้วยการเตรียมจ้องเป็นมือที่ 3 อย่างไรก็ดี การชุมนุมในวันนี้ มีทีเด็ดก่อนจะรุกสู้ชุมนุมใหญ่ ในวันที่ 7 สิงหาคม อีกครั้ง
ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ได้เข้าสู่การเปิดการชุมนุมอย่างเป็นทางการ นำโดยพล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ อดีตรองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก พล.อ.ชูเกียรติ ตันสุวัฒน์ อดีตทหารคนสนิท พล.ต.มนูญกฤต พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี อดีตนายทหารนักบินกองทัพอากาศ นายพิเชฐ พัฒนโชติ อดีตรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 นายไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวอีสาน ซึ่งมีประชาชนเข้าร่วมประมาณ 2000 คน และ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน เป็นบุคคลพิเศษที่จะมาร่วมต่อสู้ ซึ่งแกนนำทั้งหมดได้ขึ้นเวทีปราศรัยกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่า นับตั้งแต่นาทีนี้จะเป็นเวลาเริ่มต้นแห่งการต่อสู้ระบอบทักษิณ
ด้านพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) พร้อมด้วยพล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ทำเนียบฯ ภายหลังจากรัฐบาลมีการประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ใน 3 เขต ประกอบด้วย ดุสิต พระนคร และป้อมปราบศัตรูพ่าย ตั้งแต่วันที่ 1 - 10 ส.ค.นี้
โดยพล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวให้โอวาทว่า การชุมนุมในประเทศไทยอาจมีความแตกต่างจากที่อื่น เพราะเป็นการชุมนุมทางการเมือง มีแกนนำ แนวร่วม และกลุ่มฮาร์ดคอร์พยายามที่จะก่อความรุนแรง ประเด็นนี้เราต้องเข้าใจ แต่ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถตามที่ได้ฝึกมาอย่างมั่นใจ และอดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุต่างๆ ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายเป็นหลักสำคัญที่ตนขอฝากไว้ ทั้งนี้ หลักปฏิบัติที่สำคัญคือหลักการใช้กำลัง โดยให้ยึดถือหลักปฏิบัติจากเบาไปหาหนัก ซึ่งทำเนียบฯถือเป็นจุดสำคัญของประเทศ เราต้องดูแลไม่ให้ผู้ชุมนุมมายึดหรือทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง ขอให้กำลังพลยึดมั่นในระเบียบวินัยด้วย
จากนั้นพล.ต.อ.อดุลย์ ได้มอบเงินบำรุงขวัญให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 9 กองร้อย กองร้อยละ 20,000 บาท รวมถึงผลไม้ อาหารแห้ง และเครื่องดื่มชูกำลัง
